5 ภาพยนตร์ DC Superhero กลับมารีเมคเมื่อไหร่ก็ปัง

ภาพยนตร์ในกลุ่มของ DC Comics หรือในจักรวาลดีซีผ่านการ์ตูนเป็นเล่มๆ ยังเป็นที่นิยมอยู่เสมอ และเป็นกลุ่มที่นิยมสูสีพอๆ กับจักรวาลมาร์เวล (Marvel Universe) ซึ่งจะเห็นได้ว่าภาพยนตร์เหล่านี้ล้วนเป็นภาพยนตร์ทำเงิน ทำรายได้มหาศาล แต่ขับเคี่ยวในเรื่องความดังของฮีโร่แต่ละคนดุเดือดมากพอสมควร ลองเดาสิว่า Marvel ทำอะไรในสิ่งเดียวกัน พวกเขามีตัวละครที่สกิลบางอย่างคัดลอกมาจาก DC อย่างกว้างขวางในสมัยนั้น ข้อแตกต่างเพียงอย่างเดียวคือ เมื่อ DC ใช้ในการคัดลอกเรื่องราวต่างๆ แม้แต่ฮีโร่บางตัวใน Marvel การปรับแต่งบทในภาพยนตร์ เทคนิคต่างๆ ในส่วนใหญ่ของพวกเขาค่อนข้างจะล้มเหลวในการประสานเสียง และในสายตาผู้ชมค่อนข้างมาก แต่จริงๆ แล้ว DC ก็มีความน่าสนใจและมีภาพยนตร์รีเมคที่สามารถทำเงิน กลับมาทำใหม่อีกครั้งก็ปังเหมือนเดิม แถมแจ้งเกิดก็เยอะมากทีเดียว

ทำไมต้องเป็น “ภาพยนตร์ DC Superhero”

จุดเด่นของภาพยนตร์ของ DC ส่วนมากมักจะเป็นเอกลักษณ์ของตัวละครนั้นที่แน่นอน นึกถึงฮีโร่ตัวไหนก็บางอ้อทันที แต่ส่วนของ Marvel นั้น ค่อนข้างจะหลากหลาย และเจาะกลุ่มชัดเจน โดยจุดเด่นของภาพยนตร์กลุ่ม DC นั้นมีจุดที่น่าสนใจอยู่มากมาย ต่อให้มองว่าเสียเปรียบกลุ่มฮีโร่ใน Marvel แต่สกิลถือว่าเน้นๆ ปังๆ มากเลยทีเดียว โดยในบทความนี้จะบอกว่าตัวชูโรงที่น่าสนใจของภาพยนตร์ DC Superhero มีอะไรบ้าง

ตัวเด็ดๆ มีชื่อเสียงกว่า

ตัวเด็ดๆ ที่ว่า มักจะเป็นตัวชูโรงและตัวโกยรายได้ในการถ่ายทำ หรือรายได้เข้าโรงทั่วโลก และสกิลของฮีโร่เหล่านั้นล้วนมีความชัดเจน พูดถึงพลังไหนจะนึกถึงตัวละครนั้นได้ไม่ยาก ไม่ว่าจะเป็น Batman, Superman, Green Lantern, Catwoman, Wonder Woman, The Flash ฯลฯ ซึ่งเป็นตัวที่ทำเงินให้กับทาง DC เยอะมากเลยทีเดียว นอกจากนี้กลับมารีเมคกี่รอบใครๆ ก็ต้องติดไม่ว่าจะปีไหนก็ตาม

