รีวิวตู้เย็น 2 ประตู เลือกแบบไหนให้ประหยัดค่าใช้จ่าย
Credit : บ้านและตกแต่ง
ตู้เย็น 2 ประตู คืออีกประเภทของตู้เย็นที่ได้รับความนิยมอย่างมากเหมาะสำหรับการใช้งานในพื้นที่จำกัด ราคาตู้เย็นในปัจจุบันก็จับต้องได้ เหมาะกับครอบครัวที่มีสมาชิก 4-5 คน โดยความจุมีให้เลือกตั้งแต่ 200-500 ลิตร กว้างพอที่จะใส่เครื่องดื่ม อาหารแช่แข็ง อาหารสด ผัก ผลไม้ ได้เยอะและสามารถจะเก็บไว้ได้นาน ซึ่งจะช่วยให้ประหยัดค่าใช้จ่ายในเรื่องของการจัดซื้อ ประหยัดเวลา และประหยัดค่าไฟได้อีกด้วย
สารบัญ
จุดเด่นของตู้เย็น 2 ประตู
ด้วยความที่ตู้เย็น 2 ประตูมีขนาดความจุที่มากเพียงพอ รวมถึงมีฟังก์ชันให้ใช้งานที่มีมาพร้อมเพื่อที่จะตอบรับกับความต้องการของการใช้งานในปัจจุบันให้มากที่สุด ไม่ว่าจะเป็นการทำน้ำแข็ง เก็บไอศกรีมได้ รวมไปถึงการทำไอศกรีมแช่แข็งได้เช่นกัน นอกจากนี้ยังมีนวัตกรรมที่จะละลายน้ำแข็งให้โดยอัตโนมัติไม่มีน้ำแข็งคอยเกาะในห้องแช่แข็ง จึงไม่ทำให้อาหารติดช่องแช่แข็งให้หงุดหงิดใจ และทำน้ำแข็งได้เร็วกว่าตู้เย็นแบบประตูเดียว
เทคนิคเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู
ขนาดความจุ
- ตู้เย็นขนาด 7-13 คิว มีความจุประมาณ 200-300 ลิตร เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิก 1-2 คน
- ตู้เย็นขนาด 12-18 คิว มีความจุประมาณ 350-530 ลิตร เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิก 3-4 คน
- ตู้เย็นขนาด 15 คิว มีความจุประมาณ 440 ลิตรขึ้นไป เหมาะกับบ้านที่มีสมาชิก 5 คนขึ้นไป
ราคาตู้เย็น ตามความเหมาะสมของการใช้งาน
เพื่อให้ตอบรับกับประเภทผู้ใช้งานที่แตกต่างกัน ราคาตู้เย็นในปัจจุบันจึงมีหลากหลายตามฟังก์ชันและขนาดความจุ
- ตู้เย็นขนาดเล็ก ราคา 4,000-6,000 บาท แช่ของได้น้อยเหมาะกับห้องที่มีขนาดเล็ก
- ตู้เย็นแบบ 1 ประตู ราคา 5,000-7,000 บาท เหมาะกับที่พักอาศัยทั่วไปเน้นของไม่เยอะ
- ตู้เย็นแบบ 2 ประตู แยกช่องแช่แข็งและช่องธรรมดา ราคา 9,000-30,000 บาท เหมาะกับการใช้งานทั่วไป
- ตู้เย็นแบบ 2 ประตูแยกซ้ายขวา เหมาะสำหรับการจุของปริมาณมาก ราคา 40,000-100,000 บาท
- ตู้เย็นแบบหลายประตู มีแยกช่องแช่ ราคาประมาณ 50,000-160,000 บาท
ตู้เย็นหลายประตู
Credit : PNGkey
เทคโนโลยีความคุมความเย็น Smart Inverter Compressor
เป็นเทคโนโลยีที่เปรียบเสมือนเครื่องกลอัจฉริยะโดยระบบนี้จะทั้งทำหน้าที่สั่งการและควบคุมเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ทำงานอย่างชาญฉลาด และมีประสิทธิภาพที่สุด ซึ่งระบบ Inverter นั้นสามารถจะช่วยประหยัดพลังงานรวมได้สูงสุดถึง 40% แต่ยังคงประสิทธิภาพในการทำงานเอาไว้สมบูรณ์แบบ 100% ทำให้อุณหภูมิเย็นเร็วทันใจขึ้นและประหยัดพลังงานสูงสุดถึง 70% ซึ่งเมื่อตู้เย็นทำความเย็นถึงจุดที่ตั้งไว้แล้ว ระบบจะสั่งการให้ลดความเร็วรอบมอเตอร์โดยอัตโนมัติ แทนที่จะรีสตาร์ทเครื่องใหม่แบบตู้เย็น Non-Inverter
