สถานที่เที่ยวแนะนำจังหวัดบึงกาฬ
สวัสดีครับคุณผู้อ่านทุกท่านเรากับมาพบกันอีกครั้งนะครับวันนี้ผมมาพร้อมกับอีกหนึ่งจังหวัดที่หน้าเที่ยวมากเป็นอันดับต้น ๆ ของประเทศไทยละครับนั้นก็คือจังหวัดบึงกาฬนั้นเองครับเป็นจังหวัดที่ตั้งอยู่ทางตอนบนของภาคอีสานหากคุณผู้อ่านได้ไปเที่ยวรับรองว่าต้องกลับไปเที่ยวอีกรอบเป็นแน่ครับ โดยสถานที่เที่ยวที่นิยมไปกันก็มีมากมาย แถมบรรณยากาศก็ดีด้วยเหมาะกับการพักผ่อนมากเลยละครับ จังหวัดบึงกาฬเป็นจังหวัดที่มีสภาพแวดล้อมที่สมบูรณ์ แวดล้อมไปด้วยภูเขาและน้ำตกที่สวยงาม เช่น น้ำตกเจ็ดสี, น้ำตกตากชะแนน ที่อยู่ภายในเขตรักษาพันธ์สัตว์ป่าภูวัว พื้นที่ส่วนใหญ่ในจังหวัดเป็นที่ราบลุ่มครับ สภาพภูมิอากาศก็ดีเพราะได้อิทธิพลจากแม่น้ำโขงทำให้อากาศไม่ร้อนมากในช่วงถดูร้อน ในฤดูหนาวอากาศดีเหมาะแก่การท่องเที่ยวและพักผ่อนโดยเฉพาะในช่วงเทศกาลสำคัญจังหวัดบึงกาฬมักจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาจองห้องพักต่อเนื่อง และทั้งหมดนี้หากท่านผู้อ่านอยากทราบว่าที่จังหวัดบึงกาฬจะมีที่ไหนที่ควรไปเที่ยวกันบ้างก็อย่ารอช้าเชิญตามไปดูกันได้เลยครับ
สารบัญ
หินสามวาฬ บึงกาฬ
Img bytravel.trueid.net
เรามาเริ่มกันด้วยการไปชมพระอาทิตย์ขึ้นที่ หินสามวาฬ หนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวชื่อดังในเขต ป่าสงวนแห่งชาติป่าดงดิบกะลา ป่าภูสิงห์ และ ป่าดงสีชมพู ซึ่งเป็นแหล่งรวมผาหินรูปทรงแปลกตา และถ้ำอันน่าพิศวง ในส่วนของ หินสามวาฬ นั้นจะมีลักษณะเป็นผาหิน 3 ก้อนเรียงออกจากกัน มองแล้วก็คล้ายกับครอบครัวปลาวาฬ มีทั้งพ่อวาฬ แม่วาฬ ลูกวาฬ เรียงกันไป สันนิษฐานแล้วก็คาดว่าจะมีอายุราว 75 ล้านปีเลยทีเดียวครับ ใครที่มีโอกาสได้มาเยือนบนผาหินแห่งนี้ต้องเตรียมกล้องมาให้พร้อม เพราะข้างบนนี้วิวสวยมากกก นอกจากจะเป็นจุดชมวิวพระอาทิตย์ขึ้นที่สวยงามมากๆ แล้ว เรายังสามารถเห็นทิวทัศน์ของป่าเขาในเขตของ ป่าภูวัว แก่งสะดอก ห้วยบังบาตร หาดทรายแม่น้ำโขง รวมถึง ภูเขาเมืองปากกระดิ่ง ประเทศลาว อีกด้วย เรียกว่าเป็นการเดินทางที่คุ้มค่าสุดๆ ไปเลยครับ แต่ผมขอแนะนำท่านผู้อ่านให้ไปตอนที่พระอาทิตย์กำลังไต่ระดับขึ้นมาที่ขอบฟ้านะครับ เราจะได้เห็นแสงสีส้มของพระอาทิตย์ไล่เฉดสีกันอย่างสวยงามเลยทีเดียว
กิจกรรมแนะนำภายใน หินสามวาฬ บึงกาฬ
