การลดน้ำหนักของสาว ๆ ส่วนใหญ่เป็นไปเพื่อต้องการจะใส่เสื้อผ้าให้สบายตัว ไม่อึดอัด และเพื่อเพิ่มความมั่นใจ แต่บางครั้งเพื่อน ๆ ก็ชอบที่จะชวนไปกินไอศกรีม กินบุฟเฟ่ต์ ฯลฯ ทำให้หลาย ๆ ครั้งที่ตบะแตก เพราะฉะนั้นดึงสติให้ดีค่ะ ซึ่งวันนี้เรารวบรวมเอาพฤติกรรมที่ไม่ควรทำหากคิดจะลดน้ำหนักอย่างจริงจังมาฝากค่ะ ไปเช็คลิสต์กันเลย
สารบัญ
อดอาหารจนน้ำตาลในเลือดต่ำ
เป็นความเชื่อผิด ๆ ที่สาว ๆ หลายคนยังใช้กันอยู่ ซึ่งการอดอาหารแม้ว่าจะทำให้น้ำหนักลดก็จริง แต่เป็นการลดน้ำหนักที่ไม่มีประสิทธิภาพ เพราะการลดน้ำหนักแบบนี้จะเกิดผลข้างเคียงทำให้น้ำตาลในเลือดต่ำ โดยเฉพาะอย่างยิ่งสาว ๆ หรือใครก็ตามที่ไม่ยอมกินคาร์โบไฮเดรตในมื้อเช้า จะส่งผลให้หงุดหงิดง่าย อ่อนแรง เนื้อตัวสั่น ตลอดจนจะมีความรู้สึกหิวอย่างรุนแรง นอกจากนี้ร่างกายจะเรียนรู้ว่าเมื่อไม่มีอาหารใหม่ ๆ เข้าไป ร่างกายก็จะปรับเข้าสู่ภาวะการเอาตัวรอดด้วยการเก็บกักไขมันเอาไว้แทน
กังวลเรื่องอาหารมากไป
มีความวิตก กังวลมากเสียจนไม่กล้ากินอะไรเลย กลัวการกินอาหาร เพราะคิดว่าร่างกายของเราเพียงกินอาหารอะไรเข้าก็รู้สึกจะอ้วนง่าย หน้าท้องป่อง แต่การที่วัน ๆ หนึ่งร่างกายของเราไม่ได้รับอาหารอะไรเลย ยิ่งเป็นการทำให้ระบบเผาผลาญอาหารของเราอ่อนแอลง การเผาผลาญก็น้อยลงตามไปด้วย ภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ไม่เอาค่ะ ปรับวิธีคิดใหม่ ให้หันมากินอาหารครบ 5 มื้อ แต่ลดอาหารจำพวกคาร์บลง เน้นผัก และผลไม้มากขึ้น ควบคู่ไปกับการออกกำลังกายอย่างต่อเนื่องจะดีกว่า
นอนหลับพักผ่อนไม่เพียงพอ
บางคนอาจไม่รู้ว่าการนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอเป็นปัจจัยหนึ่งในการลดน้ำหนัก คนที่นอนน้อยจะส่งผลต่อระบบการทำงานของฮอร์โมนและอวัยวะต่าง ๆ จะทำงานได้อย่างไม่มีประสิทธิภาพ ส่งผลเสียโดยตรงต่อระบบเผาผลาญของร่างกาย ทั้งนี้ คนที่นอนดึกจะมีโอกาสหิวง่าย หิวบ่อย ต้องกินมื้อดึกเพิ่มมาอีก เพราะฉะนั้นหากยังต้องการลดน้ำหนักให้มีประสิทธิภาพ ควรปรับเวลานอนให้ได้อย่างน้อยวันละ 7 – 8 ชั่วโมง และไม่ควรนอนเกิน 4 ทุ่ม เพื่อให้ระบบเผาผลาญในร่างกายได้ทำงานอย่างเต็มที่ขณะหลับ
ขาดโปรตีนที่จำเป็นต่อร่างกาย
