ทำความรู้จักกับจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

Life Style

Img by pantip.com
ทุกท่านคงจะเคยได้ยินชื่อของพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ ที่ประกอบด้วยจังหวัดปัตตานี ยะลา และนราธิวาส มีชายแดนติดกับประเทศมาเลเซีย มีภูมิประเทศและภูมิอากาศที่หลากหลาย ทำให้เกิดการสร้างงานสร้างอาชีพแก่ผู้ที่อาศัยผสมผสานเข้าด้วยกัน นอกจากนี้พื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ในอดีตเคยรุ่งเรืองทั้งยังเป็นเมืองท่าค้าขายกับต่างประเทศโดยเฉพาะจังหวัดปัตตานี ซึ่งเคยเป็นเมืองหลวงและเมืองท่าที่สำคัญของฝั่งทะเลอ่าวไทย ได้รับอิทธิพลสำคัญจากการเผยแพร่ศาสนาทั้งไทย จีน และมุสลิมและการอพยพเข้ามาตั้งถิ่นฐานของผู้คนต่างๆ ที่เดินทางมาเพื่อทำการค้าจึงก่อให้เกิดการผสมผสานระหว่างเชื้อชาติ ทั้งไทยพุธ ไทยมุสลิม ไทยจีนนับเป็นการผสานพหุวัฒนธรรมที่กลมกลืนเข้าด้วยกัน จึงก่อให้เกิดทรัพยากรทั้งทางธรรมชาติ วัฒนธรรมและวิถีชีวิตของผู้คนที่หลากหลาย ซึ่งมีดังรายละเอียดดังต่อไปนี้

จังหวัดปัตตานี


Img by thailandtourismdirectory.go.th

อาณาเขตของจังหวัดปัตตานี

ทิศเหนือ ติดต่อกับอ่าวไทย ทิศใต้ ติดต่อกับอำเภอเมืองยะลา อำเภอรามัน จังยะลา และเขตอำเภอบาเจาะ จังหวัดนราธิวาส ทิศตะวันออก ติดต่อกับอ่าวไทย ทิศตะวันตก ติดต่อกับเขตอำเภอเทพา และสะบ้าย้อย จังหวัดสงขลา

ภูมิประเทศของจังหวัดปัตตานี

ด้วยจังหวัดปัตตานีเป็นจังหวัดที่ติดต่อกับทะเลอ่าวไทย ดังนั้นพื้นที่ ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ที่ติดราบชายฝั่งทะเล และมีหาดทรายยาว ประมาณ 30 กิโลเมตร นอกจากนี้แล้วพื้นที่ตอนกลางของจังหวัดยังเป็นพื้นที่ราบลุ่มมีแม่น้ำปัตตานีไหลผ่าน ทำให้ดินในพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์เหมาะแก่การทำการเกษตร

ภูมิอากาศของจังหวัดปัตตานี

จังหวัดปัตตานีอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุมที่พัดประจำเป็น จะมีลมจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นลมเย็นและแห้งจากประเทศจีนพัดปกคลุมประเทศไทย ทำให้มีฝนตกชุก อากาศจึงไม่หนาวเย็นเหมือนภาคอื่น ๆ นอกจากนี้จังหวัดปัตตานี ตั้งอยู่ทางด้านฝั่งตะวันออกได้รับอิทธิพลของลมนี้เต็มที่จึงมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์ปานกลางและมีอากาศเย็นบ้างบางครั้ง ลมมรสุมอีกชนิดหนึ่งคือลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ซึ่งพัดผ่านมหาสมุทรอินเดีย รวมไปถึงเทือกเขาตะนาวศรีด้านตะวันตกซึ่งปิดกั้นกระแสลมเอาไว้ จึงทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและจังหวัดปัตตานีมีฝนน้อยกว่าภาคใต้ฝั่งตะวันออกและจังหวัดปัตตานีมีฝนตกน้อยกว่าภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลม

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดปัตตานี

สกายวอล์คปัตตานี

อีกหนึ่งสถานที่ท่องเที่ยวของจังหวัดปัตตานี ที่เป็นที่นิยมของนักท่องเที่ยว ทางเดินที่สร้างด้วยตาข่ายเหล็ก มีความสูงถึง 12 เมตร ที่สามารถชมความงามของภูมิประเทศของจังหวัดปัตตานีแบบ 360 องศาเลย

มัสยิดกลางปัตตานี

หรือทัชมาฮาล เมืองไทย เลยก็ว่าได้ เพราะมัสยิดกลางแห่งนี้มีต้นแบบโครงสร้างมาจาดทัชมาฮาล จากประเทศอินเดีย ผสมผสานกับตะวันตก ซึ่งทำให้มัสยิดกลางแห่งนี้มีความสวยงานน่าเที่ยวชม รวมไปถึงเป็นแห่งรวบรวมจิตใจของคนในจังหวัดปัตตานีอีกด้วย

ศาลเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว หรือ ศาลเจ้าเล่งจูเกียง

