กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ยี่ห้อไหนดี ทนทาน คุ้มค่า ราคาไม่แพง
กระแสการท่องเที่ยวกำลังจะกลับมาแล้วนะจ้า หลายๆคนคงจะคิดถึงการท่องเที่ยว หรือเตรียมพร้อมกับการเที่ยวแบบสุดๆ ไปต่างประเทศในสถานการณ์ตอนนี้อาจจะต้องพักก่อน แต่เที่ยวไทยก็สนุกไม่แพ้กัน กระบี่ ภูเก็ต เชียงใหม่ ไปชมความงดงามที่ยังซ่อนอยู่ คุณอาจจะค้นพบประเทศไทยในมุมใหม่ๆก็ได้ แต่ก็ต้องระมัดระวังตัว ดูแลสุขภาพกันด้วยนะจ๊ะ
ส่วนใครที่มีแพลนไปเที่ยวกันแล้ว แต่กำลังมองหากระเป๋าเดินทางดีๆสักใบที่เหมาะกับตัวคุณ วันนี้จัดไปเลยกับ 9 กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ทนทาน คุ้มค้า ในราคาไม่แพง สบายกระเป๋าตังแน่นอน ศึกษาข้อมูลสินค้าก่อนตัดสินใจ รายละเอียดต่างๆเป็นยังไง ขนาด ความจุ ตลอดจนฟังก์ชันอื่นๆ ถ้าพร้อมแล้วตามไปดูกันเลยดีกว่า
สารบัญ
กระเป๋าเดินทางมีกี่แบบ?
กระเป๋าเดินทางถูกแบ่งเป็น 2 แบบ ให้เข้าใจง่ายๆ คือ แบบ Hard Case และแบบ Soft Case ซึ่งเราได้เปรียบเทียบทั้ง 2 แบบให้ทุกคนเห็นความแตกต่างทั้งข้อดีและข้อเสียไว้ดังนี้
แบบ Hard Case
ข้อดีของกระเป๋าแบบ Hard Case
เป็นกระเป๋าเดินทางแบบแข็ง โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าเป็นแบบ ABS , PC ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่ทำให้กระเป๋ามีความทนทาน แข็งแรง กันน้ำได้ดีมาก ทนต่อแรงกระแทก และยังมีน้ำหนักที่เบา
ข้อเสียของกระเป๋าแบบ Hard Case
มีราคาที่ถูกมากจนเกินไป อาจจะใช้วัสดุที่ไม่ได้คุณภาพ จึงทำให้เวลารับแรงกระแทกที่มากจนเกินไป ตัวกระเป๋าก็อาจจะแตกหักหรือชำรุดได้ ตลอดจนยังเป็นรอยขีดข่วนได้ง่ายมากเช่นกัน
แบบ Soft Case
ข้อดีของกระเป๋าแบบ Soft Case
กระเป๋าเดินทางแบบผ้า โดยวัสดุที่ใช้ในการผลิตกระเป๋าเป็นแบบ โพลีเอสเตอร์ผสมไนล่อน ซึ่งจะมีคุณสมบัติคือยืดหยุ่นได้ดี สะดวกต่อการใช้งาน ไม่เป็นรอยขีดข่วนได้ง่าย
ข้อเสียของกระเป๋าแบบ Soft Case
ด้วยความที่วัสดุของกระเป๋าเป็นผ้าทำให้เปียกได้ง่ายมากเวลาเจอฝน ง่ายต่อการโดนกรีดกระเป๋า ตลอดจนอาจจะถูกกดทับจนกระเป๋าเสียรูปทรง สัมภาระด้านในเกิดความเสียหายและแตกหักได้
วิธีการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทาง
