12 อาหารลูกแมว ยี่ห้อไหนดี เพื่อน้องแมวสุขภาพแข็งแรง สมวัย

ในปัจจุบัน หลายคนนิยมเลี้ยงสัตว์เอาไว้เป็นเพื่อนคู่ใจ ไม่ว่าจะเป็นสุนัข แมว ฯลฯ แต่การเลี้ยงสัตว์ เราจำเป็นจะต้องดูแลให้ดี และต้องมีอาหารที่มีประโยชน์ให้กับเขาอยู่ตลอดเวลาด้วย คราวนี้เราจะมาเจาะลึกถึงลูกแมวกัน ซึ่งความน่ารักของแมวนั้น ทำให้หลายๆคนกลายเป็น “ทาสแมว” กันไปเยอะเลยทีเดียว
สารบัญ
สิ่งที่ควรรู้ก่อนนำลูกแมวมาเลี้ยง
การเลี้ยงน้องแมวนั้น มีปัจจัยหลักๆดังนี้
พื้นที่
แมว เป็นสัตว์ที่รักอิสระ จะไม่ค่อยชอบอยู่กับที่ หากมีการจำกัดพื้นที่ให้แมวแคบเกินไป จะทำให้น้องเขาเกิดอาการเครียดได้
ค่าใช้จ่าย
การเลี้ยงแมวให้เขาอยู่กับเราไปนานๆ จะต้องหมั่นพาน้องแมวเราไปตรวจสุขภาพเป็นประจำ รวมไปถึงการฉีดวัคซีนกันโรคต่างๆ การทำหมัน ค่าอาหาร อุปกรณ์ต่างๆให้กับน้องแมว ซึ่งค่อนข้างจะมีค่าใช้จ่ายสูงพอสมควรทีเดียวค่ะ โดยค่าใช้จ่ายจะแตกต่างกันไป แต่หลักๆจะดังนี้
ค่าตรวจสุขภาพ | หากมีการเลี้ยงแมว เราจำเป็นจะต้องพาน้องแมวไปตรวจสุขภาพเป็นประจำด้วย |
---|---|
ค่าวัคซีน | การฉีดวัคซีนให้แมว เราควรพาน้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจสุขภาพ และให้แพทย์แนะนำว่าจะต้องฉีดวัคซีนอะไรบ้าง ซึ่งค่าใช้จ่ายในส่วนนี้จะแตกต่างกันออกไป |
ค่าถ่ายพยาธิ | ควรหมั่นพาน้องแมวเราไปตรวจ และทำการถ่ายพยาธิออก เพื่อไม่ให้มีปัญหาในภายหลัง |
ค่ายาหยอดหมัด | หากน้องแมวเรามีหมัดตามตัว จะทำให้เกิดอันตรายต่อตัวเรา และน้องเราด้วย ดังนั้นเราจึงไม่ควรละเลยในเรื่องของการกำจัดหมัด |
ค่าทำหมัน | การทำหมันนั้น เพศผู้ควรทำหมันในช่วงอายุ 7-8 เดือน และเพศเมียควรทำหมันตอนอายุ 6 เดือน |
ค่าอาหาร | อาหารแมว จะแบ่งตามช่วงอายุของน้องแมว ซึ่งจะเป็นอาหารที่แตกต่างกันออกไป |
ค่าอาบน้ำทำความสะอาด | การอาบน้ำให้น้องแมวนั้นก็เป็นอีกสิ่งที่ช่วยทำให้น้องแมวดูสะอาด ปราศจากหมัดเข้ามาหา แต่ถ้าบางคนไม่ถนัดอาบน้ำให้น้องแมว อาจจะพาน้องแมวไปคลินิกสัตว์ให้อาบน้ำให้น้องแมวของเรา |
ค่าห้องน้ำแมว | แมวเป็นสัตว์ที่ขับถ่ายออกมาแล้วจะมีกลิ่นค่อนข้างแรงพอสมควร ยิ่งถ้าหากผู้ที่ชอบเลี้ยงแมวในห้องของตัวเอง หรือภายในบ้านของตัวเองอาจจะต้องมีการเตรียมกระบะทราย ทรายแมวเอาไว้ด้วย |
ค่าของใช้ต่างๆ | ของใช้อื่นๆไม่ว่าจะเป็นที่นอนของน้องแมว ปลอกคอ ของเล่นฯลฯ ซึ่งราคาขายของแต่ละร้านจะแตกต่างกันออกไป |
(อ้างอิง : https://fiercebook.com/articles/6783)
เวลาที่ให้กับแมว