การเล่าเรื่องของหนังที่ไม่เหมือนใคร

ด้วยตัวละคร DC ที่นำมาสร้างเป็นภาพยนตร์นั้น ส่วนมากมักจะเล่าเรื่องที่ฉีกแนวค่อนข้างมาก โดยจะเล่าไปถึงปูมหลังของตัวละครนั้นได้แยบยลมาก ซึ่งเล่าเรื่องได้ชนิดที่ว่า…ดูยันชาติหน้าก็พูดถึงกันไม่จบ เนื้อเรื่องอาจจะทำเป็นภาค ซ้ำๆ ก็สามารถเชื่อมต่อเหมือนหนังสือเรื่องหนึ่งก็รู้เรื่องเลยทีเดียว ในขณะเดียวกัน ไม่ได้เน้นขายตัวละครที่เป็นซูเปอร์ฮีโร่เพียงอย่างเดียว ยังขายตัวละครที่เป็นวายร้ายอย่าง Joker ที่ทำให้เป็นทั้งศัตรูของ Batman และเป็นตัวสำคัญใน Suicide Squad อีกด้วย

ฮีโร่ฝั่ง DC มีจำนวนเยอะกว่า

ด้วยตัวละครมากกว่า 10,000 ตัวใน DC Universe นี่เป็นรายการที่สมบูรณ์ที่สุดที่มีอยู่ ทำไมเป็นเช่นนั้น ก็เพราะว่าจากการประมาณการที่รู้จักกันในทางออนไลน์ มีตัวละคร DC Comics ประมาณ 10,000 ตัว ตัวละครที่ไม่ได้มีชื่อเสียงเท่ากันหมด แต่มีครบทั้งคลังรวมเหล่าฮีโร่ วายร้าย มนุษย์ มนุษย์ต่างดาว และตัวละครที่ไม่ใช่พลังพิเศษอื่นๆ ที่ปรากฏตัวในหนังสือการ์ตูนของ DC อีกด้วย

ถูกพูดถึงมากในทุกยุค

ตัวละครถูกพูดถึงเยอะจริงๆ ไม่ได้แค่เกาะกระแสใดๆ แต่การทำรีเมค หรือเล่าเป็นเรื่องราวที่เปลี่ยนไปด้วยฮีโร่ตัวเดิมๆ ทำให้จำตัวละครนั้นได้ง่ายมากกว่าสร้างเป็นจักรวาล นำกลับมาเล่าใหม่ ตีความใหม่ไปเรื่อยๆ แต่ทันสมัยชัดเจน จะเห็นได้จากการนำมาเล่าเรื่อง ขนาดผู้สูงอายุยังจำได้ ต้องปังขนาดไหนให้คิดดูเอาเลยละกัน และสามารถเล่าให้หลานฟังได้ ถือว่ากินขาดมากเหมือน “พี่อยู่มาทุกยุค” ของจริง

5 ภาพยนตร์ DC Superhero กลับมารีเมคเมื่อไหร่ก็ปัง

The Flash (2023)

IMG BY : youtube
ประเดิมเรื่องแรกสำหรับภาพยนตร์ The Flash เป็นภาพยนตร์ซูเปอร์ฮีโร่อเมริกันเรื่องใหม่ที่สร้างจากตัวละคร DC Comics ที่มีชื่อเดียวกัน ผลิตโดย DC Films, Double Dream และ The Disco Factory และจัดจำหน่ายโดย Warner Bros. Pictures ตั้งใจให้เป็นภาพยนตร์เรื่องที่สิบสี่ใน DC Extended Universe (DCEU) เขาได้รับพลังหลังจากหงุดหงิดและขว้างเครื่องจักรเล็กๆ ไปที่หน้าต่างห้องแล็บของเขา เครื่องเจาะทะลุหน้าต่าง เหลือรูให้ใหญ่พอที่สายฟ้าจะพุ่งเข้าใส่เขา ด้วยความเร็วเหนือแสงของเขาทำให้เขาสามารถปกป้องมวลมนุษย์ได้ในเวลาอันรวดเร็ว

จุดเด่นของ The Flash (2023)

The Flash ซึ่งเป็นตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ที่ไวชนิดความเร็วแสงยังเรียกพี่ เคยทำเป็นซีรีส์ออกฉายทางโทรทัศน์มายาวนาน โดยทำมา 8 ซีซั่น 167 ตอน ทำให้ใครๆ ยังจำภาพติดตาได้เป็นอย่างดี ถึงแม้ว่ายังไม่ได้ออกฉายอย่างเป็นทางการ แต่เป็นตัวละครที่รีเมคสักกี่ชาติ ก็ยังมีเนื้อเรื่องน่าติดตาม แถมถ่ายทอดออกมาได้ไม่เชย ในภาคซีรีส์ผู้รับบท The Flash คือ Grant Gustin ส่วนในภาคภาพยนตร์ ผู้รับบท The Flash คือ Ezra Miller อีกด้วย

