ไม้ปิงปอง ไม้แบบไหนที่มืออาชีพเลือกใช้ ฉบับ 2022

หากจะพูดถึงกีฬาปิงปองหรือเทเบิลเทนนิสนั้น หนึ่งในอุปกรณ์สำคัญที่หากขาดไปแล้วจะทำให้เกมส์กีฬาปิงปองไม่สามารถเกิดขึ้นได้ก็คือ ไม้ปิงปอง ซึ่งในปัจจุบันนั้นไม้ปิงปองถูกออกแบบพัฒนาให้ดีขึ้นกว่าแต่ก่อนมาก ทั้งในเรื่องของความแข็งแรง น้ำหนัก รวมไปถึงกระทั่งยางปิงปอง ที่มีความเหนียว และความยึดเกาะกับลูกปิงปอง และคุณสมบัติอื่นๆอีกมากมาย ซึ่งมีความสำคัญอย่างมากในการเล่นปิงปอง และด้วยความก้าวหน้าของการพัฒนาไม้ปิงปอง จึงทำให้ในปัจจุบันมีไม้ปิงปองถูกผลิตออกมาหลากหลายแบบ หลากหลายคุณสมบัติ และหลากหลายราคา เพื่อตอบสนองต่อความต้องการของผู้เล่นปิงปองและนักกีฬาปิงปอง จึงทำให้การเลือกซื้อไม้ปิงปองแต่ละครั้งนั้นจะต้องศึกษารายละเอียด ชนิด และคุณสมบัติของไม้ปิงปองให้แน่ชัดก่อนการสั่งซื้อ เพื่อให้ได้ไม้ที่เหมาะสม ตรงต่อความต้องการของผู้ใช้

ไม้ปิงปองมีกี่ประเภท

ไม้ปิงปอง มี 2 ประเภท คือ ไม้ปิงปองแบบสำเร็จรูปกับไม้แบบประกอบ

ไม้ปิงปองสำเร็จรูป

ไม้ปิงปองแบบสำเร็จรูป คือ ไม้ปิงปองที่วางจำหน่ายตามท้องตลาดทั่วไป ซึ่งมีลักษณะสังเกตได้คือ ตัวไม้ปิงปองจะมียางปิงปองติดมาให้สำเร็จพร้อมที่จะใช้งานได้เลยทันที ด้วยความที่เป็นไม้ซึ่งหาซื้อได้ง่ายและสำเร็จรูปพร้อมใช้งานได้เลย จึงทำให้เหมาะแก่คนกำลังหัดตีปิงปอง หรือใช้เล่นเพื่อความสนุกสนาน รวมไปถึงคนที่ต้องการนำมาใช้ในการเรียนการสอนอีกด้วย

ไม้ปิงปองแบบประกอบ

ไม่ปิงปองแบบประกอบ คือ ไม้ปิงปองที่ผู้ใช้จะต้องเลือกไม้เปล่าและยางปิงปอง และนำมาประกอบเอง ซึ่งไม้ลักษณะแบบนี้นั้นจะเหมาะกับนักกีฬาในการนำไปใช้แข่งขัน เนื่องจากมีคุณสมบัติและประสิทธิภาพที่สูงกว่าไม้ปิงปองแบบสำเร็จรูปอย่างมาก จึงทำให้ช่วยในการพัฒนาฝีมือการเล่นให้กับนักกีฬา เพราะไม้ชนิดนี้จะทำให้นักกีฬาสามารถตีลูกหมุนในแบบต่างๆได้ แต่ราคานั้นจะสูงกว่าไม้ปิงปองแบบสำเร็จรูปหลายเท่าตัว แต่ก็ให้ประสิทธิภาพการใช้งานที่สูงกว่าด้วยเช่นกัน จึงไม่เหมาะสำหรับมือใหม่หรือคนกำลังหัดเล่นเนื่องจากต้องใช้ทักษะและพื้นฐานที่สูงในการใช้ไม้นั่นเอง

ส่วนประกอบของไม้ปิงปอง

ส่วนประกอบของไม้ปิงปอง คือ ยางและไม้ ซึ่งในการเล่นกีฬาปิงปองนั้น ยางคืออุปกรณ์ที่จะช่วยในการหมุนของลูกปิงปอง ส่วนไม้นั้นคืออุปกรณ์ที่จะให้ความเร็วกับลูกปิงปอง โดยราคาของยางและไม้ปิงปองในปัจจุบันนั้นจะขึ้นอยู่กับแหล่งที่มาและวัตถุดิบในการผลิต

ไม้

ไม้ ถือเป็นชิ้นส่วนสำคัญในกีฬาปิงปองเลยก็ว่าได้ โดยมีหน้าที่ คือ ให้ผู้เล่นกีฬาใช้จับและควบคุมทิศทางของลูกปิงปอง ทั้งนี้เองนั้นเราควรทำความเข้าใจถึงสไตล์การจับไม้ก่อนเป็นพื้นฐานอันดับแรก โดยทั่วไปแล้วจะแบ่งวิธีการจับไม้ออกเป็น 2 แบบ คือ

การจับแบบสากล (Shakehand Style)