แมวเป็นสัตว์สังคม และไม่ค่อยจะอยู่กับที่ซักเท่าไหร่ ดังนั้น เราก็ควรแบ่งเวลาเล่นกับน้องเขาให้ดี มิฉะนั้น อาจจะทำให้น้องเขาเกิดอาการเศร้า และเครียดก็เป็นได้ โดยวิธีเล่นกับเขา คุณอาจจะหาของเล่นต่างๆให้น้องแมวได้ลองเล่นอย่างหลายหลาย ซึ่งวิธีนี้จะช่วยทำให้น้องแมวสนิทกับเราได้เร็วขึ้นอีกด้วย
อายุขัย
อายุขัยของแมวนั้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นสายพันธุ์ การดูแลสุขภาพ ที่อยู่อาศัย แต่อายุขัยของแมวนั้น เฉลี่ยแล้วจะอยู่ระหว่าง 15-17 ปี แต่แมวบางตัวก็อาจจะอยู่กับเราได้ถึง 20 กว่าปีเลยทีเดียว
อาหาร
แมวตั้งแต่แรกเกิด จำเป็นจะต้องได้รับสารอาหารอย่างครบถ้วน โดยจะเป็นสารอาหารจากนมของแม่แมวเอง ซึ่งนมของแม่แมวจะช่วยส่งเสริมระบบภูมิคุ้มกันให้กับลูกแมว และเมื่อน้องแมวอายุ 1 เดือนขึ้นไป และเริ่มที่จะหย่านมแล้ว เราอาจจะมีการเปลี่ยนอาหารโดยให้เป็นอาหารเปียกแทน และเมื่อแมวเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย เราก็สามารถเปลี่ยนอาหารให้กับน้องแมวเราได้ และยังสามารถฝึกให้น้องแมวเราทานอาหารเป็นเวลาได้อีกด้วย
ลักษณะนิสัย
ไม่ใช่ว่าแมวทุกตัวจะมีลักษณะนิสัยเหมือนกันหมด บางตัวอาจจะมีลักษณะนิสัยพิเศษไม่เหมือนกับตัวอื่น แต่การที่จะเลี้ยงแมวนั้น อาจจะต้องศึกษาถึงนิสัยของแมวให้ดีก่อนที่จะเลี้ยง โดยนิสัยของแมวจะมีหลักๆดังนี้
อยากรู้อยากเห็น | น้องแมวหลายๆตัว มักมีนิสัยอยากรู้อยากเห็นอยู่ตลอดเวลา ชอบสำรวจสิ่งต่างๆ หากเราเก็บของๆเราไม่ดี มีโอกาสที่น้องแมวจะเป็นผู้ค้นออกมาเองก็เป็นได้ |
---|---|
ชอบให้เกาคางหรือลูบคาง | บริเวณคางของแมวจะมีต่อมสื่อสารด้วยกลิ่น ซึ่งใช้แสดงความเชื่อใจ และเป็นพวกเดียวกัน โดยเราจะสังเกตได้ว่าน้องแมวจะชอบเอาหน้าเข้ามาถูกับแขนและขาของเรา เจ้าของอย่างเราก็ควรสัมผัสบริเวณใบหน้าของน้องตอบกลับด้วยเช่นกัน |
แมวชอบดื่มน้ำที่ไหลมากกว่าน้ำในถ้วย | สัญชาตญาณของแมวจะไม่ชอบให้หนวดของเขาไปสัมผัสกับสิ่งอื่นๆ ดังนั้นเราควรจะหากระบอกใส่น้ำให้น้องแมวเลียน้ำเองจะดีกว่า |
การกินหญ้า | สุนัขและแมวจะมีสิ่งคล้ายกันคือกินหญ้าหรือวัชพืชบางชนิด หากมีการเลี้ยงแมวอยู่ในบ้าน หรือในคอนโด เราอาจจะต้องมีการพาน้องแมวเรามาเดินเล่นในสนามหญ้า และให้สัมผัสกับพื้นดินธรรมชาติบ้าง โดยสิ่งนี้จะทำให้แมวลดอาการก้าวร้าว และความเครียดลงได้ |
ความสะอาดและสุขภาพ
