ทำความรู้จักกับเมืองอีสานใต้ บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ

Img by i-san.tourismthailand.org
เมืองอีสานใต้เสน่ห์สุดล้ำเหลือที่ใคร ๆ ได้มาสัมผัสแล้วจะตกหลุมรักเข้ากับความน่ารักของทั้งผู้คน ประเพณีวัฒนธรรม อาหาร และบรรยากาศอันแสนอบอุ่นอย่างแน่นนอน สำหรับบทความนี้นะคะเราจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับ 3 จังหวัดของภาคตะวันออกเฉียงเหนืออย่าง บุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ 3 จังหวัดทางภาคอีสานของเราโดยในบทความนี้นั้นจะเป็นการเล่าถึงข้อมูลโดยทั่วไปของจังหวัดทั้งสภาพภูมิประเทศ สภาพอากาศ ภาษาที่ใช้ในการสื่อสาร แถมยังพ่วงมาด้วยการแนะนำสถานที่สำหรับการท่องเที่ยว ประเพณีวัฒนธรรมและร้านอาหารรสชาติเด็ดโดนใจในจังหวัดนั้นเพื่อเอาใจสำหรับสายที่ชื่นชอบในการท่องเที่ยวและสรรหาร้านอาหารอร่อย ๆ ของจังหวัดนั้น ๆ สำหรับสายท่องเที่ยวที่ตามอ่านบทความนี้นั้นรับรองว่าคุณได้ไปในสถานที่ ๆ เป็นจุดเช็คอินสุดฮิตของคนในจังหวัดแน่นอนแถมยังได้ภาพสวย ๆ เอาไว้ไปลงอวดเพื่อนในโซเชียลด้วยนะคะ เล่ามาขนาดนี้แล้วลำดับต่อไปเราจะพาเพื่อน ๆ ทุกคนเดินทางไปทำความรู้จักกับทั้ง 3 จังหวัดผ่านตัวอักษรกันเลย โดยเริ่มที่จังหวัดแรกคือบุรีรัมย์จะมีเรื่องราวอะไรที่น่าสนใจและตื่นเต้นขนาดไหนนั้น เพื่อน ๆ สามารถอ่านตามเนื้อหาด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ

ทำความรู้จักจังหวัดบุรีรัมย์

Img by nsightoutstory.com
บุรีรัมย์เดี๋ยวนี้เลิกตำน้ำกิน ท้องฟ้าก็มีนกบิน บนดินก็มีข้าวเหนียว สาวสวยแก้มเรื่อไม่เชื่อก็ลองมาเที่ยว อีสานกำลังสีเขียวขอเชิญมาเที่ยวบุรีรัมย์ ผ่านมาอีสานเชิญแวะบ้านหมู่เฮา ปวดหนักปวดเบาแวะกินข้าวกินน้ำ ตัวดำแต่ใจขาวนั่นหนอชาวบุรีรัมย์ เช้าสายบ่ายค่ำก็ไม่เคยตำน้ำกิน บทเพลงคุ้นหูวัยเด็กของชาวบุรีรัมย์ซึ่งบอกเล่าถึงการดำเนินชีวิตคนในสมัยก่อนของเมืองแป๊ะหรือในนามจังหวัดบุรีรัมย์ที่เป็นที่รู้จักกันในบุคคลทั่วไปเกริ่นกันมายาวขนาดนี้วันนี้เราจะพาเพื่อน ๆ มาทำความรู้จักกับจังหวัดบุรีรัมย์ฉบับย่อ ๆ แบบเข้าใจง่ายสไตล์เจ้าถิ่นเนื่องจากที่นี้เป็นจังหวัดบ้านเกิดของเราเองส่วนจะมีเรื่องราวไหนที่น่าสนใจบ้างนั้นตามอ่านด้านล่างนี้ได้เลยค่ะ
อย่างแรกเราต้องรู้ก่อนว่าจังหวัดบุรีรัมย์นั้นเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งมีขนาดใหญ่เป็นอันดับที่ 17 ของประเทศไทยมีอาณาเขตทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดขอนแก่น จังหวัดมหาสารคาม และจังหวัดสุรินทร์ ทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดสุรินทร์ ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดสระแก้ว และประเทศกัมพูชา ทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดนครราชสีมา

ภูมิประเทศของจังหวัดบุรีรัมย์

พื้นที่ส่วนใหญ่เป็นที่ราบสูงโดยมีลักษณะภูมิประเทศที่สำคัญดังนี้ ทางตอนใต้จะเป็นพื้นที่สูงและภูเขา ตอนกลางของจังหวัดเป็นพื้นที่ลูกคลื่นลอนตื้น และตอนเหนือเป็นพื้นที่ราบลุ่มริมฝั่งแม่น้ำมูล