นอกจากจะรู้แล้วว่ากระเป๋าเดินทางมีกี่แบบ เท่านั้นคงยังไม่เพียงพอ ต้องรู้ลึก รู้จริงเพิ่มขึ้นไปอีกว่าแต่ละแบบต้องเลือกดูเพิ่มเติมจากอะไรอีกไหม ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อ
การเลือกซื้อกระเป๋าแบบ Hard Case
ลือกจากขนาดของร่องและความหนา
การตรวจสอบกระเป๋าเดินทางแบบเฟรมล็อกหรือแบบไม่มีซิป ควรเช็คในเรื่องของความหนาและความลึกของเฟรม ซึ่งคุณสมบัติที่ดีควรจะมีความหนาและร่องลึกประมาณ 10 มม. เพื่อช่วยให้มีความแข็งแรงและทนทานต่อแรงกดจากภายนอก กระเป๋าเดินทางแบบเฟรมล็อกมีหลากหลายรุ่นและราคาที่แตกต่างกันออกไป หากราคาถูกมากจนเกินไป ควรตรวจสอบคุณภาพและความทนทานของกระเป๋าด้วย เพื่อการใช้งานที่ยาวนานและคุ้มค่าของเรา
เช็คความหนาของซิป
ควรเลือกซิปที่มีขนาดใหญ่ แข็งแรง ดึงแล้วเปิดออกง่ายไม่ติดไม่กินตัวเนื้อผ้ากระเป๋า เป็นซิปที่วิ่งได้ทั้งสองทิศทางเพื่อความสะดวกในการใช้ การเลือกกระเป๋าควรลองรูดซิปเปิดปิดหลายๆรอบ เพื่อเช็คลื่นไหลในการใช้งาน ตลอดจนการตัดเย็บ ความแน่นหนา และควรเป็นแบบซิปสองชั้นด้วย ก็จะยิ่งช่วยป้องกันซิปแตกง่ายหรือโดนกรีดจากช่องซิปได้ แต่ในปัจจุบันก็ยังมีกระเป๋าเดินทางอีกแบบคือ แบบเฟรมล็อก หรือแบบไม่มีซิป ซึ่งจะมีความแข็งแรงกับแบบมีซิป กันการโดนกรีดกระเป๋าได้ดีกว่า เนื่องจากระบบล็อก 3 จุด จึงแข็งแรงมากกว่าแบบมีซิป แต่ราคาก็จะค่อนข้างสูงกว่าด้วยเช่นกัน
ตรวจสอบผ้าหรือวัสดุที่ใช้ทำกระเป๋าเดินทางสำหรับ Soft Case
การเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางแบบ Soft Case นั้น ต้องตรวจสอบดูความแข็งแรง ความคงทนของเนื้อผ้ากระเป๋าเป็นอย่างมาก หากอยากได้กระเป๋าที่คุณภาพดีควรตรวจสอบความหนาของผ้าที่ใช้ ตลอดจนเบอร์เส้นด้ายของกระเป๋าซึ่งใช้ Denier เป็นหน่วยการวัดขนาดเส้นใยที่ใช้ในการทอผ้า ยิ่งมากก็จะทำให้ผ้ายิ่งหนักและทนทานมากยิ่งขึ้น ซึ่งโพลีเอสเตอร์ 1800 denier ถือว่าเป็นความทนทานที่แนะนำเลยว่าดีและเหมาะสมกับการใช้งาน แต่ไม่ควรต่ำกว่า 700 denier เพราะสายการบินจะไม่ยอมรับความเสียหายกับกระเป๋าเดินทางที่ทำด้วยผ้า 600-700 denier
งบประมาณ