ชมหินสามวาฬท่านผู้อ่านจะต้องขับรถที่พร้อมจะลุยเพราะเส้นทางที่ไปนั้นดินจะค่อนข้างแคบและชันพอสมควร แต่ถ้าใครไม่อยากขับรถขึ้นไปเองก็มีรถให้บริการนะครับจอดให้บริการอยู่บริเวณที่ทำการภูสิงห์ ตั้งแต่ 05.30-17.00 น. โดยมีค่าบริการคันละ 500 บาท (ไป-กลับ) รถสามารถนั่งได้ถึง 10 คน และจะใช้เวลาในการขับรถขึ้นไปประมาณ 30-40 นาที จากจุดตรวจด้านล่างครับ นอกจาก จุดชมวิว หินสามวาฬ แล้วที่ ป่าภูสิงห์ แห่งนี้ยังมีที่เที่ยวรอบๆ อีกนะครับ ไม่ว่าจะเป็น จุดชมวิวถ้ำฤๅษี จุดชมวิวหินหัวช้าง กำแพงภูสิงห์ หัวใจภูสิงห์ เป็นต้น โดยสามารถแวะได้ทุกจุด บางจุดรถจะสามารถไปได้ถึง แต่บางจุดต้องใช้เวลาเดินเท้าเข้าไป และบางจุดก็ต้องใช้เจ้าหน้าที่นำทางเข้าไป ใครที่อยากจะเที่ยวเก็บให้ได้ทั้งหมดก็ต้องแพลนตารางกันดีๆ ด้วยนะครับ
ที่อยู่ | บ้านนนไทรทอง ตำบลโคกก่อง อำเภอเมืองบึงกาฬ จังหวัดบึงกาฬ |
---|---|
เปิดให้เข้าชม | 05.30-17.00 น. |
โทร | ไม่ระบุ |
เว็บไซต์ | ไม่ระบุ |
ถ้ำนาคา บึงกาฬ
Img bysiamrath.co.th
ตำนานพญานาค เป็นเรื่องของความเชื่อ ความศรัทธา ที่ผูกพันกับวิถีชีวิตของคนไทยมาอย่างยาวนานนะครับ โดยเฉพาะในภาคอีสาน ที่จะมีสถานที่ศักดิ์สิทธิ์ต่างๆ ซึ่งเกี่ยวข้องกับ พญานาค อยู่มากมาย และหนึ่งในนั้นก็คือที่นี่ครับถ้ำนาคา บึงกาฬ ถ้ำสวย Unseen สุดลึกลับ ใน อุทยานแห่งชาติภูลังกา ถ้ำนาคา เป็นถ้ำที่ตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ อุทยานแห่งชาติภูลังกา อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ และตั้งอยู่ใกล้กับ วัดถ้ำชัยมงคล ความสวมงามแปลกตาของที่นี่กก็คือ รูปทรงของหินขนาดใหญ่ ที่มีรูปร่างเหมือน งูยักษ์ หรือ พญานาค นั่นเอง ทำให้ถ้ำแห่งนี้ เป็นแหล่งท่องเที่ยวอีกแห่งสำหรับคนที่ชอบธรรมชาติ และเรื่องลึกลับ ภายในถ้ำ จะพบกับหินที่มีรูปร่างคล้ายกับลำตัวของพญานาค ซึ่งถ้ามองไปจะคล้ายๆ กับเกล็ดของงูขนาดใหญ่ และปกคลุมไปด้วยมอสสีเขียว ดูสวยงาม แต่ก็น่าพิศวงด้วยเช่นกัน นอกจากนี้ ยังมีการพบหินที่มีลักษณะเหมือนเป็นส่วนหัวของงูยักษ์ในบริเวณที่ไม่ไกลกันมากจากตัวถ้ำอีกด้วยครับ
กิจกรรมแนะนำภายใน ถ้ำนาคา บึงกาฬ
สำหรับคุณผู้อ่านที่ต้องการไปเที่ยวชมความสวยงามของถ้ำนาคา ต้องจองเข้าอุทยานฯ ล่วงหน้าได้ที่ แอป QueQ ควรแต่งกายให้ทะมัดทะแมง เนื่องจากต้องเดินขึ้นบันไดสูงชันถึง 1,400 ขั้น และใช้เวลาเดินประมาณ 1 ชั่วโมงครึ่งเลยครับ และไม่นานมานี้ได้มีที่ให้เที่ยวชมใหม่ โดยทางทีมสำรวจได้ทำการค้นพบ ส่วนหัวพญานาคแห่งที่ 2 โดยหินตรงนี้จะมีลักษณะคล้ายกับหัวงูยักษ์ และมีเกล็ดที่เห็นเด่นชัด เรียกได้ว่าน่าอัศจรรย์ใจมากๆ โดยส่วนหัวพญานาคที่ 2 นี้ ตั้งอยู่ในเส้นทางเดินธรรมชาติ หน่วยพิทักษ์ฯ พระธาตุเจดีย์ อยู่ระหว่าง ยอดเจดีย์กองข้าวศรีบุญเนาว์ ไปยอดเจดีย์พระอาจารย์เสาร์ เจดีย์หลวงปู่วังครับ