สภาพภูมิอากาศของจังหวัดบุรีรัมย์

เป็นที่รู้ ๆ นะคะว่าประเทศไทยของเรานั้นมี 3 ฤดู คือ ร้อน ร้อนมาก และร้อนสุด ๆ เฮ้ยไม่ใช่ค่ะ มี 3 ฤดู คือ ร้อน ฝน และหนาว จังหวัดบุรีรัมย์ก็เป็นเช่นนั้นค่ะแต่ที่เพิ่มเติมมาคือหน้าร้อนจะร้อนแบบอบอ้าวและแห้งแล้งมาก ส่วนหน้าฝนจะมีเรื่องของพายุลมแรงบ้างแล้วแต่พื้นที่ ส่วนหน้าหนาวก็อุณหภูมิลดต่ำลงไม่แพ้ภาคเหนือเลยนะคะ

ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารของจังหวัดบุรีรัมย์

เรื่องของภาษาก็มีหลากหลายเช่นกันค่ะแล้วแต่พื้นที่เลยมีทั้งพูดภาษาไทยกลางทั่วไป ภาษาไทยโคราช ภาษาอีสาน ภาษาเขมร แต่ที่จะใช้สื่อสารหลัก ๆ ก็จะมีภาษาไทยกับภาษาลาวค่ะ

ประเพณีสำคัญของจังหวัดบุรีรัมย์

ประเพณีขึ้นเขาพนมรุ้งจะจัดขึ้นช่วงวันเสาร์ อาทิตย์แรกของเดือนเมษายนซึ่งจะมีกิจกรรมต่าง ๆ มากมายที่เป็นการอนุรักษ์วัฒนธรรมโบราณ เช่น ขบวนแห่ การแสดงแสงเสียง การแสดงระเบิดภูเขาไฟจำลอง เป็นต้น แถมยังมีปรากฏการณ์สำคัญที่เกิดขึ้นเป็นประจำทุกปี คือ เราจะสามารถมองเห็นดวงอาทิตย์ลอดผ่านช่องประตูของปราสาทพอดีนับเป็นภาพที่สวยงามและหาชมยากเลยทีเดียว สำหรับเพื่อน ๆ คนไหนอยากมาสัมผัสกับบรรยากาศที่สวยงามแบบนี้ก็อย่าลืมวางแผนตารางงานและเวลาเที่ยวให้ดี ๆ ด้วยนะคะแล้วเจอกันค่ะ

สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดบุรีรัมย์

อุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งที่เที่ยวแห่งแรกที่บ่งบอกถึงประวัติศาสตร์ของจังหวัดบุรีรัมย์เพื่อน ๆ คนไหนมาแล้วไม่แวะเที่ยวบอกเลยว่าคุณมาไม่ถึงบุรีรัมย์แน่นอนโดยอุทยานประวัติศาสตร์พนมรุ้งนี้ตั้งอยู่ที่อำเภอเฉลิมพระเกียรติ ซึ่งห่างจากตัวเมืองบุรีรัมย์ประมาณ 77 กิโลเมตร อีกหนึ่งสถานที่ยอดฮิตเลยคือสนามฟุตบอลช้างอารีน่า หรือที่ชาวบุรีรัมย์เรียกสั้น ๆ ว่าสนามช้างแหล่งเช็คอินอันดับต้น ๆ ของคนต่างถิ่นที่ชื่นชอบในกีฬาฟุตบอลและเป็นแฟนบอลของทีมบุรีรัมย์ยูไนเต็ด เพื่อน ๆ คนไหนกำลังมองหาสถานที่เที่ยวในจังหวัดบุรีรัมย์อยู่ลองเที่ยวตามที่เราแนะนำได้นะคะ

ร้านอาหารที่แนะนำ

หนึ่งตำนานสำหรับอาหารของจังหวัดบุรีรัมย์เลยคือลูกชิ้นยืนกินหน้าสถานีรถไฟบุรีรัมย์ ที่เนื้อลูกชิ้นนั้นนุ่มแน่นไม่เหมือนใครแถมมาด้วยน้ำจิ้มพริกเผารสพิเศษและอีกหนึ่งเอกลักษณ์คือการยืนจิ้มกินหน้าร้านขายลูกชิ้นแบบนับไม้ไม่ถ้วนกันเลยทีเดียว

