ขนมโบราณประเทศเกาหลี อร่อยอย่าบอกใครเลย

อาหารและเครื่องดื่ม

IMG BY mayokorea.com

สวัสดีคุณผู้อ่านทุกท่านนะครับ วันนี้มาเอาใจผู้ที่ชอบทานขนมหวานกันโดยเฉพาะเลย เพราะวันนี้ผมจะมาแนะนำขนมโบราณจากประเทศเกาหลีให้ท่านผู้อ่านได้ทำความรู้จักกันครับ หากใครที่คิดจะไปประเทศเกาหลีและไม่รู้ว่าจะเลือกทานขนมหวานอะไร ก็ขอให้บทความนี้ช่วยท่านได้บ้าง ขึ้นชื่อว่าประเทศเกาหลีก็คงรู้กันดีอยู่และว่ามีวัฒนธรรมที่เก่าแก่ยาวนาน และแน่นอนว่าเรื่องของอาหารก็ต้องมีประวัติความเป็นมาที่ยาวนานเช่นกัน หากท่านผู้อ่านอยากทราบแล้วว่าที่มาที่ไปของขนมหวานที่ขึ้นชื้อในประเทศเกาหลีเป็นยังไงและจะมีขนมอะไรบ้างก็ตามมาดูกันได้เลยครับ

อินจอลมี (인절미)

ขนมอินจอลมี

Img by www.akerufeed.com

มาเริ่มกันด้วยขนมอย่างแรกกันเลยนะครับเป็นขนมที่มีลักษณะเป็นก้อนแป้งสีเหลืองนั้นก็คือ ขนม อินจอลมี (인절미) นั้นเอง อินจอลมีเป็นแป้งต็อกแบบต่าง ๆ หรือเรียกอีกชื่อหนึ่งว่าเค้กข้าวเกาหลี ทำโดยการนึ่ง และโขลกแป้งข้าวเหนียวซึ่งถ้าทำเสร็จออกมาแล้วจะมีรูปร่างเป็นชิ้นเล็ก ๆ แค่เพียงมองด้วยสายตาก็รู้ได้แล้วว่าตัวขนมจะมีความนุ่ม และมักจะนำไปคลุกด้วยผงถั่วแห้ง หรือส่วนผสมอื่น ๆ กล่าวได้ว่าขนมอินจอลมี เป็นตัวแทนของข้าวเหนียว ที่มีหลายแบบขึ้นอยู่กับชนิดของโกมุลที่ใช้เคลือบเค้กข้าว สามารถทำด้วยผงถั่วเหลือง แห้ง, ถั่วอะซูกิหรือเมล็ดงาก็สามารถนำมาคลุกได้ หรือจะนำผลไม้มาใช้เป็นตัวเคลือบก็ได้ เช่น พุทราหั่นแห้ง อินจอลมี ไม่เพียงแต่เป็นขนมยอดนิยมเท่านั้นแต่ยังมีประโยชน์ต่อสุขภาพอีกด้วยเพราะย่อยง่าย และมีคุณค่าทางโภชนาการ อินจอลมีสามารถเก็บไว้ในตู้เย็นและนำออกมารับประทานได้ ถ้าถูกทำให้ร้อนเล็กน้อยในไมโครเวฟมันก็จะมีความอร่อยเกือบเท่าของที่ทำใหม่เลยละครับ

และเพราะความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของอินจอลมี อินจอลมีจึงถูกนำมาดัดแปลง ทานคู่กับขนมหวานหลากหลายมากมายเลยละครับ โดยที่เรามักจะพบกันบ่อย ๆ ก็คือเมนูขนมหวาน อินจอลมีบิงซู แล้วท่านผู้อ่านทราบหรือไม่ว่า บิงซูนั้นถือว่าเป็นเมนูของหวานดับร้อนยอดฮิตของคนในประเทศเกาหลีใต้เลยละครับ เพราะรสชาติของขนมที่หวาน อร่อย เย็นชื่นใจ ยิ่งทานคู่กับอินจอลมีด้วยล่ะก็ จะอร่อยจนแทบวางช้อนไม่ลงกันเลยที่เดียว

จุดเด่นของ ขนมอินจอลมี

  • เป็นขนมโบราณจากประเทศเกาหลีแท้
  • ความอร่อยที่เป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัว มีความพิเศษตรงที่เนื้อแป้งสัมผัสจะนุ่มนิ่มและเหนียวหนึบมากกว่าแป้งต็อกทั่วๆไป
  • สามารถนำมาดัดแปลงทานคู่กับขนมหวานได้หลากหลาย เช่น อินจอลมีบิงซู หรือ นำไปคลุกกับผงถั่วเหลืองและน้ำตาลทรายป่นเพื่อเพิ่มรสชาติให้หอมหวานยิ่งขึ้น