ศาลที่คู่บ้านคู่เมืองปัตตานีมาตั้งเต่อดีต โดยชาวบ้านในพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ให้ความเคารพนับถือกันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งความเชื่อการยืมเงินขวัญถุงกับเจ้าแม่ลิ้มกอเหนี่ยว ซึ่งจะจัดในวันขึ้น 15 ค่ำเดือน 3 เป็นประจำทุกปี

จังหวัดยะลา


Img by www.matichonweekly.com

อาณาเขตของจังหวัดยะลา

ทิศเหนือ ติดต่อกับจังหวัดสงขลา และจังหวัดปัตตานี เช่น อำเภอเมือง อำเภอรามัน บางส่วน ทิศใต้ ติดต่อกับรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซีย เช่น อำเภอเบตง ทิศตะวันออก ติดต่อกับจังหวัดนราธิวาส และรัฐเปรัค ประเทศมาเลเซียเช่น อำเภอรามัน อำเภอบันนังสตา และอำเภอธารโต บางส่วน ทิศตะวันตก ติดต่อกับจังหวัดสงขลา และรัฐเคดาห์ ประเทศมาเลเซีย เช่น อำเภอกาบัง อำเภอยะหา อำเภอธารโต

ภูมิประเทศของจังหวัดยะลา

ลักษณะภูมิประเทศของจังหวัดยะลา เป็นเทือกเขาสลับซับซ้อนและจะมีพื้นที่ราบเพียงเล็กน้อยเท่านั้น ที่ตั้งอยู่บริเวณตอนเหนือของจังหวัด แต่ทั้งนี้แล้วภูมิประเทศส่วนใหญ่ของจังหวัดยะลาเป็นที่ราบลุ่ม มีความเหมาะสมในการทำนาส่วนบริเวณตอนใต้ของจังหวัดเป็นป่าเขาและเนินสูง ปกคลุมไปด้วยป่าไม้

ภูมิอากาศของจังหวัดยะลา

จังหวัดยะลามี 2 ฤดู คือ ฤดูร้อน เริ่มตั้งแต่เดือน กุมภาพันธ์ถึงกลางเดือนกรกฎาคม งมีอากาศชุ่มชื้นและอบอุ่นในตอนกลางวันและอากาศเย็นสบายในตอนกลางคืนสภาพอากาศแบบร้อนชื้นและฤดูฝนเริ่มตั้งแต่กลางเดือนกรกฎาคม ถึงกลางเดือนกุมภาพันธ์ โดยเฉพาะช่วงเดือนตุลาคม-พฤศจิกายน จะมีฝนตกชุกที่สุดในฤดูนั้น

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดยะลา

สกายวอล์ค ทะเลหมอกอัยเยอร์เวง

ใครที่อยากชมหมอกหนา ๆ 360 องศา แบบภาคเหนือ แนะนำที่นี้เลย เพราะอยู่ที่บนระดับความสูงกว่า 2,000 ฟุต แถมสร้างความหวาดเสียวด้วยพื้นกระจกของสกายวอล์ค ที่มีความยาวถึง 61 เมตร ถือได้ว่าเป็นสกายวอล์คที่ยาวที่สุดในอาเซียนเลยเหละ

กุนุงซิลิปัต หรือ ฆูนุงสีรีปัต

จุดชมวิวทะเลหมอกอีกจุดที่อยากให้ลองไปเยี่ยมเยือนในจังหวัดยะลา ซึ่งเป็นที่ที่มีหมอกให้ชมตลอดทั้งปี แบบ 360 องศา ท่ามกลางวิวธรรมชาติและหุบเขาที่สลับซับซ้อน

เมืองเบตง

เมืองชายแดนที่มีมนต์เสน่ห์หลากหลายที่อยากให้นักท่องเที่ยวได้ไปสัมผัส ทั้งด้านวัฒนธรรมการกิน วิถีชีวิตความเป็นอยู่ ธรรมชาติที่อุดมสมบูรณ์ รวมไปถึงสิ่งก่อสร้างที่สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวได้ร้องว้าว พูดได้เลยว่าเป็นเมืองชายแดนในฝันของใครหลาย ๆ คน

จังหวัดนราธิวาส


Img by www.paiduaykan.com

อาณาเขตของจังหวัดนราธิวาส

ทิศเหนือ จดจังหวัดปัตตานีและอ่าวไทย ทิศใต้ จดอ่าวไทยและประเทศมาเลเซีย ทิศตะวันออก จดประเทศมาเลเซีย ทิศตะวันตก จดจังหวัดยะลา

ภูมิประเทของจังหวัดนราธิวาสศ

จังหวัดนราธิวาสมีอาณาเขต จดเทือกเขาสันกาลาคีรีซึ่งถือเป็นแนวกั้นพรหมแดน ไทยมาเลเซีย เป็นป่าและภูเขาประมาณ ๒ใน ๓ ของพื้นที่ทั้งหมด มีภูเขาหนาแน่น บางพื้นที่มีความลาดเอียงเป็นที่ราบลุ่มบริเวณแม่น้ำ ๓ สาย คือแม่น้ำสายบุรี แม่น้ำบางนราและแม่น้ำโก-ลก