โปรตีนมีหน้าที่ซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย โดยเฉพาะกล้ามเนื้อที่ได้รับบาดเจ็บจากการออกกำลังกาย นอกจากนี้โปรตีนยังเป็นส่วนสำคัญของน้ำตาลในเลือด หากเราได้รับโปรตีนไม่เพียงพอก็จะทำให้น้ำหนักของเราไม่สามารถลดได้อย่างที่ควรจะเป็น ที่สำคัญ ชั้นไขมันบนฟผิวหนังก็จะไม่ยอมสลายไปได้ง่าย ๆ อีกด้วยค่ะ
ทดลองสูตรลดน้ำหนักแบบเร่งด่วน
เช่น อยู่ ๆ ก็ตัดคาร์บทิ้งไม่กินเลย โดยเฉพาะในมื้อเช้าซึ่งเป็นมื้อที่สำคัญของร่างกาย หรือกำหนดเองว่ามื้อนี้จะกิน มื้อนั้นจะไม่กิน เป็นต้น แบบนี้อาจทำให้น้ำหนักลดได้ในช่วงแรก แต่ต่อไปจะทำให้เกิดการโยโย่ได้ เพราะฉะนั้นให้กลับมากินตามปกติ เพียงแต่ควบคุมอาหารและออกกำลังกายคู่กันไปดีกว่าค่ะ หรืออาจจะใช้วิธีกินอาหารทดแทนก็ได้ค่ะ
รังเกียจร่างกายตัวเอง
หากสาว ๆ รู้สึกแย่กับร่างกายตัวเอง รังเกียจร่างกายตัวเองซะแล้ว ก็เท่ากับเป็นการทำให้ตัวเองหมดกำลังใจซะจนไม่อยากจะลดน้ำหนักแล้ว ลองเปลี่ยนค่ะ เปลี่ยนมุมมองให้มองในแง่ดีไว้ หาแรงผลักดันหรือหาไอดอลให้ตัวเอง เช่น สิ้นปีนี้ฉันต้องใส่ชุดราตรีสุดเซ็กซี่นี้ได้ เป็นต้น
หมกมุ่นอยู่กับเครื่องชั่งน้ำหนัก
จริงอยู่ว่าเรื่องของตัวเองมันหลอกกันไม่ได้ แต่การที่จิตใจเราหมกมุ่นอยู่แต่กับเครื่องชั่งน้ำหนักก็ดูจะเครียดเกินไป การลดน้ำหนักบางครั้งเราก็สามารถวัดได้จากเสื้อผ้า เช่น เสื้อผ้าที่เคยใส่แล้วอึดอัด มาวันนี้รู้สึกใส่ได้สบายมากขึ้น เท่านี้ก็เป็นกำลังให้เราได้อย่างดีแล้วล่ะค่ะ
ออกกำลังกายหักโหมมากไป
การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่ดีค่ะ แต่อะไรที่มากไปก็ไม่ดีทั้งนั้น การออกกำลังกายควรค่อยเป็นค่อยไป เริ่มให้ร่างกายคุ้นชินทีละน้อย เพิ่มความยากของโจทย์ไปเรื่อย ๆ ที่สำคัญ อย่าเผลอกินอาหารตามใจปากนะคะ (ท่องไว้ค่ะ ชุดราตรีสุดเซ็กซี่ ฉันต้องใส่ให้ได้)
หยุดออกกำลังกาย
สำหรับสาว ๆ ที่ต้องการลดน้ำหนัก คงมีบ้างที่มีช่วงเวลาที่รู้สึกว่าเหนื่อยมาก ไม่อยากทำแล้ว แต่อยากบอกว่าการลดน้ำหนักด้วยการออกกำลังกายนั้น คุณมาถูกทางแล้วค่ะ ให้คิดซะว่าการที่เราได้ออกกำลังกายจะทำให้เราหุ่นดี ฟิตเฟิร์ม จะใส่ชุดอะไรก็ดูสวย
ยอมรับความอ้วนของตัวเอง
ม่ายนะ…. สาว ๆ จะล้มเลิกความตั้งใจและจะยอมรับกับความอ้วนของตัวเองไม่ได้เด็ดขาดค่ะ เพราะแบบนี้ก็เท่ากับว่าคุณจะวางมือกับแผนการลดน้ำหนักอย่างถาวร
หอไอเฟลไม่สามารถสร้างได้ภายในวันเดียวฉันใด การลดน้ำหนักก็เช่นกัน เพราะฉะนั้น สาว ๆ ต้องมีความอดทน ให้เวลากับตัวเอง แล้ววันหนึ่งหุ่นฟิต หุ่นเฟิร์มต้องมาถึงอย่างแน่นอนค่ะ