ขนมคยองดัน (경단)

ขนมคยองดัน (경단)

Img by sites.google.com

ต้องบอกก่อนเลยว่าขนมของประเทศเกาหลีจะนิยมใช้ข้าวมาเป็นส่วนผสมนะครับเนื่องด้วยประเทศเกาหลีสามารถปลูกข้าวได้เพราะฉะนั้นชาวเกาหลีจึงนิยมนำทรัพยากรภายในประเทศมาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดโดยการแปรรูปเป็นขนมหวานชนิดต่าง ๆ และที่ผมจะมาแนะนำนี้ก็เป็นอีกหนึ่งขนมหวานที่ทำจากข้าวด้วยเช่นกันนั้นก็คือ ขนมคยองดัน เป็นขนมที่มีลักษณะคล้ายกับขนมดังโงะของญี่ปุ่น ที่พอนวดออกมาแล้วจะเรียกว่าแป้งต็อก นำมานวดแล้วปั้นเป็นลูกกลมๆ ก่อนจะนำไปต้มในน้ำเดือด มาสีสันที่ชวนให้น่าทานหลากหลายขึ้นอยู่กับส่วนประสมที่ใช้เคลือบบนชั้นนอกสุด นอกจากนี้ ขนมคยองดัน ยังมีอีกสองแบบคือ 팥경단 (พัตคยองดัน) ที่ทำจากถั่วแดงบด และ 밤경단 (พัมคยองดัน) ที่ทำจากเกาลัดที่นำมาบดแล้วนำไปต้ม

แนะนำให้รับประทานพร้อมกับซูจองกวา จะทำให้ท่านผู้อ่านรู้สึกสดชื่น และจะทำให้เกิดผลดีต่อสุขภาพเนื่องจากขนมคยองดันทำจากแป้งข้าวเหนียวซึ่งย่อยยาก ในขณะที่ซูจองกวามีส่วนผสมของขิงและอบเชยซึ่งช่วยให้ระบบเผาผลาญและระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น เมื่อรับประทานร่วมกันแล้วจึงไม่หนักท้องจนเกินไปท่านใดมีโอกาสได้เดินทางไปเที่ยวที่ประเทศเกาหลีผมก็แนะนำให้ลองรับประทานกันดูนะครับ

จุดเด่นของ ขนมคยองดัน (경단)

  • เป็นขนมโบราณพื้นเมืองจากประเทศญี่เกาหลีแท้
  • ให้เนื้อสัมผัสที่นุ่มละมุนด้วยเนื้อสัมผัส และกลิ่นที่หอมของถั่ว
  • ทำให้ท่านผู้อ่านรู้สึกสดชื่น และทำให้เกิดผลดีต่อสุขภาพเมื่อทานคู่กับซูจองกวาซึ่งช่วยให้ระบบเผาผลาญและระบบย่อยอาหารมีประสิทธิภาพมากขึ้น

ขนมฮวาจอน (화전)

ขนมฮวาจอน (화전)

Img by www.akerufeed.com

มาดูขนมหวานที่ทำจากข้าวเหนียวกันอีกอย่างหนึ่งนะครับต้องบอกเลยว่าขนมชนิดนี้เค้าไม่ได้กินกันได้ทุกช่วงเวลานะครับแต่เค้ามีการรับประทานกันตามฤดู และนี้ก็คือขนมฮวาจอนนั้นเอง บอกก่อนเลยว่าถ้าคุณเห็นหน้าตาขนมชนิดนี้แล้วจะต้องชอบในความสวยงามจนไม่กล้าทานกันเลยทีเดียว โดยที่ขนมชนิดนี้มีส่วนผสมของแป้งข้าวเหนียว น้ำผึ้ง และดอกไม้ที่เราสามารถรับประทานได้ เช่น ดอกยี่โถ และที่สำคัญเค้ามักจะทานกันในช่วยเทศกาลSamjinnal และวันประสูติของพระพุทธเจ้า โดยดอกไม้ที่ใช้รับประทานบนขนมฮวาจอนนี้จะมีการเปลี่ยนไปในแต่ละฤดู เช่น ฤดูใบไม้ผลิ จะใช้ ดอกยี่โถ, ดอกต้นแพร, ดอกซากุระ ฤดูร้อน จะใช้ ดอกกุหลาบ ฤดูใบไม้ร่วง จะใช้ ดอกเบญจมาศ, ดอกหงอนไก่ และฤดูหนาว จะใช้ ใบจิงจูฉ่าย, ใบผักชีล้อม, หรือพุทรา ตัดเป็นกลีบดอกไม้แทน