การเลือกกระเป๋าเดินทางสักใบก็เหมือนกับการเลือกคู่หูในการเดินทาง การที่เรามีกระเป๋าดีๆสักใบ ควรจะต้องเลือกดูจากหลายปัจจัยหนึ่งในนั้นก็คงจะเป็นเรื่องของเงิน หรืองบประมาณที่เรามี หากเราเน้นการใช้งานที่คุ้มค่าและต้องการความทนทานสูง ก็อาจจะเลือกรุ่นที่มีคุณภาพ ซึ่งอาจจะราคาสูงขึ้นหน่อย แต่หากใช้ในการเดินทางแค่ไม่กี่ครั้ง หรือใช้กับสัมภาระน้อยๆ ก็อาจจะเลือกรุ่นที่ราคาค่อนข้างถูกหน่อยได้ สุดท้ายแล้วก็ขึ้นอยู่กับการใช้งาน ความสะดวก และความคุ้มค่าที่แต่ละคนอยากจะได้รับ การลงทุนกับกระเป๋า และระยะเวลาในการใช้งานของแต่ละคนแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการตัดสินใจในการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางจึงเป็นเรื่องที่ไม่มีอะไรผิดถูก
เลือกขนาดให้พอเหมาะกับปริมาณสัมภาระ
ก่อนการเลือกซื้อกระเป๋าเดินทางควรพิจารณาก่อนว่าเราต้องการกระเป๋าเดินทางขนาดไหน ใบใหญ่หรือใบเล็ก ตลอดจนปริมาณของสัมภาระที่เรานำไปใช้กับกระเป๋า การตรวจสอบและรู้ตัวเองทำให้การตัดสินใจในการเลือกซื้อกระเป๋าของเราง่ายขึ้น แต่ก็อย่าลืมพิจารณาหัวข้อต่อไปนี้ด้วยนะจ๊ะ
พิจารณาเรื่องความจุของกระเป๋า
การเลือกกระเป๋าเดินทางควรเลือกให้เหมาะสมกับการใช้งาน หนึ่งในนั้นคงจะเป็นความจุของกระเป๋าและระยะเวลาในการเดินทางไปเที่ยวของเรา กระเป๋าเดินทางแต่ละใบมีหลายขนาดให้เลือกสรร ใบใหญ่ก็เหมาะกับการท่องเที่ยวในระยะเวลานานๆ เพราะขนาดที่ใหญ่จึงสามารถจุของได้ในปริมาณเยอะ ส่วนใครที่เดินทางไม่นาน ในระยะเวลาเพียง 2-3 วัน กระเป๋าใบเล็กก็เป็นตัวเลือกที่เหมาะสมกับคุณที่สุด สะดวกสบาย และไม่ต้องขนกระเป๋าใบใหญ่ให้เกะกะ
กระเป๋าเดินทางขนาด 16-18 นิ้ว
เหมาะกับการเดินทางเพียง 1-2 วัน การเดินทางในระยะเวลาที่ไม่นาน ไปเที่ยวหรือทำธุระค้างคืนเพียง 1 คืน กระเป๋าเดินทางขนาดประมาณนี้ก็จะตอบโจทย์ได้ดี
กระเป๋าเดินทางขนาด 18-22 นิ้ว
เหมาะกับการเดินทาง 2-3 วัน ใส่ของได้กำลังพอดี ไม่มากไม่น้อยจนเกินไป ไปเที่ยวค้างคืนได้สบาย แต่การซื้อของฝากกลับอาจจะจุของได้ไม่มากพอขนาดนั้น
กระเป๋าเดินทางขนาด 24-26 นิ้ว
เหมาะกับการเดินทาง 4-6 วัน อาจไปเที่ยวไกลหน่อยหรือมีแพลนไปเที่ยวหลายวันกับเพื่อน ครอบครัว และคนรัก ช้อปปิ้งซื้อของกลับได้สบายๆ เพราะความจุมีรองรับเพียงพอแน่นอน