รายละเอียดของ The Flash (2023)

Wonder Woman (2017)

IMG BY : engtest
อีกเรื่องที่ตัวละครฮีโร่เปรียบเหมือนตัวแทนของ Empowering Woman ที่แท้จริงอย่าง Wonder Woman หรือ Princess Diana เมื่อนักบินชนและเล่าถึงความขัดแย้งในโลกภายนอก Princess Diana เป็นหญิงสาวนักรบชาวอเมซอนที่กำลังฝึกอยู่ ได้ออกจากบ้านเพื่อต่อสู้กับสงคราม ค้นพบพลังและโชคชะตาที่แท้จริงของเธอ เกาะนี้ถูกทหารเยอรมันบุกเข้ามาในไม่ช้า ซึ่งไล่ตาม Steve รวมถึงชาวอเมซอนกวาดล้างกองกำลังยกพลขึ้นบกของเยอรมันด้วยการสูญเสียครั้งใหญ่ เผยให้เห็นว่ามหาสงครามกำลังกินโลกภายนอกและเขาคือสายลับของฝ่ายพันธมิตร ซึ่งเรื่องราวเหล่านี้ยังทำให้ได้เห็นพลังหญิงเปลี่ยนชะตาของโลกได้อย่างชัดเจนอีกด้วย Princess Diana ถือว่าเป็นตัวละครที่ชื่นชอบมาก

จุดเด่นของ Wonder Woman (2017)

กว่าจะได้ซูเปอร์ฮีโร่ฝ่ายหญิงนั้นแทบทุกเวอร์ชั่นมีการรีเมคมานานมาก ตั้งแต่ภาคซีรีส์ยันภาคภาพยนตร์ แม้แต่ภาคล่าสุดอย่าง Wonder Woman 1984 ในปี 2020 ถือว่าเป็นภาคที่น่าติดตามมากของตัวละครเหล่านี้ แต่ในบทความนี้จะขอเล่าในเนื้อหาของ Wonder Woman (2017) โดยผู้รับบท Princess Diana นั่นก็คือ Gal Gadot โดยเป็น Wonder Woman ที่สมบูรณ์แบบที่สุดเท่าที่ถ่ายทำมา เพราะเธอยังคงความทรงพลัง มีความเป็นนักรบ และมีความอ่อนหวานดังเจ้าหญิง แต่ไม่อ่อนแอ ซึ่งทำให้ Wonder Woman เป็นตัวละครที่ทำได้ไม่เชยเลยทีเดียว

รายละเอียดของ Wonder Woman (2017)

Batman v Superman: Dawn of Justice (2016)

IMG BY : youtube
ในจักรวาล Batman ถือว่าตั้งแต่เกิดยันลูกบวช Batman ก็ยังเล่าเรื่องออกมาได้หลากหลายมากในจักรวาล DC นั่นสื่อให้เห็นว่า รีเมคสักกี่ชาติก็ปัง เผลอๆ ละครเรื่องแม่นาคพระโขนง บ้านทรายทอง เมียหลวง ยังต้องชิดซ้ายให้กับ Batman โดย Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) โดยเล่าเรื่องของ Batman ด้วยความกลัวว่าการกระทำของ Superman จะไม่ถูกการสะสาง ในภาคนี้ Superman ยังคงสวมบท Man of Steel ในขณะที่โลกกำลังต่อสู้กับฮีโร่ที่มันต้องการจริงๆ ประชาชนทั่วไปกังวลว่าจะมีซูเปอร์แมนอยู่บนดาวของพวกเขาและปล่อยให้ “อัศวินรัตติกาล” Batman ไล่ตามถนนของก็อตแธม ในขณะที่สิ่งนี้กำลังเกิดขึ้น Batman ผู้กลัวอำนาจพยายามโจมตี Superman ระหว่างนั้น ซูเปอร์แมนพยายามตัดสินในการตัดสินใจ ส่วน Lex Luthor อาชญากรผู้บงการและมหาเศรษฐี พยายามใช้ข้อได้เปรียบของตัวเองเพื่อต่อสู้กับ “บุรุษเหล็ก” อย่าง Superman และยังมี Wonder Woman มาในภาคนี้ด้วย