ส่วนวิธีการทำแบบดั้งเดิมของเกาหลีนั้นต้องนำเค้กข้าวมาตกแต่งด้วยกลีบดอกชวนชม ซึ่งสามารถรับประทานได้ โดยนำไปล้าง ทำความสะอาดก่อนทีละกลีบ ซับให้แห้ง ติดไว้ที่ด้านบนของแป้ง และนำไปทอดในกระทะแบนจนแป้งสุก ฮวาจอนเป็นของหวานที่นอกจากหน้าตาจะดูน่ารัก น่าทานเป็นพิเศษแล้ว รสชาติยังหอม หวาน อร่อย มาก ๆ อีกด้วยครับ

จุดเด่นของ ขนมฮวาจอน (화전)

  • มีส่วนผสมที่หลากหลาย เช่น แป้งข้าวเหนียว น้ำผึ้ง และดอกไม้ที่เราสามารถรับประทานได้
  • หน้าตาจะดูน่ารัก น่าทานรสชาติยังหอม หวาน อร่อย
  • มีการทานเป็นช่วงเทศกาลที่จะทำให้ได้กลิ่นไอแบบเกาหลีมากขึ้น

ขนมยักกวา (약과)

ขนมยักกวา (약과)

Img by /twitter.com/wwangsnacks_/status

หลังจากที่ได้พาท่านผู้อ่านไปทำความรู้จักขนมเกาหลีมาสามชนิดแล้วจะเห็นว่าตัวขนมจะมีความนุ่มเป็นส่วนใหญ่ ที่นี้ผมจะพาไปดูขนมที่มีความกรอบหน้าตาคล้ายคุกกี้ที่เราคุ้นเคยกันบ้างนะครับ บอกก่อนเลยว่าประวัติที่มาก็ไม่ธรรมดาเหมือนกันกับ ขนมยักกวา จัดเป็นขนมดั้งเดิมของเกาหลีที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน มีลักษณะเป็นรูปดอกไม้ คนเกาหลีเริ่มทานและทำขนมชนิดนี้กันอย่างแพร่หลายตั้งแต่ยุคโชซอน (조선) ทั้งในชิลลา (신라) และใน โครยอ(고려) โดยปัจจุบันมักรับประทานในช่วงเทศกาลชูซอง, พิธีแต่งงาน และงานฉลองอายุ 60 ปี
ขนมยักกวา (약과) คำว่า “ยัก” (약) แปลว่ายา ดังนั้น ขนมชนิดนี้จัดว่าเป็นขนมสมุนไพรชนิดหนึ่ง เพราะมีน้ำผึ้งเป็นส่วนผสม และคนเกาหลีสมัยก่อนเชื่อว่า น้ำผึ้งดีต่อสุขภาพจึงนิยมทำขนมชนิดนี้ทานกัน นอกจาก น้ำผึ้งแล้ว ขนมยักกวา (약과) ยังมีส่วนผสมอื่นๆ ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายด้วย เช่น น้ำผึ้ง น้ำมันงา และน้ำขิง ไวย์ขาว และที่ขาดไม่ได้คือแป้งสาลี วิธีทำคือผสมแป้งสาลี และน้ำมันงาให้เข้ากัน กรองด้วยกระชอน ผสมน้ำผึ้ง น้ำขิง ไวน์ขาวให้เข้ากัน นำไปผสมกับส่วนแรก นำไปแช่เย็นแล้วนำมากดกับพิมพ์รูปดอกไม้ และทอดในน้ำมัน คลุกด้วยน้ำเชื่อม ก็เป็นอันเสร็จแล้วครับ

จุดเด่นของ ขนมยักกวา (약과)

  • จัดเป็นขนมดั้งเดิมของเกาหลีที่มีประวัติศาสตร์มายาวนาน
  • เป็นขนมมงคลใช้ในฝานพิธีต่าง ๆ เช่น เทศกาลชูซอง, พิธีแต่งงาน และงานฉลองอายุ 60 ปี
  • มีรสชาติหวาน หอม กรอบ และรูปดอกไม้สวยงามน่าทานมีประโยชน์ต่อร่างกายเพราะมีน้ำผึ้งเป็นส่วนผสม