เป็นการรักษาอุณหภูมิให้คงที่ และมีความเย็นตลอดเวลาแม้จะเปิดปิดบ่อย สามารถที่จะถนอมอาหารให้คงสภาพน่ารับประทานได้นานกว่า อุณหภูมิของตู้เย็นแบบคงที่จะทำให้ตู้เย็นทำงานน้อยลง จึงประหยัดพลังงาน และประหยัดไฟกว่า Non-inverter ซึ่งเป็นระบบที่มอเตอร์ทำงานด้วยอัตราสูงสุด เพื่อที่ความเย็นอยู่ในระดับที่ตั้งไว้แล้วจะหยุดทำงานทันที และเมื่อเปิดประตูตู้เย็นมอเตอร์จึงจะเริ่มทำงานอย่างหนักอีกครั้ง เพื่อให้ได้ความเย็นที่ต้องการ ด้วยระบบนี้จึงทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากยิ่งขึ้น
ตู้เย็นระบบ NO FORST
เป็นระบบอัตโนมัติกับการละลายน้ำแข็งแบบการเป่าลมออกมาตลอดเวลาทำให้ไม่มีก้อนน้ำแข็งเกาะกันในช่องแช่แข็งของตู้เย็น โดยไม่จำเป็นจะต้องไปกดทำละลายน้ำแข็งด้วยตัวเอง ตู้เย็นถือเป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่สำคัญสำหรับการเก็บรักษาอาหารหรือของสดให้อยู่ได้นานตามความเหมาะสม และให้มีการสูญเสียก่อนเวลาน้อยลง
ฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5
Credit : energynewscenter
จะเป็นสัญลักษณ์ที่จะบอกถึงการประหยัดไฟฟ้าได้เพื่อช่วยในการตัดสินใจในการซื้อระดับหนึ่ง รวมไปถึงข้อมูลต่าง ๆ ที่ควรจะต้องรู้ของเครื่องใช้ไฟฟ้าชนิดนั้น ๆ เช่น ประสิทธิภาพ และค่าใช้จ่ายต่อปีจะถูกลงเท่าไหร่ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้าได้อย่างเหมาะสมและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว ปัจจุบันมีฉลากประหยัดไฟฟ้า เบอร์ 5 รูปแบบใหม่ แบ่งเกณฑ์ระดับประสิทธิภาพพลังงานออกเป็น 4 ระดับ โดยหากจะเลือกซื้อเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่าลืมมองหาฉลากประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5 รูปแบบใหม่ และจะต้องสังเกตที่ฉลากยิ่งมีดาวปรากฏบนฉลากมากยิ่งประหยัดไฟ
- เบอร์ 5
- เบอร์ 5 – 1 ดาว
- เบอร์ 5 – 2 ดาว
- เบอร์ 5 – 3 ดาว
คุณสมบัติพิเศษเฉพาะรุ่น
Credit : LGNewsroom
เครื่องจ่ายน้ำและน้ำแข็ง
ตู้เย็นบางแบรนด์ สามารถจะกดน้ำเย็นได้เลย โดยที่ไม่ต้องเปิดประตูตู้เย็น รวมไปถึงการกดรับน้ำแข็งได้เช่นกัน แต่อาจจะไม่ค่อยได้รับความนิยมมากนักเพราะจะใช้พื้นที่แช่น้ำแข็งเกือบ 30% นอกจากนี้ยังจำเป็นต้องเปลี่ยนไส้กรองน้ำตามระยะเวลาการใช้งาน
การควบคุมอุณหภูมิ