กระเป๋าเดินทางขนาด 28-30 นิ้ว
เหมาะกับการเดินทาง 7-10 วัน ไปเที่ยวค้างคืนในระยะเวลานาน หรือต้องการความจุของกระเป๋าที่เยอะขึ้นหน่อย เพื่อขนสัมภาระที่มากๆ
เลือกขนาดให้เหมาะกับที่สายการบินกำหนด
ขนาดของกระเป๋าเดินทางของเราแต่ละใบที่สามารถสัมภาระขึ้นบนห้องโดยสารของแต่ละสายการบินก็เป็นอีกสิ่งที่เราควรจะต้องรู้ไว้ หากฝากสัมภาระที่มีขนาดใหญ่หรือน้ำหนักเกินก็อาจจะต้องเสียค่าบริการกระเป๋าเพิ่ม ซึ่งกระเป๋าเดินทาง Checked Baggage แต่ละไซส์ที่แต่ละสายการบินกำหนด ขนาดมาตรฐานที่สามารถโหลดใต้เครื่องได้โดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมนั้นควรมีน้ำหนักไม่เกิน 20 กิโลกรัม หากเกินมากกว่านั้นก็ต้องเสียค่ากระเป๋าเพิ่มอีก ส่วนกระเป๋า Carry on Baggage ที่ถือขึ้นเครื่องนั้น สายการบินมีกำหนดขนาดไว้ โดยสามารถนำสัมภาระขึ้นเครื่องได้ท่านละไม่เกิน 7 กิโลกรัม นอกนั้นอาจตรวจสอบความกว้าง ยาวของกระเป๋าที่แต่ละสายการบินกำหนดเพิ่มเติม เพื่อความมั่นใจในการเดินทางท่องเที่ยวของเรา
เลือกจำนวนล้อให้เหมาะกับการใช้งาน
4 ล้อ
เหมาะกับสัมภาระจำนวนมากและใช้ลากบนพื้นราบ ใช้แรงการเข็นน้อย ช่วยให้สะดวกสบายในการเดินทาง สัมภาระหนักแค่ไหนก็ไม่เหนื่อยมาก เนื่องจากการใช้งานกระเป๋า 4 ล้อช่วยทุ่นแรงอยู่ อีกทั้งควรเลือกล้อคู่แบบหมุนได้ 360 องศาเพื่อการรับน้ำหนักที่ดีกว่าและสะดวกในการลาก
2 ล้อ
เหมาะกับสัมภาระน้อย ๆ ใช้งานได้คล่องตัว เนื่องจากกระเป๋าแบบ 2 ล้อ เมื่อลากต้องเอียงให้มุมกระเป๋าเฉียงเล็กน้อยก่อนจึงจะลากได้ การใช้งานจึงแนะนำให้ใช้กับสัมภาระน้อยๆ เนื่องจากถ้ากระเป๋าหนัก การลากหรือใช้งานก็จะค่อยข้างลำบากและเหนื่อย แต่ข้อดีของมันก็คือ เมื่อเวลาวางกระเป๋าไว้เฉยๆ จะไม่ไหลไปไหน อยู่นิ่งกับที่นั้นเอง
เลือกจากฟังก์ชันอื่น ๆ
สมัยนี้กระเป๋าเดินทางแต่ละยี่ห้อก็มีฟังก์ชันที่หลากหลาย ออกแบบกระเป๋ามาเพื่อตอบโจทย์กับการใช้งานของแต่ละบุคคล ศึกษาฟังก์ชันต่างๆเพิ่มเติมเพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้นของตัวคุณ
ช่องใส่โน้ตบุ๊ก