ขนมดาชิก (다식)

ขนมกางจอง (강정)

Img by www.akerufeed.com

มาดูของหวานที่ทำจากธัญพืชกันบ้างนะครับกับ ขนมทาชิก (다식) เป็นของหวานที่นิยมกินหลังมื้ออาหาร กินคู่กับชา หรือจะเรียกว่าคุ้กกี้เกาหลีก็ได้ ทำจากแป้งข้าวเหนียวนวดผสมกับธัญพืช เช่น ต้นสน เกาลัด ถั่วเหลือง งาดำ โอมีจา หรือสมุนไพรอื่นๆ และน้ำผึ้ง จากนั้นนำแป้งไปกดใส่พิมพ์ไม้ ก่อนจะนำไปอบ ใครที่ชอบขนมที่ทานคู่กับน้ำชาร้อง ๆ ต้องชอบนขนมชนิดนี้แน่นอน โดยที่แป้งธัญพืชเหล่านี้จะให้สีของขนมที่แตกต่างกันไปหลากหลายสี มีทั้งสี เหลือง ชมพู ดำ สีเขียว และสีขาว เดิมทีแล้ว ขนมดาชิกเกิดขึ้นมากว่า 1,600 ปีแล้วจากประเทศอินเดีย โดยที่พิมพ์ของขนมดาชิกมักจะเป็นชื่อแต่ละครอบครัว เพราะมีความเชื่อว่าเป็นการอวยพรให้ครอบครัวนั้น ๆ มีอายุที่ยืนยาว

จุดเด่นของ ดาชิก (다식)

  • ทำจากแป้งข้าวเหนียวนวดผสมกับธัญพืชมีประโยชน์ต่อร่างกาย และมีผลดีต่อสุขภาพ
  • มีความเชื่อว่าเป็นการอวยพรให้ครอบครัวนั้น ๆ มีอายุที่ยืนยาว
  • เป็นของหวานที่นิยมกินหลังมื้ออาหาร ทำให้เกิดความรู้สึกดีเมื่อกินคู่กับน้ำชา

ขนมกางจอง (강정)

ขนมซงพยอน (송편)

Img by 59-65-15.blogspot.com

มาดูขนมหวานที่เหมาะสำหรับคุณผู้อ่านที่รักษาสุขภาพเพราะขนมชนิดนี้เป็นขนมหวามที่มีแคลลอรีต่ำ เนื่องจากทำมาจากธัญพืช ชื่อขนมก็คือขนมกางจอง (강정)นั้นเอง ขนมนี้ทำมาจากข้าวเหนียว น้ำผึ้ง และมอลต์ ที่นำไปต้มแล้ว และผสมกับธัญพืชต่างๆ เช่น ถั่วลิสง ถั่วสน ลูกเกด และงา นิยมมากในงานสำคัญอย่างงานแต่งงาน พิธีไหว้บรรพบุรุษ และ วันซอลลัล ต้องบอกคุณผู้อ่านให้ทราบก่อนว่าวันซอลลัลคือวันปีใหม่ตามปฏิทินจันทรคติ หรือวันปีใหม่ของชาวเกาหลีนั่นเองในทุกๆ ปี จะอยู่ในช่วงประมาณเดือนกุมภาพันธ์ ในปี 2016 ตรงกับวันที่ 8 กุมภาพันธ์ และชาวเกาหลีเองจะหยุดยาวตั้งแต่วันที่ 7-10 กุมภาพันธ์ ทุกคนจะกลับบ้านไปอยู่กับครอบครัวทำพิธีเคารพบรรพบุรุษ มีงานเลี้ยงและมีกิจกรรมทำร่วมกัน ซึ่งกิจกรรมหนึ่งที่นิยมเล่นกันเพื่อความสนุกสนานก็คือ เล่นหมากเก็บ หรือที่นั่นเรียกว่า คงกี (공기) นั่นเองครับ
นอกจากจะมีการทำขนมกางจองชาวเกาหลียังรวมถึงจะนิยมกิน ต็อกกุก (떡국) แป้งต็อกในน้ำซุปกระดูกวัว และ ต็อกมันดูกุก (떡만두국) ในวันแรกของปีด้วย เพื่อชีวิตสดใส มั่งคั่ง และร่ำรวยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยทรัพย์นั้งเองครับ

จุดเด่นของ ขนมกางจอง (강정)