ตู้เย็นจำเป็นจะต้องมีการควบคุมอุณหภูมิความเย็นภายในตู้เย็น โดยเฉพาะตู้เย็นสองประตูก็ควรจะมีการควบคุมอุณหภูมิแยกต่างหากระหว่างช่องแช่เย็นและช่องแช่แข็ง รวมไปถึงควรจะมีสัญญาณเตือนการเปิดประตูตู้เย็น หากเปิดประตูตู้เย็นทิ้งไว้โดยไม่ได้ตั้งใจก็จะมีการส่งเสียงเตือนให้รู้ตัวเพื่อที่จะไม่ทำให้เปลืองไฟ
การกำจัดกลิ่น
คุณสมบัติการกำจัดกลิ่นเป็นคุณสมบัติที่มีประโยชน์มากเพราะจะช่วยรักษากลิ่นอาหารได้นานและไม่มีกลิ่นปนเปื้อน และยังสามารถกำจัดกลิ่นที่รุนแรงออกจากอาหารได้โดยใช้ตัวกรองพิเศษ จะทำให้อาหารมีความสดใหม่และไม่มีกลิ่นที่ปะปนกันภายในตู้เย็น
เสียงรบกวน
ปัจจุบันตู้เย็นจะไม่ค่อยมีเสียงการทำงานรบกวนมากนัก แต่หากเป็นไปได้ก็ควรจะมีการตรวจสอบระดับเสียงของตู้เย็นก่อนซื้อ และก็ควรจะมีระดับเสียงต่ำกว่า 35 เดซิเบล
การรับประกันสินค้า
ถึงแม้ว่าตู้เย็นเป็นอุปกรณ์ที่เริ่มมีราคาไม่แพงมาก แต่อาจจะเสียค่าใช้จ่ายในกรณีที่เกิดความเสียหายระหว่างขนส่งหรือการใช้งาน ก็ควรจะเลือกตู้เย็นที่มีการรับประกันตัวเครื่องรวมถึงการรับประกันคอมเพรสเซอร์เพื่อให้สามารถเคลมสินค้าได้หากมีปัญหาหรือเกิดความเสียหาย
เลือกตู้กดน้ำเย็น ไว้ใช้ควบคู่กัน
Credit : mybest
ปัจจุบันบริษัทฯ ห้างร้าน และองค์กรต่าง ๆ หรือในครัวเรือนที่มีสมาชิกจำนวนมาก ทำให้มีการบริโภคน้ำมากขึ้น และเครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกในการบริโภคน้ำดื่มก็คือ ตู้กดน้ำเย็น และในปัจจุบันนี้ก็ยังมี ตู้กดน้ำเย็น-น้ำร้อนได้ เพื่อตอบสนองความต้องการที่หลากหลายของการบริโภคน้ำ และยังช่วยให้ไม่ต้องเปิดปิดตู้เย็นบ่อย ๆ ไม่เปลืองพื้นที่ไปกับการแช่น้ำในตู้เย็นอย่างเดียว ซึ่งก็เป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะทำให้สามารถใช้งานตู้เย็นได้อย่างคุ้มค่า และประหยัดค่าใช้จ่ายมากขึ้นด้วย
การเลือกซื้อตู้เย็น 2 ประตู ปัจจุบันนี้อาจจะไม่ใช่เพียงแค่การเลือกแบรนด์สินค้าที่ชื่นชอบเท่านั้น แต่ยังต้องดูถึงระบบการทำงานที่จะช่วยให้ความคุ้มค่า ประหยัดค่าใช้จ่ายต่าง ๆ ค่าไฟ และรวมไปถึงค่าซ่อมบำรุงที่จะมีผลตามมา ดังนั้นการเลือกซื้อก็ต้องดูองค์ประกอบหลาย ๆ อย่าง ทั้งคุณสมบัติ และการรีวิวต่าง ๆ ให้ได้ความคุ้มค่ากับราคาที่จ่ายไปด้วย และที่นี่แหล่งช้อปปิ้งออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดของประเทศเข้าไปซื้อสินค้ากันได้เลย Shopee 10.10 Brand Festival โปร 10.10 สุดฟินเอาใจขาช้อป! กับขบวนสินค้าจากแบรนด์ดังชั้นนำตลอดทั้งแคมเปญ สินค้าดีลปังจากแบรนด์เพียง 10.- เท่านั้น! พร้อมเก็บโค้ดลด Shopee Mall ลดสูงสุดถึง 1,500.- และโปรโมชั่นส่งฟรีทั่วไทยไม่มีขั้นต่ำ เริ่มช้อปได้ตั้งแต่วันที่ 29 ก.ย. – 10 ต.ค. นี้ที่ Shopee 10.10 Brand Festival เท่านั้น!
อ้างอิงข้อมูล : WeMall