เหมาะสำหรับท่านที่ต้องพกโน้ตบุ๊คหรือแล็ปท็อปไปด้วยเพื่อทำงาน มีวัสดุกันกระแทกเพิ่มความปลอดภัย เป็นอีกตัวช่วยที่จะเพิ่มความสบายใจให้กับคุณได้ อีกทั้งเวลาจะหยิบของใช้งานก็ง่ายดายเพราะมีช่องกระเป๋าอยู่ด้านหน้าครบพร้อม
ช่องใส่ของสามารถขยายซิปขึ้นมาได้อีกหรือไม่
หากการขนสัมภาระของคุณ มีของขากลับเพิ่มมากขึ้น กระเป๋าเดินทางที่เป็นแบบซิปบางยี่ห้อที่สามารถขยายออกได้ ก็อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดียามฉุกเฉิน เพิ่มช่วยเพิ่มความจุ ความยืดหยุ่น หายห่วงเรื่องพื้นที่ของกระเป๋าว่าจะมีเพียงพอไหม แล้วยังลดโอกาสแตกของกระเป๋าอีกด้วย
กระเป๋าเดินทางขนาดใหญ่ ยี่ห้อไหนดี ทนทาน คุ้มค่า ราคาไม่แพง
HANK 003
เหมาะกับการเดินทาง 2-7 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเป๋า ตัวล้อมี 4 ล้อ หมุนได้ 360 องศา มีรหัสผ่านล็อก คันชักฝังในกระเป๋าป้องกันการกระแทกเวลาโยน มีฟังก์ชันปลดล็อกคันชักด้วยนิ้วมือ สะดวกในการใช้งาน
ประเภท | Hard Case |
---|---|
ขนาด | ขนาด 20 นิ้ว (35 x 22 x 55 ซม.) ขนาด 24 นิ้ว (40 x 24 x 65 ซม.) ขนาด 28 นิ้ว (50 x 28 x 75 ซม.) |
น้ำหนักกระเป๋า | น้ำหนักของขนาด 20 นิ้ว / 3.5 กก. น้ำหนักของขนาด 24 นิ้ว / 4.5 กก. น้ำหนักของขนาด 28 นิ้ว / 5.5 กก. |
วัสดุ | วัสดุ PC โพลีเอสเตอร์ (เพิ่มฟิล์มพลาสติก) |
ฟังก์ชันอื่น ๆ | มีรหัสผ่านล็อก คันชักฝังในกระเป๋าป้องกันการกระแทกเวลาโยน มีฟังก์ชันปลดล็อกคันชักด้วยนิ้วมือ |
Black horse รุ่น S025
เหมาะกับการเดินทาง 2-3 วัน มีระบบล้อลาก 2 ล้อด้านหลัง พร้อมแกรนขาตั้งด้านหน้า ช่วยพยุงกระเป๋าไม่ให้ล้ม มีความแข็งแรงทนทาน ด้ามจับกระชับมือ
ประเภท | Soft Case |
---|---|
ขนาด | ขนาด 18 นิ้ว (34 x 22 x 46 ซม.) |
น้ำหนักกระเป๋า | น้ำหนักโดยประมาณ 2.0 กก. |
วัสดุ | ผ้าโพลีเอสเตอร์ ด้านหน้าผลิตจากผ้าขึ้นรูปโฟมแข็งเพื่อกันกระแทกพร้อมหุ้มหนังรอบด้าน สีทูโทนกลมกลืน ด้านในบุผ้าซาตินซับใน พร้อมสายล็อกกันสัมภาระเลื่อนไหล |
ฟังก์ชันอื่นๆ | ระบบรหัสล็อกกระเป๋า เป็นแบบกุญแจแยกได้ 1 ชุด (ตัวแม่ 1 อัน, ลูก 2 อัน) มีคันชักปรับระดับได้ 2 ระดับ |
WHEAL New Collection Code F262624-1
เหมาะกับการเดินทาง 4-5 วัน มี 4 ล้อหมุนอิสระ 360° เพิ่มความสะดวกในการลากและเข็นได้ง่ายขึ้น คันชักคู่ผลิตจากอลูมิเนียม ปรับระดับได้แข็งแรงทนทานฝังในกระเป๋าป้องกันการกระแทก