  • เป็นขนมในพิธีมงคลในประเทศเกาหลี
  • ตัวขนมมีสีสันหลากหลายหน้าตาน่าทาน
  • ขนมมีรสชาติที่หวานหอม และรักษาสุขภาพเพราะขนมชนิดนี้เป็นขนมหวามที่มีแคลลอรีต่ำ เนื่องจากทำมาจากธัญพืช

ขนมซงพยอน (송편)

ขนมซงพยอน (송편)

Img by candychanbaek.wordpress.com

เดินทางมาจนถึงขนมชนิดสุดท้ายในวันนี้กันแล้วนะครับกับ ขนมซงพยอน (송편) หรือรียกอีกชื่อว่า ขนมซงเพียง เป็นของหวานที่นิยมกินในช่วงฤดูใบไม้ร่วง และช่วงเทศกาลวันชูซอก ทำจากแป้งต็อกห่อด้วยไส้ด้านในคือถั่วแดง ถั่วเหลือง เกาลัด พุทรา งา และน้ำผึ้ง ปั้นเป็นรูปพระจันทร์เสี้ยว แล้วนำไปนึ่ง โดยใส่ใบสนลงไปด้วยเพื่อเพิ่มความหอม และเพื่อเพิ่มกลิ่นสดชื่นของขนม สาเหตุที่ต้องปั้นขนมให้เป็นรูปพระจันทร์ครึ่งเสี้ยวก็เพราะเทศกาลชูซอกคือเทศกาลวันไหว้พระจันทร์นั่นเอง
ขนมชนิดนี้ในตอนรับประทานคนเกาหลีส่วนมากมักจะกล่าวคำอธิษฐานในสิ่งที่ต้องการ หากท่านผู้อ่านทานไหนมีโอกาสได้ทานก็อย่าลืมขอพรจากพระจันทร์นะครับ เพราะคำอธิษฐานั้นอาจจะเป็นจริงขึ้นมาก็ได้

จุดเด่นของ ขนมซงพยอน (송편)

  • เป็นขนมมงคล มีความเชื่อว่าหากอวยพรแล้วจะได้สมหวังดั้งที่ตั้งใจ
  • เป็นขนมหวานที่มีความ หอม มันจากถั่วแดง ถั่วเหลือง เกาลัด พุทรา และได้รับความเหนียวนุ่มจากแป้งต็อกเกาหลี

บทส่งท้าย
ก็จบลงไปแล้วนะครับสำหรับขนมโบราณในประเทศเกาหลี เป็นยังไงกันบ้างครับมีแต่ขนมหน้าตาน่าทานกันทั้งนั้นเลยเรียกได้ว่ามีความสวยงามจากภายนอก มีความอร่อยภายใน แถมยังมีประวัติความเป็นมาของขนมที่น่าสนใจ หากท่านผู้อ่านมีโอกาสได้ไปที่ประเทศเกาหลีก็ขอให้บทความนี้ช่วยเหลือท่านในการเลือกทานขนมเกาหลีนะครับ สุดท้ายนี้ผมขอบคุณผู้อ่านทุกท่านที่เขามาอ่านบทความนี้ ผมจะมีความสุขมากหากบทความนี้มีประโยชน์กับทานผู้อ่าน ก่อนจากกันไปผมอยากจะฝากความห่วงใยมาให้ท่านผู้อ่านที่ชอบทานขนมหวาน เพราะเมื่อร่างกายได้รับน้ำตาลมากเกินไปก็อาจจะทำให้เราเสี่ยงเป็นโรคเบาหวานได้ ถึงแม้ว่าจะมีธัญพืชเป็นส่วนประกอบแต่ส่วนผสมส่วนใหญ่ของขนมเกาหลีนั้นเป็นแป้งจึงมีความหวานและน้ำตาลสูง ก็ขอให้ทานแต่พอควรนะครับ ด้วยความปรารถนาดีจากผู้เขียน

Jack

สวัสดีครับผม Stingyjack นะครับ อายุ 22 ปี มีเวลาว่างจากการทำงานประจำ จึงมาเป็นนักเขียนมือใหม่ให้กับเว็บไซต์ FAV a good time เนื่องจากที่ผมรักการอ่านหนังสือหลายประเภทจึงทำให้ผมอยากถ่ายทอดสิ่งต่าง ๆ ที่ได้อ่านออกมาเป็นตัวหนังสือเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อท่านผู้อ่านให้มากที่สุด สุดท้ายนี้ผมขอฝากเนื้อฝากตัว และบทความดี ๆ ไว้กับผู้อ่านทุกท่านด้วยนะครับ

Profile