ภูมิอากาศของจังหวัดนราธิวาส

จังหวัดนราธิวาสอยู่ภายใต้อิทธิพลของลมมรสุม 2 ชนิดคือ ลมมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือ จะมีลมพัดจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือซึ่งเป็นลมเย็นและแห้งจากประเทศจีนพัดอ่าวไทยเข้าปกคลุมจังหวัดนราธิวาส จังหวัดนราธิวาสมีฝนตกอยู่ในเกณฑ์ดีมาก และมีอากาศหนาวเย็นเป็นครั้งคราว ลมมรสุมอีกชนิดคือลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ ซึ่งพัดผ่านมหาสมุทรอินเดีย จึงพาเอาไอน้ำและความชุ่มชื้นมาสู่ประเทศไทย แต่เนื่องจากเทือกเขาตะนาวศรีด้านตะวันตกซึ่งปิดกั้นกระแสลมไว้ ทำให้บริเวณภาคใต้ฝั่งตะวันออกและจังหวัดนราธิวาสมีฝนตกน้อยกว่าภาคใต้ฝั่งตะวันตกซึ่งเป็นด้านรับลม

สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจของจังหวัดนราธิวาส

เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าฮาลา-บาลา

แหล่งท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่มีชื่อเสียงทุกสุดในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ และประเทศเพื่อนบ้านอย่างมาเลเชีย ซึ่งถือได้ว่าเป็นผืนป่าที่มีความอุดมสมบูรณ์ที่สุด เนื่องจากพบพรรณไม้และสัตว์ป่าที่หาดูได้ยาก อย่างนกเงือก กระทิง หมูป่า เป็นต้น

วัดชลธาราสิงเห

วัดเก่าแก่ของจังหวัดนราธิวาสที่ถูกสร้างขึ้นตั้งแต่รัชกาลที่ 4 มีเอกลักษณ์ของสถาปัตยกรรมที่โดดเด่นโดยการผสมผสานความเป็นไทยพุทธ มุสลิม และจีนไว้อย่างลงตัว

ศูนย์วิจัยและศึกษาธรรมชาติป่าพรุสิรินธร (ป่าพรุโต๊ะแดง)

เส้นทางศึกษาธรรมชาติที่มีความอุดมสมบูรณ์ของระบบนิเวศป่าพรุที่ผืนใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ซึ่งสถานที่แห่งนี้จะทำให้พบเห็นพรรณไม้น้อยใหญ่ในป่าพรุ ทั้งมะฮัง ตับจาก หลุมพี เป็นต้น เหมาะสำหรับผู้ที่ชื่นชอบธรรมชาติ และอยากให้เด็กๆในครอบครัวได้เรียนรู้ระบบนิเวศป่าพรุ ที่นี้เหมาะสมอย่างยิ่ง

ปัจจุบันนี้ 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ เปลี่ยนแปลงไปจากอดีตค่อนข้างมาก ทั้งเรื่องของความเจริญของชุมชนและความเจริญของเส้นทางคมนาคมกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างประเทศมาเลเชีย ทำให้เกิดการแลกเปลี่ยนทั้งทางด้านเงินตรา วัฒนธรรม นักท่องเที่ยว เป็นต้น ถึงแม้ว่าพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนใต้ จะประสบวิกฤติจากเหตุการณ์ความไม่สงบมายาวนาน แต่ยังคงมีนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศทางเข้ามาท่องเที่ยวในพื้นที่ 3 จังหวัดชายแดนไม่ขาดสาย การเดินทางเข้ามาของนักท่องเที่ยวใน 3 จังหวัดชายแดนภาคใต้ โดยเฉพาะนักท่องเที่ยวชาวต่างประเทศส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียที่เดินทางเข้ามา อาทิ อำเภอเบตง จังหวัดยะลา และอำเภอสุไหงโกลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งเป็นแหล่งท่องเที่ยวหลักของเมืองชายแดนภาคใต้ เขื่อนบางลา อำเภอธารโต เป็นต้น
และตอนนี้สนามบินเบตงก็เปิดให้บริการแก่ผู้ที่ต้องการเดินทางมา 3 จังหวัดชายแดนใต้แบบไม่ต้องใช้เวลาเยอะ อำนวยความสะดวกแก่ผู้ที่อยู่หากไกลแต่อยากเที่ยวแล้ว เดินทางสะดวกแบบนี้ เห็นทีต้องไปเยี่ยมเยือนสะหน่อย จะได้รู้ว่าประเทศของเราทรัพยากรธรรมชาติอุดมสมบูรณ์แค่ไหน

Team FAV

ทางทีมงานแอดมินทำเวปไซต์ Fav a good time นี้ขึ้นมา เพื่อแบ่งปันข้อมูลเกี่ยวกับการซื้อของทางออนไลน์ เนื่องจากปัจจุบันผู้บริโภคหันมาซื้อของออนไลน์มากขึ้น ทางทีมงานของเราจึงอยากเป็นส่วนหนึ่งในการตัดสินใจเลือกซื้อสินค้าของผู้บริโภคค่ะ ทำให้การตัดสินใจซื้อมีข้อมูลมากขึ้นคะ

Profile