ครีมแก้ผิวแห้ง ให้กลับมาชุ่มชื้น ยี่ห้อไหนดีปี 2023

การดูแลผิวและแก้ปัญหาผิวกิจวัตรในชีวิตประจำวันของเราทุกๆคน ซึ่งแต่ละคนมีวิถีชีวิตที่แตกต่างกันออกไป การป้องกันผิว ไม่ว่าออกข้างนอกหรืออยู่บ้าน สิ่งสำคัญในการป้องกันและดูแลผิวคือการทากันแดด การให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว ซึ่งการดูแลผิวต้องเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิว ไม่ว่าสภาพของแต่ละคนจะเป็นอย่างไร การเติมความชุ่มชื้นให้ผิว เพื่อลดการขาดน้ำและเกิดริ้วรอยเป็นสิ่งไม่ควรเพิกเฉยโดยเด็ดขาด

เมื่อพูดถึงการดูแลผิวหน้า สภาพของผิวหน้านั้นจะแบ่งได้หลายประเภท ทั้งผิวมัน ผิวผสม ผิวบอบบาง ผิวแห้ง มาดูกันว่าผิวแต่ละประเภทมีลักษณะอย่างไร

ประเภทของผิว

ผิวมัน

ผิวมัน คือ ผิวมีความมันเนื่องจากต่อมน้ำมันผลิตน้ำมันมากเกินไป ใบหน้ามีความมันวาว ผิวมีความเหนียวลื่น และรูขุมขนอุดตัน

ผิวผสม

ผิวผสม คือ ผิวที่มีทั้งความแห้งและมันผสมกัน พื้นที่ผิวจะแห้ง และจะมีความมันบริเวณ T-Zone คือหน้าผาก กลางหน้าผาก ลงไปจมูก จนถึงคาง

ผิวบอบบาง

ผิวบอบบาง คือ ผิวมีความระคายเคืองง่าย ใช้ผลิตภัณฑ์ต่างๆ จะเกิดผื่นแดงและระคายเคืองผิว

ผิวแห้ง

ผิวแห้ง คือ ความแห้งเกิดจากผิวหนังชั้นบนสูญเสียน้ำและน้ำมันตามธรรมชาติ ผิวมีความแห้งตึง ลอกเป็นขุย และดูหยาบกระด้าง

เมื่อกล่าวถึงปัญหาผิวในปัจจุบัน ปัญหาผิวแห้ง ขาดน้ำเป็นปัญหาที่พบกันบ่อยมาก ซึ่งอย่างที่กล่าวมาข้างต้นผิวแห้งเกิดจากผิวหนังชั้นบนสูญเสียน้ำและน้ำมันตามธรรมชาติ ส่งผลทำให้เกิดผิวแห้ง เป็นขุย ขรุขระ ไม่เรียบเนียน และส่งผลให้เกิดริ้วรอยได้ง่ายขึ้น จึงอยากชวนมาเรียนรู้ถึงสาเหตุและวิธีการป้องกันและรักษาผิวแห้ง

ผิวแห้งเกิดขึ้นจากหลายๆ ปัจจัย ไม่ว่าจะเป็นอายุที่เพิ่มมากขึ้นทำให้ต่อมน้ำมันทำงานลดลง และผิวไม่สามารถกักเก็บความชุ่มชื้นไว้ได้, แสงแดด และมลภาวะที่เกิดขึ้นในปัจจุบัน ควันพิษเอย ท่อไอเสียเอย หรือแม้แต่ฝุ่นขนาดเล็กต่างๆ, การดูแลผิวที่ไม่ถูกวิธี การใช้สบู่ที่ไม่เหมาะสม หรือการสครับผิวที่บ่อยเกินไป หรือการใช้สกินแคร์ที่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสาเหตุที่เกิดจากโรค เช่น โรคผิวหนัง โรคต่อมไทรอยด์