ที่อยู่ | อุทยานแห่งชาติภูลังกา บ้านดงชมภู อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ |
---|---|
เปิดให้เข้าชม | สามารถสอบถามได้จากอุทยานฯ ึ้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ |
โทร | 08-4792-3505 , 0-4253-0766 |
เว็บไซต์ | https://www.facebook.com/PhulangkaTH/ |
น้ำตกตาดวิมานทิพย์ บึงกาฬ
Img bywww.sanook.com
เราดูถ้ำกันไปแล้วมาดูน้ำตกกันบ้างนะครับต้องบอกก่อนว่าแต่ละสถานที่ก็เหมาะสมกับคนในแต่ละวัยนะครับ อยากให้ท่านผู้อ่านประเมินร่างกายของตัวเองด้วยนะครับว่าไหวหรือเปล่า และถ้าพูดถึงน้ำตกที่มีชื่อเสียงของจังหวัดบึงกาฬก็ต้อง น้ำตกตาดวิมานทิพย์นี้แหละครับเพราะว่าเป็นน้ำตกที่มีขนาดสูงใหญ่ กว้าง 150 เมตร และสูงถึง 70 เมตร การเดินทางเข้าไปยังตัวน้ำตกค่อนข้างลำบากสักหน่อย เพราะต้องมีการบุกป่าฝ่าดงไม่น้อย จึงต้องมีเจ้าหน้าที่นำทางไปด้วยเพื่อความปลอดภัยนะครับแต่เมื่อไปถึงแล้ว ก็จะพบว่าบรรยากาศรอบๆ น้ำตกมีความสวยงามและร่มรื่นมาก เต็มไปด้วยพันธุ์ไม้เขียวชอุ่ม และจะสวยที่สุดในช่วงฤดูน้ำหลาก เพราะปริมาณน้ำจะมีมากจนเราสามารถเห็นมวลน้ำมหาศาลไหลลงจากขุนเขามาแต่ไกลเลยทีเดียว บรรยากาศโดยรอบของ น้ำตกตาดวิมานทิพย์ จะถูกล้อมไปด้วยภูเขาและป่าไม้สีเขียวสดที่มีความชุ่มชื้น อุดมสมบูรณ์มากๆ มองไปทางไหนก็จะเจอแต่ความสดชื่นของต้นไม้ น้ำตกของที่นี่ พึ่งจะเป็นที่รู้จักได้ไม่นานมากนัก และที่สำคัญเลยคือ จะมีน้ำหลังจากฝนตกเพียงเท่านั้นนะครับ ยิ่งฝนตกอย่างหนัก ยิ่งจะมีสายน้ำที่สวยงามครับ ถ้าตกปรอยๆ อาจจะทำให้ไม่มีน้ำไหลเลยก็ได้ เพราะน้ำจากน้ำตกนี้เป็นสายน้ำที่ไหลลงมาจากบนภูเขาหินทราย ไม่มีบริเวณหลุมหรือบ่อที่คอยกักเก็บน้ำเอาไว้ให้น้ำตกไหลตลอด ทำให้ต้องช่วงหน้าฝนและวันที่มีฝนตกหนักเท่านั้น ถึงจะได้เห็นน้ำตกสวยๆ
กิจกรรมแนะนำภายใน น้ำตกตาดวิมานทิพย์ บึงกาฬ
เดินทางชมธรรมชาติในป่าที่มีพรรณไม้นานาชนิด เดินทางลุยป่าบนเส้นทางที่ท้าทาย ชมน้ำตกตาดวิมานทิพย์ ผมแนะนำว่าก่อนเดินทางไปทุกครั้ง ให้โทรสอบถามเจ้าหน้าที่อุทยานฯ ล่วงหน้าประมาณ 1 วันก่อนเดินทางไปว่ามีน้ำหรือไม่นะครับ เพราะไม่ได้มีอยู่ให้เห็นตลอดเวลาครับและเนื่องจากการเดินทางเข้าชม น้ำตกตาดวิมานทิพย์ จะต้องเป็นช่วงหลังฝนหนักๆ เท่านั้น ทำให้การเดินทางจะค่อนข้างอันตรายและท้าทายมากๆ ด้วยความเป็นป่าเขา จะมีตะไคร่น้ำที่เกาะบริเวณหินแล้ว ที่ทางการเข้าถึงก็ยังค่อนข้างลำบากอยู่ เนื่องจากยังไม่ได้มีการพัฒนาจากหน่วยงานฯ อย่างเป็นทางการครับ