ทำความรู้จักจังหวัดสุรินทร์

Img by travel.kapook.com
สุรินทร์ถิ่นช้างใหญ่ ผ้าไหมงาม ประคำสวย ร่ำรวยปราสาท ผักกาดหวาน ข้าวสารหอม งามพร้อมวัฒนธรรม คำขวัญของจังหวัดนั้นบ่งบอกถึงของดีของเด่นต่าง ๆ ของจังหวัดมากมายวันนี้เราจึงจะพาเพื่อน ๆ มารู้จักกับสภาพภูมิประเทศโดยทั่วไปของจังหวัดและเจาะลึกถึงจุดดีจุดเด่นมากมายโดยลำดับแรกเราต้องรู้กันก่อนว่าจังหวัดสุรินทร์นั้นเป็นจังหวัดหนึ่งในภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่างที่มีวัฒนธรรมโดดเด่นหลากหลายเนื่องจากมีผู้คนหลายเผ่าพันธุ์ อีกทั้งจังหวัดสุรินทร์มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดต่าง ๆ อันได้แก่ ทิศเหนือจะติดต่อกับจังหวัดร้อยเอ็ด และจังหวัดมหาสารคาม ทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดศรีสะเกษ ทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดบุรีรัมย์ ทิศใต้ติดต่อกับจังหวัดอุดรมีชัยประเทศกัมพูชา เกริ่นกันมายาวขนาดนี้ต่อไปเราไปทำความรู้จักกับข้อมูลทั่วไปของจังหวัดสุรินทร์กันดีกว่าว่าจะมีข้อมูลอะไรน่าสนใจบ้างตามอ่านกันได้เลย

ภูมิประเทศของจังหวัดสุรินทร์

จังหวัดสุรินทร์มีเนื้อที่ประมาณ 8,124 ตารางกิโลเมตร ซึ่งลักษณะภูมิประเทศเป็นดังนี้ คือบริเวณที่ติดต่อกับประเทศกัมพูชาจะมีป่าทึบและภูเขาสลับซับซ้อนถัดจากบริเวณภูเขาจะเป็นที่ราบสูงลุ่ม ๆ ดอน ๆ ลักษณะเป็นลูกคลื่นลอนลาด บริเวณตอนกลางของจังหวัดจะเป็นที่ราบลุ่มเป็นส่วนใหญ่และมีที่ราบสูงอยู่บางส่วน ด้านเหนือของจังหวัดนั้นจะเป็นที่ราบลุ่มแม่น้ำไหลผ่านค่ะ

สภาพภูมิอากาศของจังหวัดสุรินทร์

สำหรับสภาพอากาศในจังหวัดสุรินทร์นั้นจะคล้ายคลึงกับจังหวัดบุรีรัมย์เลยค่ะคือ มี 3 ฤดู คือ ร้อน ฝน และหนาว เนื่องจากมีอาณาเขตของจังหวัดที่ติดต่อกันทำให้สภาพภูมิอากาศมีความใกล้เคียงกัน

ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารของจังหวัดสุรินทร์

จะมีภาษาเขมร ภาษาส่วย ภาษาลาวและภาษาไทยค่ะแต่หลัก ๆ นั้นจะใช้ภาษาไทยและภาษาลาวในการสื่อสาร ซึ่งจะมีภาษาเขมรปนมาบ้างแล้วแต่พื้นที่ค่ะ

ประเพณีสำคัญของจังหวัดสุรินทร์

งานช้างและงานกาชาดจังหวัดสุรินทร์สำหรับงานนี้นั้นจะจัดขึ้นประมาณกลางเดือนพฤศจิกายนของทุกปี โดยภายในงานนี้จะมีการแสดงของช้างหลายอย่าง เช่น ขบวนช้างในสงคราม ช้างลากซุง การคล้องช้าง เป็นต้น สำหรับอีกหนึ่งงานประเพณีที่สำคัญเลยคือประเพณีบวชช้างจะจัดขึ้นในวันที่ 13 – 15 ค่ำ เดือน 6 ซึ่งตรงกับกลางเดือนพฤษภาคมของทุกปี ณ วัดแจ้งสว่าง บ้านตากลาง อำเภอท่าตูม โดยจุดเด่นของงานนั้นคือการแห่นาคด้วยขบวนช้างกว่า 50 เชือก ข้ามลำน้ำมูลค่ะ เพื่อนคนไหนชื่นชอบในประเพณีสำคัญต่าง ๆ เหล่านี้พร้อมทั้งอยากลองมาสัมผัสกับบรรยากาศจริงก็อย่าลืมมาเที่ยวชมกันได้นะคะตามช่วงเวลาที่เราบอกได้เลยรับรอบไม่ผิดหวังแน่นอน

สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดสุรินทร์

อย่างที่บอกไปตั้งแต่ช่วงแรกนะคะว่าสุรินทร์เป็นถิ่นช้างใหญ่ฉะนั้นสถานที่ท่องเที่ยวที่จะแนะนำกันต้องเกี่ยวกับช้างแน่นอนสถานที่แห่งนั้นคือศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง บ้านตากลาง นั้นเองค่ะ โดยหมู่บ้านช้างแห่งนี้นั้นเป็นสถานที่ ๆ เลี้ยงช้างที่ใหญ่ที่สุดพร้อมทั้งยังเป็นสถานที่ ๆ เปิดให้เรียนรู้วิถีชีวิตของชาวกวยหรือกูยชนพื้นเมืองของสุรินทร์อีกด้วย เนื่องจากที่นี่นั้นมีขนบธรรมเนียมประเพณีและวัฒนธรรมที่เกี่ยวเนื่องกับช้างมากมาย สำหรับใครที่อยากเรียนรู้วิถีชีวิตแบบนี้ก็อย่าลืมแวะมาเที่ยวชมที่ศูนย์คชศึกษา หมู่บ้านช้าง กันได้นะคะ

ร้านอาหารที่แนะนำของจังหวัดสุรินทร์

ร้านยิ่งดีเป็นร้านอาหารสุรินทร์เจ้าเก่าที่อยู่คู่กับเมืองสุรินทร์กว่า 50 ปี โดยเมนูเด็ดที่ไปถึงร้านแล้วต้องกดสั่งเลยก็จะเป็นกะเพราเครื่องในไก่ค่ะ บอกเลยว่าจานนี้เด็ดที่สุดในทุกจานเลยทีเดียวสำหรับใครที่ผ่านไปผ่านมาก็อย่าลืมแวะมาชิมกันนะคะ

ทำความรู้จักจังหวัดศรีสะเกษ

Img by travel.kapook.com
หลวงพ่อโตคู่บ้าน ถิ่นฐานปราสาทขอม ข้าวหอมกระเทียมดี มีสวนสมเด็จ เขตดงลำดวน หลากล้วนวัฒนธรรม เลิศล้ำสามัคคี นี้เป็นคำขวัญประจำจังหวัดศรีสะเกษซึ่งจังหวัดศรีสเกษนั้นตั้งอยู่ทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของประเทศไทย มีเนื้อที่ทั้งหมด 8,839.976 ตารางกิโลเมตร มีอาณาเขตติดต่อกับจังหวัดใกล้เคียงดังนี้ คือ ทิศเหนือติดต่อกับจังหวัดยโสธรและจังหวัดร้อยเอ็ด ทิศใต้ติดต่อกับประเทศกัมพูชา ทิศตะวันออกติดต่อกับจังหวัดอุบลราชธานี และทิศตะวันตกติดต่อกับจังหวัดสุรินทร์ พูดถึงทั้งคำขวัญและอาณาเขตมาขนาดนี้แล้วต่อไปเราไปเจาะลึกถึงข้อมูลของจังหวัดศรีสะเกษให้มากขึ้นกว่าเดิมดีกว่าค่ะ จะมีอะไรดีอะไรเด่นบ้างตามอ่านด้านล่างนี้เลย

ภูมิประเทศของจังหวัดศรีสะเกษ

พื้นที่ส่วนใหญ่ของจังหวัดจะเป็นที่ราบลุ่ม สำหรับดินนั้นเป็นดินร่วนปนทรายที่มีความอุดมสมบูรณ์ต่ำ มีเพียงส่วนน้อยเท่านั้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่เหมาะสมสำหรับการเพาะปลูกพืช

สภาพภูมิอากาศของจังหวัดศรีสะเกษ

สำหรับสภาพอากาศในจังหวัดศรีสะเกษนั้นจะคล้าย ๆ กับ 2 จังหวัดแรกที่กล่าวมาแต่จะมีความต่างกันที่จะมีอากาศร้อนจัดในฤดูร้อนและค่อนข้างหนาวจัดในฤดูหนาว ส่วนฤดูฝนจะมีฝนตกหนักในช่วงเดือนกันยายนบวกกับมีเรื่องของพายุฤดูร้อนเพิ่มเข้ามาด้วยค่ะ

ภาษาที่ใช้ในการสื่อสารของจังหวัดศรีสะเกษ

ส่วนใหญ่จะใช้ภาษาลาวและภาษาไทยในการสื่อสารส่วนสำเนียงนั้นจะแตกต่างกันออกไปตามแต่ละพื้นที่ แต่ก็จะมีภาษาอื่น ๆ ด้วยตามแต่ละชาติพันธุ์ของพื้นที่นั้น ๆ เช่น ภาษากูย ภาษาเยอ และภาษาเขมร เป็นต้น