จุดเด่นของ Batman v Superman: Dawn of Justice (2016)

แทบทุกภาคของ Batman ส่วนมากมักจะดำเนินเรื่องราวแบบ Nemesis หรือเล่าเรื่องแบบคู่แค้นมากกว่าที่เล่าปูมหลังของฮีโร่ตัวนั้น แต่ใน Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) ถือว่าพิเศษกว่าภาคอื่นๆ เพราะจะเล่าถึงเก่งกับเก่งมาเจอกัน ผู้ที่รับบท Superman คือ Henry Cavill ส่วน Batman คือ Ben Affleck โดยทั้งคู่เป็นดารานักแสดงมากฝีมือ ชนิดที่หาจับตัวยากมากในฮอลลิวูด และยิ่งมี Gal Gadot ที่เป็น Wonder Woman ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้มีสีสันมากขึ้น และ ใน Batman v Superman: Dawn of Justice (2016) พูดถึงมากในประเทศไทยอีกด้วย

รายละเอียดของ Batman v Superman: Dawn of Justice (2016)

Aquaman and the Lost Kingdom (2023)

IMG BY : thehollywoodmirror
ถ้าตัดประเด็นร้อนของนางเอกของเรื่องอย่าง “Amber Heard” จากคดีฟ้องหย่าครั้งใหญ่ในวงการ Aquaman and the Lost Kingdom (2023) เป็นอีกเรื่องที่เล่าเรื่องของ Aquaman จากภาคแรกได้เป็นอย่างดี ซึ่งเนื้อเรื่องยังคงเล่าเรื่องเกี่ยวกับแอตแลนติส หรือเมืองใต้ท้องทะเลไม่ต่างจากภาคแรก ซึ่ง Aquaman เป็นราชาแห่งแอตแลนติสผู้สามารถว่ายน้ำด้วยความเร็วเหนือเสียงและสื่อสารกับสัตว์น้ำได้ และเริ่มมีการตีความขึ้นมาใหม่อย่างชัดเจน ให้มีความแตกต่างจากภาคแรก และมีการเล่าเรื่องที่แตกต่างจาก Comics ชัดเจนอีกด้วย แต่เรื่องราวจะเป็นยังไง ให้ไปติดตามเองดีกว่า

จุดเด่นของ Aquaman and the Lost Kingdom (2023)

ใน Aquaman and the Lost Kingdom (2023) ก็ยังคงเป็น Jason Momoa เหมือนเดิม เพิ่มเติมคืออาจจะมีการเปลี่ยนบทบาทบางส่วนในบทของ Amber Heard ที่รับบทเป็น Princess Mera จากคดีอื้อฉาวดังกล่าว รวมถึงจะมีการปรับบทในช่วง COVID-19 เข้ามา ซึ่งส่งผลต่อการถ่ายทำมากพอสมควร จะว่าไปเราก็ยังดีใจที่ Jason Momoa ยังคงเป็น Aquaman ที่ตีความได้ไม่มีเบื่อ แม้ว่าจะเห็นใน Comics ส่วนใหญ่ก็ตาม

รายละเอียดของ Aquaman and the Lost Kingdom (2023)

The Suicide Squad (2021)