ที่อยู่ | อุทยานแห่งชาติภูลังกา บ้านดงสว่าง ตำบลโพธิ์หมากแข้ง อำเภอบึงโขงหลง จังหวัดบึงกาฬ |
---|---|
เปิดให้เข้าชม | สามารถสอบถามได้จากอุทยานฯ ึ้ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศ |
โทร | 08-4792-3505 , 0-4253-0766 |
เว็บไซต์ | https://www.facebook.com/PhulangkaTH/ |
วัดเจติยาคีรีวิหาร บึงกาฬ
Img bytravel.trueid.net
มาต่อกันด้วย วัดเจติยาคีรีวิหาร หรือ วัดภูทอก ตั้งอยู่ในบริเวณ ภูทอก ซึ่งเป็นเขาโดดเดี่ยวอยู่ 2 ลูกด้วยกัน ได้แก่ ภูทอกใหญ่ และ ภูทอกน้อย ส่วนที่เปิดให้พวกเราเข้าไปเยี่ยมชมได้ก็คือ ภูทอกน้อย มีการสร้างสะพานไม้และบันไดวนรอบๆ ภูทอกแบบ 360 องศา รวมทั้งหมด 7 ชั้น แต่ละชั้นเราก็จะได้เห็นทิวทัศน์ของธรรมชาติที่แตกต่างกันไป อีกทั้งยังเปรียบเสมือนการเดินขึ้นสู่แดนสวรรค์ และจบด้วยการหลุดพ้นจากทางโลกซึ่งต้องมาจากการเพียรพยายามของคนที่เดินขึ้นไปถึงชั้นบนสุด ซึ่งวัดนี้ถือเป็นวัดที่มีบรรยากาศอันเงียบสงบ เหมาะแก่การบำเพ็ญสมณะธรรมของพระภิกสุ สามเณร และพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นอย่างมาก จุดเด่นของ วัดภูทอก ก็คือ สะพานไม้ และบันไดรอบๆ ภูทอก ที่จะใช้แค่เพียงบันได วนไปมา แบบ 360 องศา เลยทีเดียว มีทั้งหมดกว่า 7 ชั้น ใช้เวลาสร้างนานถึง 5 ปี โดยบันไดแต่ละชั้นจะแตกต่างกันไป จากชั้น 3 ถึง ชั้น 6 จะสามารถเดินเวียนรอบได้ ส่วนชั้นที่ 5 ถึง ชั้น 7 จะจัดให้เป็นแดนสวรรค์ ที่ต้องสำรวมระวังกาย วาจา และหรือสวดมนต์ไปด้วย ซึ่งว่ากันว่าจะได้บุญนั่นเองครับ
กิจกรรมแนะนำภายใน วัดเจติยาคีรีวิหาร บึงกาฬ
ท่านผู้อ่านจะสามารถมองเห็นวิวที่แตกต่างกันไปเรื่อยๆ จากมุมของบันไดที่ทอดขึ้นสู่ยอด ภูทอก นี้เปรียบเสมือนเป็นเส้นทางแห่งธรรม ที่ทำให้พ้นโลกแห่งโลกียะ สู่โลกแห่ง โลกุตระ หรือโลกแห่ง การหลุดพ้นครับ เพราะต้องใช้ความเพียรพยายาม และความมุ่งมั่น กว่าที่จะได้ขึ้นมาสู่ ภูทอก แห่งนี้ได้ ได้ ท่องเที่ยวเชิงพุทธรักษ์ คือ การท่องเที่ยวในเชิงการแสวงบุญ นั่นเอง และนักท่องเที่ยวที่มาเยือนที่นี่ นอกจากจะได้เที่ยวชมธรรมชาติแล้ว ก็ยังได้ศึกษาพุทธศาสนาไปพร้อม ๆ กันอีกด้วยครับ ไฮไลท์ ของ วัดภูทอกคือที่ชั้นที่ 6 เป็นจุดชมวิวที่สวยที่สุดเพราะ ตลอดทางเดินจะเป็นหน้าผายื่นออกมา หน้าผาแต่ละจุดก็จะมีชื่อที่แตกต่างกันออกไป เช่น ผาเทพนิมิตร ผาเทพสถิต ผาหัวช้างครับ แนะนำให้ไปช่วงหน้าหนาวนะครับจะเห็นหมอกลอยเคว้งอยู่ด้านล่างทำให้รู้สึกเหมือนได้อยู่บนสวรรค์จริง ๆ