แมวจะมีนิสัยชอบอยากรู้อยากเห็น ดังนั้นน้องแมวจะชอบซุกซนอยู่ตลอดเวลา การรักษาความสะอาดอย่างสม่ำเสมอจะช่วยป้องกันโรคภัยต่างๆที่จะเกิดขึ้นกับตัวของน้องแมวและผู้เลี้ยงได้ โดยการทำความสะอาดน้องแมวจะมีตามจุดต่างๆดังนี้
หู | แมวจะมีอาการหูเป็นน้ำหนองอยู่ และมีกลิ่นรุนแรง หากเราปล่อยไว้จะทำให้น้องแมวมีอาการหูหนวกได้ การดูแลนั้นทำได้โดยการนำสำลีชุบน้ำยาเช็ดหู และนำความสะอาดบริเวณใบหู |
---|---|
ตา | อาการที่เกิดขึ้นบริเวณดวงตาจะเป็นอาการตาแดง มีขี้ตาติด มีน้ำตาไหล การดูแลคือใช้สำลีชุบน้ำสะอาด ทำความสะอาดรอบดวงตา |
ขนแมว | แมวมีนิสัยชอบเลียขนของตัวเองด้วย หากมีขนแมวหลุดเข้าสู่ร่างกายและตกค้างอยู่ในกระเพาะอาหาร มีโอกาสที่น้องแมวเราจะเป็นโรคท้องอืด หรือได้รับเชื้อโรคเข้าสู่ร่างกาย การทำความสะอาดควรใช้หวีแปรงขนไปตามเส้นแนวขน และการแปรงขนบ่อยๆจะช่วยกระตุ้นการไหลเวียนของเลือด ทำให้เส้นขนแมวดูเงางามอีกด้วย |
เล็บแมว | เนื่องจากแมวมีนิสัยอยากรู้อยากเห็น การขีดข่วนสิ่งของต่างๆถือเป็นเรื่องปกติ ดังนั้นควรมีการฝนเล็บหรือตัดเล็บของน้องแมวออกไปบ้าง แต่สิ่งที่ควรระวังคือหากเราตัดเล็บน้องแมว และกินส่วนที่เป็นเนื้อชมพู จะทำให้น้องแมวเกิดอาการเจ็บปวด และไม่อยากจะตัดเล็บอีก |
ฟัน | เพื่อป้องกันการเกิดหินปูนเกาะฟัน และรักษาสุขภาพช่องปาก อาหารเม็ดและน้ำดื่มอย่างเพียงพอจะช่วยให้ไม่เกิดหินปูนเกาะที่ฟัน หรือถ้าหากน้องแมวทานอาหารเสร็จ เราอาจจะใช้สำลีหรือผ้าชุบน้ำเกลือทำความสะอาดด้านในกระพุ้งแก้มเพื่อป้องกันเชื้อแบทีเรียด้วย |
ที่นอน | ที่นอนของน้องแมวต้องอยู่ในที่แห้ง ไม่อับชื้น ซึ่งจะลดความเสี่ยงต่อการเป็นเชื้อราได้ |
เพศ
น้องแมวมีอุปนิสัยคล้ายๆกันอยู่ แต่ถ้าหากแยกเพศของแมวออกไป จะพบถึงความแตกต่างดังนี้
ลักษณะนิสัย | เพศผู้จะซุกซนและขี้อ้อน แสดงอารมณ์ต่างๆออกมาให้เราได้เห็นอย่างชัดเจน แต่เพศเมียจะค่อนข้างขี้ระแวง และชอบอยู่โดดเดี่ยวมากกว่า |
---|---|
รูปร่าง | เมื่อเข้าสู่ช่วงโตเต็มวัย เพศผู้จะมีกล้ามเนื้อขยายออกมา และรูปร่างจะใหญ่ขึ้นอย่างชัดเจน แก้มบานและโครงหน้าจะใหญ่ แต่เพศเมียจะออกไปทางอ้วนง่าย โครงหน้าจะเรียว |
การออกเที่ยว | เพศผู้จะชอบออกเที่ยวข้างนอกบ่อย จนบางครั้งหายไปเป็นวันก็มี โดยเฉพาะช่วงกลางคืน ส่วนเพศเมียจะท่องเที่ยวน้อยกว่าเพศผู้ ไม่ค่อยหนีหายออกจากบ้าน |
อายุ
จากที่กล่าวไปข้างต้น แมวจะมีอายุเฉลี่ยอยู่ที่ 15-17 ปี ซึ่งก็ขึ้นอยู่กับสุขภาพ การเลี้ยงดูของเราด้วย โดยถ้านำไปเทียบกับอายุของคน จะเทียบได้ดังนี้
- อายุ 0-1 เดือน = อายุคน 0-1 ปี
- อายุ 4 เดือน = อายุคน 6-8 ปี