ประเภท | Soft Case |
---|---|
ขนาด | ขนาด 24 นิ้ว (42 x 24 x 61 ซม.) |
น้ำหนักกระเป๋า | น้ำหนักโดยประมาณ 3.35 กก. |
วัสดุ | ผ้าโพลีเอสเตอร์ 600D วัสดุด้านหน้าขึ้นรูปโฟม กันกระแทก สีสันสดใส ไม่ลอก ใช้งานง่าย แข็งแรง ทนทาน |
ฟังก์ชันอื่นๆ | ด้านข้าง มีฐานหมุด 4 จุด เพื่อสำหรับวางกระเป๋าแนวนอนไม่ให้ล้ม มีซิป 2 ตอนแบบขยายด้านหน้าพร้อมระบบล็อก 3 รหัส ปรับไปที่เลข 0 ก่อนการใช้งาน |
Romar Polo B-Plus รุ่น 13918
เหมาะกับการเดินทาง 2-3 วัน มี 2 ล้อเพื่อความสะดวกในการลากจูง คันชักปรับระดับได้ 2 ระดับ แข็งแรงทนทาน
ประเภท | Soft Case |
---|---|
ขนาด | ขนาด 18 นิ้ว (20 x 37 x 46 ซม.) |
น้ำหนักกระเป๋า | น้ำหนักโดยประมาณ 2.39 กก. |
วัสดุ | ผ้าโพลีเอสเตอร์ ด้านหน้าขึ้นรูปโฟมแข็ง กันกระแทกได้ดี ภายในบุผ้าซาตินซับในทั้งใบ |
ฟังก์ชันอื่นๆ | มีระบบตั้งรหัสผ่านล็อกกระเป๋า 3 หลัก |
Maisy Daisy (V13) รุ่น Classy Luggage
เหมาะกับการเดินทาง 2-7 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเป๋า มี 4 ล้อ หมุนได้ 360 องศา เข็นลื่น สบาย รับน้ำหนักได้ดี ตัวคันชักและโครงทำจากอลูมิเนียม มีความแข็งแรงทนทาน
ประเภท | Hard Case |
---|---|
ขนาด | ขนาด 20 นิ้ว (38 x 24 x 56 ซม.) ขนาด 24 นิ้ว (43 x 27 x 66 ซม.) ขนาด 26 นิ้ว (46 x 29 x 71 ซม.) ขนาด 28 นิ้ว (49 x 31 x 76 ซม.) |
น้ำหนักกระเป๋า | น้ำหนักของขนาด 20 นิ้ว / 2.75 กก. น้ำหนักของขนาด 24 นิ้ว / 3.5 กก. น้ำหนักของขนาด 26 นิ้ว / 4.0 กก. น้ำหนักของขนาด 28 นิ้ว / 4.2 กก. |
วัสดุ | วัสดุ PC + ABS พลาสติกยืดหยุ่นไม่แข็งเปราะ ไม่แตกเสียหายง่ายๆ ด้านในบุด้วยผ้า Polyester Fiber |
ฟังก์ชันอื่นๆ | กระเป๋าเดินทางรุ่นซิป มีระบบล็อก 3 หลัก ปลอดภัยตามมาตรฐาน |
BAGGAGE LUGGAGE รุ่น CLASSIC SERIES
เหมาะกับการเดินทาง 2-7 วัน มีช่องจัดเก็บสัมภาระแบ่งเป็นสัดส่วน พร้อมผ้ากั้นสองฝั่ง ตัวล้อมี 4 ล้อ หมุนได้ 360 องศา
ประเภท | Hard Case |
---|---|
ขนาด | ขนาด 20 นิ้ว (38.5 x 55 x 24 ซม.) ขนาด 24 นิ้ว (45×65.5×25 ซม.) ขนาด 26 นิ้ว (48x72x26.5 ซม.) ขนาด 29 นิ้ว (51.5x79x27 ซม.) |