ที่อยู่ | บ้านคำแคน ตำบลนาแสง อำเภอศรีวิไล จังหวัดบึงกาฬ |
---|---|
เปิดให้เข้าชม | 08.30-17.00 น. |
โทร | ไม่ระบุ |
เว็บไซต์ | ไม่ระบุ |
น้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ
Img bywww2.edtguide.com
มาถึงสถานที่สุดท้ายที่จะมาแนะนำกันแล้วนะครับที่นี้ก็คือ น้ำตกถ้ำพระ หรือที่มีอีกชื่อเรียกว่า น้ำตกถ้ำพระภูวัว ตั้งอยู่ในบริเวณ เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าภูวัว บ้านถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ เป็นน้ำตกขนาดใหญ่ 3 ชั้น ที่ไหลอยู่บนภูเขาหินทรายขนาดใหญ่ โดยชั้นแรก จะเป็นธารน้ำตกไหลลดหลั่นลงสู่แอ่งน้ำกว้าง ในบริเวณนี้น้ำจะค่อนข้างลึก ควรเล่นน้ำอย่างระมัดระวังนะครับ ในส่วนของชั้นที่ 2 นั้น จะเป็นลำธารหลายสาย มีน้ำไหลแรง แต่แอ่งน้ำจะตื้นไม่ลึกมาก นักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เลยนิยมมาเล่นน้ำที่ชั้นนี้ครับ โดยจะมีไฮไลท์ของ น้ำตกถ้ำพระ ที่อยู่ที่ชั้นนี้ เรียกว่า สไลเดอร์ธรรมชาติ นั่นเอง คือ แนวร่องน้ำที่ไหลไปตามโขดหิน ที่เราสามารถสไลด์ตัวลงมาตามร่องน้ำได้อย่างสนุกสนาน
กิจกรรมแนะนำภายใน น้ำตกถ้ำพระ บึงกาฬ
เล่นสไลเดอร์สุดมันส์ที่ชั้น 2 ของ น้ำตกถ้ำพระ มีสไลเดอร์ธรรมชาติให้นักท่องเที่ยวสไลด์ตัวลงมาจากแนวร่องน้ำตามโขดหิน ก่อนจะไหลลงสู่แอ่งน้ำกว้างใหญ่เบื้องล่าง น่าสนุกสุดๆ แถมบรรยากาศรอบๆ ก็เต็มไปด้วยธรรมชาติและป่าเขา ยิ่งถ้าขึ้นไปที่ชั้น 3 แล้วก็จะเห็นน้ำตกไหลลงมาจากผาเป็นสายน้ำสีขาว สวยงามอลังการมาก ๆ ครับ นอกจากเล่นน้ำแล้วก็ยังได้ชมธรรมชาติที่สวยงามแถมยังเก็บรูปถ่ายสวย ๆ กลับไปได้อีกด้วยครับ
ที่อยู่ | น้ำตกถ้ำพระ บ้านถ้ำพระ ตำบลโสกก่าม อำเภอเซกา จังหวัดบึงกาฬ |
---|---|
เปิดให้เข้าชม | 08.00-17.00 น. |
โทร | 0-85761-6096 |
เว็บไซต์ | https://www.facebook.com/thamprawaterfall/ |
เป็นอย่างไรกันบ้างครับอ่านแล้วอยากไปเที่ยวที่ไหนครับมีทั้งวัด ถ่ำหิน น้ำตก เรียกได้ว่าถ้าไปจังหวัดบึงการจังหวัดเดียวก็ได้เที่ยวครบเลยครับ สำหรับท่านที่ชอบท่องเที่ยวแบบสายธรรมชาติพจนภัยคาดว่าคงถูกใจมิใช้น้อย แต่ต้องขอเตือนก่อนนะครับว่าการที่เราไปท่องเที่ยวในสถานที่เป็นธรรมชาติแบบนี้ต้องคำนึงถึงเรื่องสุข๓พเป็นสำคัญนะคัรบถ้าไม่ไหวอย่าบอกไหว แต่ให้พักนะครับ สุดท้ายนี้ผมก็หวังว่าบทความนี้จะเป็นเหมือนแนวทางที่ทำให้ท่านผู้อ่านได้ใช้ในการตัดสินใจที่จะไปท่องเที่ยวในจังหวัดบึงกาฬนะครับขอให้ทุกท่านเดินทางปลอดภัยและมีความสุขกับการท่องเที่ยวนะครับ