- อายุ 6 เดือน = อายุคน 10 ปี
- อายุ 1 ปี = อายุคน 15 ปี
- อายุ 3 ปี = อายุคน 28 ปี
- อายุ 6 ปี = อายุคน 40 ปี
- อายุ 7 ปี = อายุคน 44 ปี
- อายุ 14 ปี = อายุคน 72 ปี
- อายุ 21 ปี = อายุคน 100 ปี
อ้างอิง : https://www.facebook.com/ThonglorPet/photos/a.197761787015308/661119627346186/?type=3
วิธีเลือกอาหารสำหรับลูกแมว
หากเราเลี้ยงน้องแมว สิ่งที่จำเป็นที่สุดก็คืออาหาร ซึ่งอาหารของแมวก็จะมีหลายประเภท ไม่ว่าจะเป็นอาหารแบบผง อาหารเม็ด อาหารเปียก ซึ่งสิ่งที่สำคัญสำหรับอาหารของแมวนั้นคือโภชนาการและสารอาหาร
เลือกอาหารที่มีโปรตีนสูง
แมวเป็นสัตว์ที่ทานเนื้อเป็นหลัก ไม่ว่าจะเป็นเนื้อไก่ เนื้อปลา ซึ่งเป็นแหล่งโปรตีนชั้นดี ดังนั้นการเลือกอาหารให้น้องแมว เราสามารถดูรายละเอียดของสารอาหารบนผลิตภัณฑ์แต่ละชนิดได้
เลือกตามช่วงอายุ
ช่วงอายุของแมว จะแบ่งออกเป็น 3 ช่วง โดยจะแบ่งเป็นช่วงวัยแรกเกิด ช่วงโตเต็มวัย และช่วงสูงวัย ซึ่งในแต่ละวัย อาหารก็จะไม่เหมือนกัน โดยจะแบ่งแยกดังนี้
ช่วงวัยแรกเกิด | หลักจากที่ลูกแมวหย่านมแม่แล้ว ให้ทำการเปลี่ยนอาหารเป็นอาหารสำหรับลูกแมวที่มีพลังงานสูง และให้ไปเรื่อยๆจนอายุครบ 1 ปี |
---|---|
ช่วงโตเต็มวัย | ในช่วงโตเต็มวัย น้องแมวจะเริ่มทานอาหารได้หลากหลาย แต่ก็ควรเลือกอาหารที่มีเนื้อสัตว์เป็นส่วนประกอบ เพื่อให้ได้รับโปรตีนที่เพียงพอ |
ช่วงสูงวัย | เมื่อแมวเข้าสู่ช่วงสูงวัย ควรเปลี่ยนสูตรอาหารให้เป็นอาหารเพื่อสุขภาพ เพื่อให้น้องแมวมีสุขภาพที่ดี และอยู่กับเราไปนานๆ |
เลือกอาหารที่ปลอดจากสารเติมแต่ง
สารแต่งเติมต่างๆอาจจะมีส่วนช่วยในเรื่องของกลิ่นและรสชาติ แต่จะมีข้อเสียในเรื่องของโภชนาการและสารอาหาร ซึ่งอาจจะทำให้ไม่ได้รับสารอาหารที่เพียงพอ หรือทำให้เกิดโทษต่อน้องแมวของเราได้
เลือกจากประเภทของอาหาร
อาหารแบบมูสหรือแบบเปียก | อาหารแมวประเภทนี้จะมีปริมาณน้ำสูง น้องแมวจะสามารถทานได้อย่างง่าย แถมยังมีสารอาหารที่เป็นประโยชน์อีกด้วย ง่ายต่อการย่อย และยังมีแบ่งแยกตามช่วงอายุของแมวด้วย |
---|---|
อาหารแบบผง | จะเป็นอาหารแบบนมชง ซึ่งเราจะต้องใช้น้ำอุ่นในการชงนมให้ได้ในสัดส่วนที่พอดี เป็นอาหารที่สามารถเก็บเอาไว้ได้เป็นเวลานาน |
อาหารแห้งแบบเม็ด | อาหารแห้งแบบเม็ดมีประโยชน์ต่อสุขภาพฟันของน้องแมว เพราะการที่น้องแมวเคี้ยวจะช่วยทำความสะอาดฟัน และยังลดคราบหินปูนบนฟันของน้องแมวอีกด้วย |
อาหารลูกแมว ยี่ห้อไหนดี
Purina One Kitten