ประเพณีสำคัญของจังหวัดศรีสะเกษ

สำหรับเทศกาลและประเพณีที่สำคัญของจังหวัดศรีสะเกษนั้นคือเทศกาลดอกลำดวนบานเป็นวัฒนธรรมประเพณีของชนสี่เผ่าไทยศรีสะเกษ ได้แก่ ชาวเขมร ชาวลาว ชาวส่วย และชาวเยอ ที่เป็นชนชาติที่อพยพกันมาตั้งถิ่นฐานในจังหวังศรีสะเกษในสมัยก่อน โดยเป็นประเพณีนี้จะจัดขึ้นทุกปีในช่วงที่ดอกลำดวนกำลังบานซึ่งตรงกับช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคม โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ที่น่าสนใจให้ชมมากมายทั้งการแสดงแสงสีเสียงประวัติศาสตร์ความเป็นมาของจังหวัด และยังมีการออกร้านแสดงสินค้า o – Top มากมายที่เป็นเอกลักษณ์ของพื้นที่นั้น ๆ และยังมีการนำวิถีชีวิตต่าง ๆ มาให้คนในงานได้เข้าร่วมกิจกรรมอีกด้วย เพื่อน ๆ คนไหนสนใจอยากลองเข้าชมนิทรรศการหรือวิถีชาวบ้านต่าง ๆ นั้นสามารถมาร่วมงานได้นะคะโดยงานจะจัดในช่วงเดือนกุมภาพันธ์ถึงเดือนมีนาคมแล้วแต่กำหนดการของจังหวัดค่ะ ใครสนใจก็วางแผนวันและเวลากันให้ดี ๆ นะคะ

สถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดศรีสะเกษ

ผามออีแดงเป็นสถานที่ท่องเที่ยวที่ตั้งอยู่ในพื้นที่อุทยานแห่งชาติเขาพระวิหาร ตำบลเสาธงชัย อำเภอกันทรลักษ์ จังหวัดศรีสะเกษ เป็นสถานที่สำหรับชมวิวทิวทัศน์ต่าง ๆ แถมยังสามารถมองเห็นฝั่งประเทศเพื่อนบ้านอย่างพม่าได้อีกด้วยไม่เพียงแต่ธรรมชาติที่สวยงามเท่านั้นนะคะที่ผามออีแดงแห่งนี้ยังมีสถาปัตยกรรมต่าง ๆ ซึ่งเป็นภาพแกะสลักบนหินที่หาชมได้ยากอีกด้วย ใครอยากสัมผัสกับบรรยากาศธรรมชาติสวย ๆ แบบนี้อย่าลืมแวะมาเที่ยวที่ผามอดีแดงได้นะคะ

ร้านอาหารที่แนะนำของจังหวัดศรีสะเกษ

ร้านอาหารเช้าเจียวกี่ร้านอาหารแนะนำของจังหวัดศรีสะเกษแถมมีดีกรีเป็นถึงพ่อครัวชาววังที่ได้รับฉายาว่ากุ๊กจมูกแดง ใครอยากลิ้มลองรสชาติฝีมือการทำอาหารแสนอร่อยนี้อย่าลืมแวะเวียนมาเที่ยวชมและตั้งใจมาชิมอาหารร้านเจียวกี่นี้ได้นะคะรับรองอาหารถูกปากถูกใจคุณไปอีกนานเลยหละค่ะ
จบไปแล้วนะคะสำหรับการแนะนำ 3 จังหวัดของภาคอีสานตอนล่างอย่างจังหวัดบุรีรัมย์ สุรินทร์ และศรีสะเกษ ข้อมูลที่เรานำมาเล่าให้เพื่อน ๆ ฟังกันในวันนี้ก็พอจะทำให้เพื่อน ๆ รู้จักกับจังหวัดเหล่านี้มากขึ้นแล้วถ้ารู้จักแล้วติดใจกับเอกลักษณ์และเสน่ห์ต่าง ๆ ของแต่ละจังหวัดก็สามารถลองมาสัมผัสกับบรรยากาศจริง ๆ ได้เลยนะคะรับรองคนในจังหวัดทุกคนยินดีตอนรับกับแขกผู้มาเยือนแน่นอน ยังไงก็อย่าลืมลองมาเที่ยวมาสัมผัสกับบรรยากาศน่ารัก ๆ แบบนี้กันได้เลยนะคะ