IMG BY : moviehd222
ปิดท้ายที่ภาพยนตร์ที่มีการรีเมคบ่อยมากอย่าง The Suicide Squad (2021) หรือชื่อภาษาไทยว่า “ทีมพลีชีพมหาวายร้าย” โดยจัดตั้งทีมที่รวมวายร้ายของ DC เพื่อให้มีสมาชิกเป็นอาชญากรอันตราย โดยใช้ชื่อว่า “Suicide Team” เพื่อใช้ต่อต้านภัยคุกคามโลก แถมยังตีความจากศัตรูของ Batman อย่าง Joker ให้มาเป็นตัวละครที่บ้าระห่ำ ลดความดาร์กในทางจิตเวชลงอย่างชัดเจน รวมถึงมี Harley Quinn ที่เป็นตัวเอกของเรื่องในฐานะอดีตจิตแพทย์สติหลุด ผู้เป็นคนรักที่ทุ่มเทให้ทุกอย่างเพื่อ Joker เข้ามามีบทบาทในเรื่องนี้อีกด้วย ถือว่าน่าเสียดายที่ในภาคนี้กลายเป็นภาพยนตร์ขาดทุน ทั้งที่เป็นตัวละครใน DC ที่นิยมมาปัดฝุ่นเล่าใหม่ไม่ต่างจากฮีโร่ตัวอื่นๆ เลย

จุดเด่นของ The Suicide Squad (2021)

ใน The Suicide Squad (2021) ถือว่าเป็นภาพยนตร์ที่รีเมคบ่อยมาก ถ้าใครจำ Suicide Squad (2016) , Birds of Prey (2020) จนมาถึงภาคล่าสุด ก็ยังเล่าเรื่องของ Harley Quinn เป็นตัวเดินเรื่องและ Suicide Team อยู่เหมือนเดิม แต่การแคสตัวละครต้องบอกตรงๆ ว่าทุกคนทำให้อัศจรรย์ใจเวลาไปดูมาก เรียกได้ว่าถูกกล่าวถึงในโลกโซเชียลมีเดีย และสื่อต่างๆ ที่ยกนิ้วให้กับการแสดงของ Margot Robbie ที่รับบทเป็น Harley Quinn ชนิดที่ตีบทแตกจนได้ใจคนดูมากๆ

รายละเอียดของ The Suicide Squad (2021)

เป็นไงบ้างสำหรับ 5 ภาพยนตร์ของ DC Superhero ที่นิยมนำมารีเมคเยอะมาก จริงๆ แล้วมีหลายเรื่องที่รีเมคบ่อยมาก แต่ในกลุ่มนี้มีการรีเมคค่อนข้างบ่อย และทำให้ตัวละครในเรื่องที่รีเมคถูกพูดถึงมาก แม้แต่ตอนนี้ก็ยังเล่าขานกันไม่จบแม้ว่าภาพยนตร์จะจบไปแล้วก็ตาม ซึ่งทำให้รู้ว่า DC Superhero ไม่ได้ขายแค่ตัวละครฮีโร่เพียงอย่างเดียว ก็ยังขายตัวละครที่เป็นตัวร้าย และสร้างชื่อ พูดถึงบ่อยๆ เยอะมาก อย่างไรก็ตามการรีเมคภาพยนตร์เหล่านี้จะขึ้นตรงกับ DC Films เป็นค่ายผลิตภาพยนตร์สัญชาติอเมริกันที่เป็นส่วนหนึ่งของ Warner Bros. Pictures ซึ่งเป็นสตูดิโอภาพยนตร์หลักภายใต้การดูแลของ Warner Bros. ที่ทุ่มเทให้กับการผลิตภาพยนตร์จากตัวละครจาก DC Comics Walter Hamada เป็นประธานคนปัจจุบันของ DC Films ซึ่งถ่ายทอดเนื้อหาได้น่าสนใจ เล่าเรื่องได้โดดเด่น เหมือนเล่าตัวละครนั้นออกมา โดยที่ไม่เน้นเปลี่ยนไปมา บางอย่างมันกลายเป็นภาพจำไปโดยปริยายสำหรับคนที่ชื่นชอบ ซึ่ง 5 ภาพยนตร์ของ DC Superhero เป็นภาพยนตร์ที่ผู้เขียนชื่นชอบมากเลยทีเดียว