อาหารแมวชนิดเม็ด เหมาะสำหรับลูกแมวทุกสายพันธุ์ ทำจากเนื้อไก่และข้าว DHA เสริมสร้างภูมิต้านทาน และช่วยเสริมให้กระดูกแข็งแรง
ระดับโปรตีน | 40% | รส | ไก่และข้าว |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | 3 สัปดาห์ถึง 1 ปี | ปริมาณ | 3 กิโลกรัม |
Hill’s Science Diet Kitten Healthy Development
อาหารสำหรับลูกแมวสูตรพัฒนาการที่แข็งแรง มีสารอาหารที่สมดุล ย่อยได้ง่าย ไม่แต่งสี กลิ่น หรือใส่วัตถุกันเสีย
ระดับโปรตีน | – | รส | – |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | หย่านม – 1 ปี | ปริมาณ | 4 กิโลกรัม |
Happy Cat Junior Geflugel
อาหารแมวนำเข้าจากเยอรมัน เหมาะกับลูกแมวทุกสายพันธุ์ ทำมาจากเนื้อสัตว์ปีกและเนื้อปลาแซลมอน มีโปรตีนสูง
ระดับโปรตีน | 90% | รส | – |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | 4 เดือน – 1 ปี | ปริมาณ | 1.4 กิโลกรัม |
Pro Plan Kitten อาหารแบบเม็ดสำหรับลูกแมว
อาหารเหมาะสำหรับแมวท้อง แมวให้นมลูก และลูกแมว มีสารอาหารสำคัญที่ช่วยเสริมสร้างการเจริญเติบโต ย่อยง่าย และยังช่วยสร้างภูมิคุ้มกันให้กับแมวอีกด้วย
ระดับโปรตีน | 40% | รส | – |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | 6 สัปดาห์ – 1 ปี | ปริมาณ | 1.3 กิโลกรัม |
Hill’s Science Diet Kitten อาหารเปียกสำหรับลูกแมว
อาหารเปียกสำหรับลูกแมวที่ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง มี DHA ธรรมชาติจากน้ำมันปลาเพื่อพัฒนาการของสมองและสายตา รวมทั้งวิตามิน แร่ธาตุ และกรดอะมิโน ไม่ใส่สารกันบูด
ระดับโปรตีน | 37.8% | รส | ไก่ |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | หย่านม – 1 ปี | ปริมาณ | 4 กิโลกรัม |
Maru Kittens อาหารเม็ดสำหรับลูกแมว
อาหารเม็ดขนาดเล็ก ทานง่าย ไม่ใส่สีและสารตกค้าง มีวิตามิน อี กรดไขมัน และโอเมก้า 3 ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันให้กับแมว และยังช่วยป้องกันการเกิดก้อนขนไม่ให้จับตัวเป็นก้อนจากการเลียทำความสะอาดร่างกายของแมว
ระดับโปรตีน | สูงกว่า 30% | รส | ทูน่า ซูชิ |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | หย่านม – 1 ปี | ปริมาณ | 900 กรัม |
WHISKAS แบบเม็ด พ็อกเกต สูตรแมวโต รสปลาทู
มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ ช่วยขัดฟันและส่งเสริมสุขภาพช่องปากของแมว เม็ดอาหารกรุบกรอบพร้อมเนื้อครีมเข้มข้นภายใน อุดมไปด้วยกรดไขมันโอเมก้า 3, 6 และสังกะสี ช่วยให้มีขนนุ่ม สวยงาม มีวิตามินเอและทอรีน ช่วยส่งเสริมด้านการมองเห็น