เราสามารถป้องกันและรักษาผิวแห้งด้วยวิธีหลากหลาย เช่น การดื่มน้ำอย่างน้อยวันละ 8 แก้วเป็นประจำ ไม่ควรเปิดแอร์เย็นเกินไป, ไม่อาบน้ำอุ่นที่อุ่นหรือร้อนเกินไป, ควรเลือกอาหารที่มีประโยชน์และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันอิ่มตัว, ควรควรเลือกสบู่ที่ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอม และไม่รุนแรงต่อผิว หรือควรใช้โลชั่นอย่างสม่ำเสมอ, เลือกใช้ครีมบำรุงให้เหมาะกับประเภทของผิว ยิ่งผิวแห้งควรเลือกประเภทที่ให้ความชุ่มชื้นกับผิวสูง, และอีกหนึ่งตัวช่วยที่น่าจะตอบโจทย์การดูแลผิวแห้งและการเติมความชุ่มชื้นให้ผิวคือเจลว่านหางจระเข้

เจลว่านหางจระเข้ หรือ Aloevera Gel อีกหนึ่งตัวช่วยที่ช่วยเรื่องผิวแห้ง ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้น และลดผิวอักเสบ ขอแนะนำเจลว่านหางจระเข้ 6 ยี่ห้อที่น่าสนใจและน่าจะตอบโจทย์คนผิวแห้งได้ไม่มากก็น้อย มาดูกันเลยว่ามี ยี่ห้อไหนบ้างที่น่าสนใจ

แนะนำเจลว่านหางจระเข้ที่เหมาะสำหรับคนผิวแห้ง

Burnova Gel

เจลว่านหางจระเข้ที่ค่อนข้างได้รับความนิยม และหาซื้อง่ายตามร้านค้าชั้นนำและร้านขายยาทั่วไป ช่วยใยเรื่องของการให้ความชุ่มชื้น และลดอาการผิวแห้งเป็นขุย จะมีส่วนผสมของว่านหางจระเข้ สารสกัดจากแตงกวา และใบบัวบก นอกจากช่วยเรื่องความชุ่มชื้นแล้ว ยังช่วยในเรื่องของการลดจุดด่างดำด้วย เนื้อเจลซึมไว ไม่เหนอะหนะ

ข้อดีของ Burnova Gel

ข้อเสียของ Burnova Gel

สเปคของ Burnova Gel

GPO Aloe Gel

เจลว่านหางจระเข้ขององค์กรเภสัชกรรม ค่อนข้างจะมีกลิ่นไปทางยานิดนึง เนื้อเจลค่อนข้างซึมช้าเล็กน้อย หาซื้อง่ายตามร้านขายยาทั่วไป เป็นสูตรที่เป็นว่านหางจระเข้ล้วนๆ เหมาะสำหรับผิวแพ้ง่าย ให้ความชุ่มชื้นแก่ผิว บางคนนิยมใช้ทารักษาแผลไฟไหม้ น้ำร้อนลวกอีกด้วย หากใครเป็นสายยาน่าจะรู้จักตัวนี้เป็นอย่างดี

ข้อดีของ GPO Aloe Gel

ข้อเสียของ GPO Aloe Gel

สเปคของ GPO Aloe Gel

THE FACESHOP jeju aloe Ice

เจลว่านหางจระเข้ที่ปราศจากสารเติมแต่งที่อาจจะเป็นอันตรายต่อผิว 5 ชนิด เช่น สารกันเสียพาราเบน มิเนอรัล ออยล์ เจลว่านหางจระเข้ที่เหมาะกับอากาศเมืองไทย ช่วยเติมน้ำให้ผิว และปลอบประโลมผิว เพิ่มความเย็นสดชื่น ด้วยการนำไปแช่ช่องแข็งในตู้เย็น เนื้อเจลคูลๆ สัมผัสบางเบาสบายผิว ทริคเล็กๆ ในการใช้คือแช่ freezer ประมาณ 4-7 ชม. มาส์กผิว 10-15 นาที แล้วล้างออก ตามด้วยขั้นตอนทาครีมบำรุงผิว หรือใช้ทาเป็น sleeping mask ก็ได้ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวตัวบ่อยตามต้องการ เจลเป็นเนื้อเชอร์เบส สีขาวค่อนข้างใช้เวลาในการซึมเข้าผิว