น้ำหนักกระเป๋า | น้ำหนักของขนาด 20 นิ้ว/ 3.60 กก. น้ำหนักของขนาด 24 นิ้ว/ 4.34 กก. น้ำหนักของขนาด 26 นิ้ว/ 5.20 กก. น้ำหนักของขนาด 29 นิ้ว/ 5.65 กก. |
วัสดุ | วัสดุ ABS + PC คุณภาพดี ทนทานต่อแรงกระแทก |
ฟังก์ชันอื่นๆ | ล็อกรหัส 3 หลัก ระบบ TSA Lock มาตรฐานสากล |
CANDO รุ่น F1177-24
ระบบล้อลาก 2 ล้อด้านหลัง พร้อมแกรนขาตั้งด้านหน้า ด้ามจับกระชับมือ ชักปรับระดับได้ 2 ระดับ แข็งแรงทนทาน ด้านในบุผ้าซาตินซับใน พร้อมสายล็อกกันสัมภาระเลื่อนไหล เหมาะกับการเดินทาง 4-6 วัน
ประเภท | Soft Case |
---|---|
ขนาด | 24 นิ้ว (41x22x61ซม.) |
น้ำหนักกระเป๋า | 2.60 กก. |
วัสดุ | ผ้า polyester และ ขึ้นรูปโฟมแข็งเพื่อกันกระแทกพร้อมหุ้มหนังรอบด้าน |
ฟังก์ชันอื่นๆ | มีระบบรหัสล็อกกระเป๋า เป็นแบบ กุญแจแยกได้ 1ชุด (ตัวแม่ 1 อัน ลูก 2 อัน) |
CAGGIONI รุ่น C18082
กระเป๋าเดินทาง 4 ล้อ หมุนได้ 360 องศา ล้อมีขนาดใหญ่พิเศษ เพื่อรองรับน้ำหนักสัมภาระและเพิ่มความคล่องตัวในการใช้งาน โครงสร้างกระเป๋าเบาพิเศษ หูกระเป๋าบุผ้า เพิ่มสัมผัสที่ดีขึ้น นิ่มหิ้วสบาย เหมาะกับการเดินทาง 2-7 วัน ขึ้นอยู่กับขนาดของกระเป๋า
ประเภท | Soft Case |
---|---|
ขนาด | ขนาด 20 นิ้ว (35 x 17 x 45 ซม.) ขนาด 24 นิ้ว (41 x 20 x 58 ซม.) ขนาด 28 นิ้ว (45 x 23 x 70 ซม.) |
น้ำหนักกระเป๋า | น้ำหนักของขนาด 20 นิ้ว / 2.40 กก. น้ำหนักของขนาด 24 นิ้ว / 3.20 กก. น้ำหนักของขนาด 28 นิ้ว / 3.70 กก. |
วัสดุ | ไนลอนและโพลีเอสเตอร์ |
ฟังก์ชันอื่นๆ | กระเป๋ามีช่องซิปขยาย เพิ่มความจุอีก 25% ด้านหน้ามีช่องซิป 2 ช่อง เพื่อความสะดวกในการหยิบของใช้งาน มีรหัสล็อกรหัสแบบ TSA Lock |
กระเป๋าเดินทางแต่ละแบบที่ขายในท้องตลาดมีหลากหลายมาก แต่ละแบรนด์ก็มีคุณสมบัติเด่นๆสำหรับการใช้งานที่แตกต่างกันไป เลือกกระเป๋าให้เหมาะกับตัวคุณและไลฟ์สไตล์ในการเที่ยวของคุณ จะได้คุ้มค่ากับการใช้งานแบบสุดๆ แต่ก็อย่าลืมดูแลรักษากระเป๋าให้อยู่กับคุณไปได้นานๆด้วยนะ หลังจากที่ได้ศึกษาข้อมูลและรายละเอียดต่างๆเรียบร้อยแล้ว หวังว่าจะเป็นประโยชน์กับทุกคนไม่มากก็น้อย สุดท้ายนี้ของให้ทริปการท่องเที่ยวของคุณมีแต่ความสนุกสนาน เดินทางปลอดภัยจ้า