ระดับโปรตีน | – | รส | ปลาทู |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | 1 ปีขึ้นไป | ปริมาณ | 1.2 กิโลกรัม |
Royal Canin Kitten Instinctive in Gravy อาหารเปียกสูตรลูกแมว
อาหารแมวเนื้อนุ่ม แมวสามารถเคี้ยวได้อย่างง่าย เหมาะสำหรับแมววัยแรกเกิด และแม่แมวที่กำลังตั้งท้อง
ระดับโปรตีน | – | รส | เกรวี่ |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | 4 เดือนขึ้นไป | ปริมาณ | 85 กรัม |
Whiskas Cat Food Wet Pouch Junior Mackerel อาหารเปียกสำหรับลูกแมว
อาหารแมวแบบเปียกทำมาจากเนื้อปลาแท้ๆ ที่มีคุณค่าทางโภชนาการสูง พร้อมทั้งอุดมไปด้วยสารอาหารถึง 41 ชนิด และยังช่วยบำรุงขนให้เงางาม
ระดับโปรตีน | – | รส | ปลาทู |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | 2 เดือน – 1 ปี | ปริมาณ | 85 กรัม |
Canagan Free Range Chicken
อาหารแมวที่ทำมาจากเนื้อไก่ และยังมีคุณค่าทางโภชนาการจากผัก สมุนไพร วิตามิน และแร่ธาตุรวมอยู่ด้วย ช่วยเสริมสร้างระบบการทำงานของร่ายกายและภูมิคุ้มกัน
ระดับโปรตีน | ไม่น้อยกว่า 34% | รส | ไก่ |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | 2 เดือนขึ้นไป | ปริมาณ | 1.5 กิโลกรัม |
Maxima Cat Food
อาหารแมวแบบเม็ดสูตรบำรุงขน ทำมาจากเนื้อแกะและเนื้อปลา ควบคุมระดับเกลือและแมกนีเซียมเพื่อป้องกันโรคไตและโรคนิ่ว
ระดับโปรตีน | ไม่น้อยกว่า 30% | รส | เนื้อแกะ |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | – | ปริมาณ | 15 กิโลกรัม |
Orijen Cat Six Fish อาหารแมวทุกวัย ไม่ผสมธัญพืช
อาหารแมวแบบเม็ดที่อุดมไปด้วยเนื้อไก่และเนื้อปลา ผสมไปด้วยผักสดและผลไม้เพื่อเพิ่มคุณค่าทางโภชนาการ ปราศจากธัญพืช มันฝรั่ง และ GMO ทุกชนิด
ระดับโปรตีน | ไม่น้อยกว่า 42% | รส | ไก่และปลา |
---|---|---|---|
อายุแมวที่เหมาะสม | – | ปริมาณ | 5.4 กิโลกรัม |
อาหารที่ไม่ควรให้แมวกิน
อาหารบางอย่างน้องแมวเองก็ทานไม่ได้ เช่นเดียวกับมนุษย์เราก็จะมีบางสิ่งที่ไม่สามารถทานได้อยู่เช่นกัน สิ่งที่ไม่ควรให้น้องแมวทานจะมีดังนี้
ยาพารา
แมวจะไวต่อความเป็นพิษของยาพาราได้มากกว่าสุนัข หากรับประทานเข้าไปจะเกิดความเป็นพิษร้ายแรงต่อตับ ไต ระบบทางเดินอาหารและทางเดินเลือด อาจจะส่งผลทำให้แมวเสียชีวิตเลยทีเดียว
นมวัว
แมวจะไม่สามารถย่อยน้ำตาลแลคโตสในนมวัวได้ และนมวัวเองก็มีปริมาณไขมันและโปรตีนต่างจากนมแมวด้วย หากแมวได้ดื่มเข้าไปอาจจะมีอาการท้องอืด ท้องเสียได้