ข้อดีของ THE FACESHOP jeju aloe Ice

ข้อเสียของ THE FACESHOP jeju aloe Ice

สเปคของ THE FACESHOP jeju aloe Ice

SOQU Aloe Vera Soothing Gel

เจลสกัดว่านหางจระเข้ 99% เพิ่มความชุ่มชื้น ผิวดูอิ่มน้ำเนียนนุ่ม มีส่วนผสมจากน้ำแร่ธรรมชาติจากใต้ทะเลลึก ใช้บำรุงทั้งผิวหน้าและผิวกาย ใช้ได้กับทุกสภาพผิว สารสกัดจากว่านหางจระเข้ เพิ่มความชุ่มชื่น ผิวดูอิ่มน้ำเนียนนุ่ม มีส่วนผสมของน้ำแร่ธรรมชาติจากใต้ทะเลลึก มีวิตามินและแร่ธาตุต่างๆ รวมอยู่ด้วย เนื้อเจลไม่เหนียวเนอะหนะ ไม่มีพาราเบน ช่วยให้ผิวมีความความชุ่มชื้นและมีความอิ่มน้ำ

ข้อดีของ SOQU Aloe Vera Soothing Gel

ข้อเสียของ SOQU Aloe Vera Soothing Gel

สเปคของ SOQU Aloe Vera Soothing Gel

NNK Aloe Vera Soothing Gel

เจลว่านหางจระเข้ที่มีเนื้อเจลบางเบา ซึมไว มีส่วนผสมของว่านหางจระเข้และสารสกัดจากสาหร่ายทะเล เหมาะสำหรับผิวแห้ง และช่วยเรื่องอาการแสบร้อนจากแสงแดด มีความเย็นสบายผิว เติมน้ำและความชุ่มชื้นให้ผิว ไม่เหนี่ยวเหนอะหนะ ใช้ได้ทั้งผิวหน้าและผิวกาย White Aloe Vera Soothing Gel 99.5% – สามารถใช้พอกหน้า บำรุงผิวหน้า รักษารอยแผลเป็นจากสิว ใช้บำรุงผิวหน้าก่อนแต่งหน้า

ข้อดีของ NNK Aloe Vera Soothing Gel

ข้อเสียของ NNK Aloe Vera Soothing Gel

สเปคของ NNK Aloe Vera Soothing Gel

SMOOTO Aloe Vera

เป็นเจลว่านหางจระเข้ ผสมวิตามินอีและสารสกัดเมือกหอยทากจากธรรมชาติ มีไฮยาลูลอน บำรุงผิวขาดน้ำได้ดีมาก ช่วยเติมน้ำให้ผิว ตัวว่านหางจระเข้จะช่วยเรื่องผิวไหม้จากแสงแดดและมลภาวะ วิตามินช่วยเรื่องรอยแผลเป็น รอยสิวและจุดด่างดำดูจางลง เมือกหอยทากจะช่วยฟื้นบำรุงผิวให้แข็งแรง รูขุมขนกระชับ ลดการเกิดสิวผด สิวอุดตัน หน้าไม่เรียบ และไฮยาลูลอนช่วยในเรื่องการฟื้นบำรุงผิวแห้งกร้าน ผิวเป็นขุย ผิวขาดน้ำ และให้ความรู้สึกชุ่มชื้นผิว เนื้อเจลไม่เหนียวเหนอะ

ข้อดีของ SMOOTO Aloe Vera

ข้อเสียของ SMOOTO Aloe Vera

สเปคของ SMOOTO Aloe Vera

จากที่กล่าวข้างต้นจุดเด่นของเจลว่านหางจระเข้ คือ การให้ความความชุ่มชื้นแก่ผิว ลดอาการเผาไหม้ของผิวจากมลภาวะต่างๆ ฝุ่นควันเอย การเติมสารเครื่องสำอางลงบนผิวเอย การเลือกผลิตภัณฑ์ไม่เหมาะกับสภาพผิวเอย หากใครต้องประสบปัญหากับผิวแห้ง ขาดน้ำ เจลว่านหางจระเข้น่าจะเป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการเยียวยาผิวแห้งของทุกคน ผิวสวย ผิวดี ผิวฉ่ำน้ำล้วนเป็นความปรารถนาของทุกคน การดูแลนั้นนอกจากเลือกสิ่งที่ดีต่อผิวแล้ว ความสม่ำเสมอในการดูแล และเอาใจใส่ในทุกขั้นตอนในการดูแลย่อมส่งผลดีแก่ผิวของทุกคนแน่นอน มาบอกลาผิวแห้ง ต้อนรับผิวดีด้วยการเติมความชุ่มชื้น และเติมน้ำให้ผิวกันดีกว่า