ไวรัสโคโรน่า หรือ โควิด-19 เป็นโรคระบาดที่ยังคงมีผู้ติดเชื้อกันอย่างต่อเนื่องจะมีมากบ้างน้อยบ้าง เป็นโรคระบาดที่ทำเอาใครหลาย ๆ คนกังวล โวรัสโคโรน่าสามารถแพร่กระจายได้ในหลาย ๆ ทางซึ่งหนึ่งในนั้นคือ อากาศ ดังนั้น “เครื่องฟอกอากาศ” จึงเป็นตัวเลือกในลำดับต้น ๆ ที่จะทำให้อากาศนั้นสะอาด สามารถสูดหายใจได้เต็มปอด แต่คำถามคือ เครื่องฟอกอากาศสามารถกรองไวรัสโคโรน่าได้ไหม?
สารบัญ
ระยะเวลาที่ไวรัสโคโรน่าอาศัยอยู่บนพื้นผิวต่าง ๆ
ในอากาศ
ฝอยละอองที่เกิดจากการไอหรือจาม มีเชื้อไวรัสปนมากับละอองฝอย จะมีชีวิตอยู่ได้เป็นเวลา 3 ชั่วโมง
ทองแดง
เชื้อไวรัสโคโรน่าจะอยู่บนพื้นผิวของทองแดงได้ 4 ชั่วโมง
กระดาษลัง – พัสดุไปรษณีย์
บนพื้นผิวของกระดาษลังหรือกระดาษบนกล่องไปรษณีย์จะมีชีวิตอยู่ได้ 24 ชั่วโมง
พลาสติก – สแตนเลส
เป็นพื้นผิวที่อยู่ได้นานที่สุด โดยมากถึง 72 ชั่วโมง หรือประมาณ 3 วัน
ข้อมูลอ้างอิง thonburibamrungmuang.com
ติดเชื้อไวรัสโคโรน่าได้จากทางใดบ้าง
ฝอยละอองที่แพร่กระจายในอากาศระยะใกล้
ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การตะโกน การร้องเพลง การพูดคุย และการไอจาม โดยละอองนี้จะมีขนาดใหญ่ โดยมีเส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 5 ไมครอน ซึ่งขนาดของฝอยละอองที่มี่ขนาดใหญ่เท่านี้ เครื่องฟอกอากาศไม่สามารถกรองการแพร่กระจายในรูปแบบนี้ได้
ฝอยละอองที่แพร่กระจายในอากาศระยะไกล
การแพร่กระจายผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ที่กล่าวมาข้างต้นนั้น หากแพร่กระจายในอากาศระยะไกลจะส่งผลให้ขนาดของฝอยละอองนั้นเล็กลง แต่ก็ยังสามารถลอยได้ไกลถึง 4 เมตร และอยู่ในอากาศได้นานกว่า 45 นาที สำหรับเครื่องฟอกอากาศที่จะกรองอากาศในรูปแบบนี้ได้จะเป็นเครื่องฟอกแบบห้องแรงดันที่ใช้ในทางการแพทย์ ซึ่งต้องเป็นเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูงเท่านั้น
การสัมผัส
เนื่องจากเชื้อไวรัสโคโรน่าสามารถมีชีวิตอยู่ได้บนพื้นผิวของวัตถุต่าง ๆ ดังนั้น เมื่อผู้ป่วยได้ไปสัมผัสกับจุดสัมผัสร่วมตามสถานที่สาธารณะแล้วเอามือมาสัมผัสที่ใบหน้า ตา ปาก และจมูก ก็อาจทำให้ร่างกายได้รับเชื้อนี้เข้าไปด้วย การล้างมือบ่อย ๆ และใช้เจลแอลกอฮอล์ก็จะช่วยป้องกันการติดเชื้อได้ ในขณะที่เครื่องฟอกอากาศไม่สามารถช่วยกรองอากาศในรูปแบบนี้ได้
เครื่องฟอกอากาศจะกรองเชื้อไวรัสได้อย่างไร?
ในเครื่องฟอกอากาศจะมีแผ่นกรองในการกำจัดอนุภาคออกจากอากาศด้วยการจับให้ติดอยู่กับโครงตาข่าย ส่วนใหญ่แล้ว จะแบ่งออกเป็น “ชนิดใยแก้วแท้” และ “ชนิดใยสังเคราะห์”
แผ่นกรอง HEPA (High Efficiency Particulate Air)
ส่วนใหญ่ผลิตมาจากใยสังเคราะห์ที่มีการเพิ่มประจุไฟฟ้าสถิตเอาไว้บนเส้นใยเพื่อช่วยในการดักจับอนุภาคให้ติดกับตาข่าย แต่ก็จะมีข้อจำกัดมากกว่า เพราะหากตัวกรองสะสมอนุภาคไว้มากจนเต็ม ก็จะทำให้ประสิทธิภาพในการดักจับก็ลดลง
แผ่นกรอง HyperHEPA
ผลิตจากใยแก้วแท้ที่มีความละเอียดถึง 0.003 ไมครอน ซึ่งสามารถดังจับอนุภาคที่เล็กมาก ๆ อย่าง 0.1 ไมครอนได้ ซึ่งไวรัสโคโรน่ามีขนาด 0.06 – 0.14 ไมครอน ซึ่งมีขนาดเล็กกว่า PM2.5 หลายร้อยเท่า แผ่นกรองขนิดนี้จึงสามารถดักจับเชื้อไวรัสได้ และก็ยังสามารถทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพตลอดอายุการใช้งาน
ข้อมูลอ้างอิง iqualityair.com
เครื่องฟอกอากาศแบบไหนที่สามารถกรองไวรัสโคโรน่าได้
ด้วยหน้าที่หลักของเครื่องฟอกอากาศจะทำหน้าที่กรองอนุภาคต่าง ๆ ที่ไม่พึงประสงค์แล้วดูดให้ติดอยู่กับโครงตาข่ายด้านในเครื่อง แต่เครื่องฟอกอากาศไม่ใช่ควรจะเป็นสิ่งแรกที่จะใช้ป้องกันเชื้อไวรัส ถึงแม้ว่าเครื่องฟอกอากาศบางรุ่นจะสามารถกรองได้บ้างก็ตาม (ไม่มีเครื่องฟอกอากาศชนิดไหนที่สามารถกรองเชื้อไวรัสได้ 100%) แต่ก็อย่าลืมว่าเชื้อไวรัสโคโรน่าก็ยังติดอยู่ที่แผ่นกรองอยู่ดี โดยสนนราคาของเครื่องที่มีประสิทธิภาพสูง ราคาเริ่มตั้งแต่หลักพันไปจนถึงหมื่นปลาย ๆ เลยทีเดียว
ลำพังว่าแค่กรองอากาศ คงไม่เกินความสามารถของเครื่องฟอกอากาศ แต่หากเป็นเชื้อไวรัสโคโรน่าก็ทำได้ประมาณหนึ่ง แต่ไม่ว่าจะแบบไหน การที่จะให้ได้มาซึ่งอากาศที่ดีนั้น ต้องควักกระเป๋าจ่ายกันไม่น้อยเลยทีเดียว และ ไม่ว่าจะแพงแค่ไหนก็ตามก็ยังไม่สามารถกรองเชื้อไวรัสได้ 100% เพราะฉะนั้น เพื่อสุขภาพที่ดี ห่างไกลจากโควิด-19 เราจึงควรป้องกันตัวเองด้วยการสวมใส่อนามัย พร้อมกับ Face Shield ล้างมือให้สะอาดบ่อย ตามด้วยเจลแอลกอฮอล์กันนะคะ