ช็อกโกแลต
ช็อกโกแลตจะมีส่วนประกอบของ Methylxanthines Caffeine ซึ่งพบได้ในเมล็ดกาแฟ ชา โกโก้ และ Theobromine พบได้ในช็อกโกแลต โกโก้ ใบชา ซึ่งสารพวกนี้ส่งผลในระบบการขับปัสสาวะ และการเต้นของหัวใจ ซึ่งเป็นสิ่งที่อันตรายมากสำหรับน้องแมว
กระดูก
อาจจะมีบางคนชอบคิดว่า แมวชอบทานปลา ดังนั้นจึงให้ปลาทั้งตัวให้กับน้องแมว แต่การทำแบบนั้นอาจจะทำให้น้องแมวทานไปทั้งกระดูกหรือก้าง ส่งผลให้ติดคอ เกิดการอาเจียน จนถึงต้องพาน้องแมวเข้ารับการผ่าตัดได้
เนื้อติดมัน
บางคนอาจจะชอบให้เนื้อติดมันกับสัตว์เลี้ยงของเรา แต่สำหรับแมวนั้นห้ามให้เด็ดขาด เพราะจะส่งผลต่อระบบการย่อยอาหารของน้องแมว อาจจะทำให้เกิดอาการท้องเสีย หรืออาเจียนออกมาได้
ปลาดิบ
ปลาอาจจะเป็นเนื้อสัตว์ที่เหมาะกับน้องแมว แต่ถ้าเป็นปลาดิบเป็นสิ่งที่ไม่ควรให้น้องแมวทานอย่างยิ่ง เพราะหากน้องแมวทานไปนานๆจะส่งผลทำให้เกิดการขาดสารอาหาร และยังเสี่ยงต่อแบคทีเรียอีโคไล ซึ่งอาจจะทำให้น้องแมวเกิดอาการท้องเสียด้วย
อาการแพ้อาหารของแมว
อาการแพ้อาหารเกิดจากการที่น้องแมวทานอาหารที่มีสารก่อภูมิแพ้เข้าสู่ร่างกาย และจะมีอาการผิดปกติแสดงออกมาทางผิวหนัง เช่น คัน ผื่นแดง ขนร่วง ท้องเสีย อาเจียน ถ่ายเหลวผิดปกติ ซึ่งอาจจะใช้เวลาหลายเดือน หรืออาจจะเป็นปีในการที่น้องแมวจะแสดงอาการเหล่านี้ออกมา โดยสาเหตุส่วนใหญ่จะมาจากอาหารที่มีโปรตีน หรืออาหารประเภทเนื้อสัตว์นั่นเอง เช่น เนื้อวัว หรือนม โดยอาการแพ้อาหารนี้จะสามารถเกิดขึ้นได้กับแมวทุกเพศ ทุกวัย
วิธีรักษาหากแมวมีอาการแพ้อาหาร
อาหารที่แมวทานแล้วมักจะเกิดอาการแพ้ ส่วนใหญ่จะเป็นพวกนมวัว ไข่ เนื้อสัตว์ การรักษานั้นจะไม่ใช้ยา แต่จะใช้เป็นอาหารในการรักษาแทน โดยเราอาจจะต้องตรวจสอบชนิดอาหารที่เราให้แมวเราทานก่อนหน้านี้ และทำการเปลี่ยนอาหารเป็นชนิดใหม่โดยให้น้องแมวเราทานเป็นเวลา 6-8 สัปดาห์ติดต่อต่อกัน และคอยสังเกตอาการดู หากน้องแมวยังมีอาการแพ้อาหารอยู่ ให้ทำการเปลี่ยนอาหารเป็นชนิดใหม่ ถ้าหากอาการของน้องแมวยังไม่ดีขึ้น ควรพาน้องแมวไปพบแพทย์ทันที
การเลี้ยงสัตว์ให้อยู่คู่กับเราไปนานๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการดูแลเอาใจใส่พวกเขา ให้พวกเขาได้มีความเป็นอยู่ที่ดี เพราะเขาจะอยู่กับเราไปจนกว่าจะสิ้นอายุขัยเลย แต่ถ้าหากคุณปล่อยปละละเลยพวกเขา จะทำให้เขามีการการเครียด วิตกกังวล และไม่สามารถพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างคุณต่อไปได้อีก