การจับไม้แบบสากล การจับไม้ปิงปองวิธีนั้นเป็นวิธีที่ให้ความนิยมทั่วโลก ซึ่งมีรูปแบบที่คล้ายคลึงกันการจับมือ Shakehand ของชาวยุโรป การจับในลักษณะนี้สามารถควบคุมการตีโฟร์แฮนด์และแบคแฮนด์ได้ง่าย สามารถเล่นได้ดีทั้งการโจมตีและการเล่นแบบตั้งรับ ทั้งนี้ก็มีข้อเสียคือการเลือกช็อตตีที่ค่อนข้างยากเมื่อลูกมาระหว่างกลางตัว หากผู้ใช้ฝึกมาไม่ดีอาจจะทำให้ตัดสินใจได้ยากว่าจะใช้ด้านใดในการตีโต้กลับไป

การจับแบบปากกา (Penhold)

การจับไม้แบบปากกาหรือที่คนทั่วไปชอบเรียกกันว่า จับแบบไม้จีน ซึ่งการจับไม้แบบนี้เป็นนิยมกันมากในแถบทวีปเอเชีย ได้แก่ จีน ญี่ปุ่น เกาหลี การจับไม้แบบนี้จะมีลักษณะที่คล้ายกับการจับปากกาสมตามชื่อเรียก ข้อดีของการจับแบบนี้คือง่ายต่อการฝึกฝน ง่ายต่อการควบคุมลูกปิงปอง แต่จะต้องมีการเคลื่อนที่ได้รวดเร็ว ซึ่งชาวเอเชียส่วนใหญ่นั้นตัวจะเล็กและเคลื่อนที่ได้รวดเร็วปราดเปรียว ด้วยเหตุนี้จึงทำให้การจับไม้แบบไม้จีนจึงเป็นที่นิยมกันมากในแถบเอเชีย แต่สำหรับในยุโรปแล้วมีนักกีฬาที่ใช้วิธีการจับไม้แบบนี้กันน้อยมาก เพราะนักกีฬายุโรปมักจะเคลื่อนที่ได้ช้าเหมาะสำหรับการเล่นเกมส์รับ การจับไม้แบบจับปากกามีข้อเสียคือตีแบคแฮนด์ได้ค่อนข้างยาก เพราะไม่สามารถเล่นลูก Top Spin ได้สะดวก

ยาง

ยาง ถือว่าเป็นอีกส่วนประกอบหนึ่งที่สำคัญไม่แพ้ไม้เลยเช่นกัน เนื่องจากช่วยในเรื่องการควบคุมแรงหมุน ความเร็ว และการควบคุมลูกปิงปอง ยางแต่ละด้านของไม่ปิงปองจะมีสีที่แตกต่างกัน คือ ด้านนึงสีดำ และอีกด้านสีแดง ซึ่งยางบนไม้ปิงปองสามารถแบ่งออกได้เป็น 3 อย่างคือ Pimple, Thicker และ Pip เรามาดูกันว่า แต่ละอย่างนั้นมีคุณสมบัติอะไรกันบ้าง

กาว

เชื่อหรือไม่ว่า กาว ที่ใช้ติดระหว่างยางกับหน้าไม้ปิงปองก็ส่งผลต่อการเล่นปิงปองเช่นกัน ทั้งในเรื่องของความเร็วในการตี ความคงทนของไม้ที่ใช้ กาวที่เหมาะสมสำหรับการใช้ประกอบไม้ปิงปองมากที่สุดคือกาวประเภทน้ำ แต่ต้องเป็นชนิดที่จะช่วยยึดติดระหว่างยางกับไม้ ได้โดยไม่มีสารระเหยที่จะเข้าไปทำลายยางของไม้

วิธีการเลือกซื้อไม้ปิงปอง

ก่อนจะเลือกซื้อไม้ปิงปอง ควรศึกษาความแตกต่างของไม้และยางแต่ละรุ่นให้ละเอียดเสียก่อนว่าตรงกับนิสัยการตีของตัวเองหรือไม่ เชื่อหรือไม่ว่า ไม้อย่างเดียวกันที่แปะด้วยยางแบบเดียวกัน แต่กลับให้ความรู้สึกในการใช้ไม่เหมือนกันเลยในความรู้สึกของผู้เล่นแต่ละคน เพราะนักปิงปองแต่ละคนต่างมีนิสัยการจับไม้ การเหวี่ยงแขน และการตีลูกในจังหวะที่แตกต่างกัน โดยมีพื้นเพมาจากพื้นฐานด้านสรีระร่างกาย รวมถึงลักษณะนิสัยส่วนตัวด้วยเช่นกัน การเลือกซื้อไม้ปิงปองจึงเป็นเรื่องที่สำคัญและไม่ควรมองข้ามเป็นอันขาดหากต้องการตอบโจทย์ความต้องการในการนำไปใช้ได้อย่างถูกต้องตามความต้องการ

การเลือกซื้อไม้ปิงปองสำหรับมือใหม่

หากคุณเป็นมือใหม่หรือผู้ที่กำลังสนใจในการเริ่มเล่นกีฬาปิงปอง ควรมุ่งเน้นไปที่การเลือซื้อไม้ที่สามารถควบคุมทิศทางการตีลูกปิงปองได้ง่าย เหมาะแก่การฝึกพื้นฐานในการเล่น เพื่อให้มีทักษะที่เพียงพอต่อการใช้ไม้ที่ควบคุมยากและมีรายละเอียดในการใช้ที่มากขึ้น และต้องใช้ทักษะที่สูงขึ้นควบคู่ในการใช้ เนื่องจากยังเป็นผู้เล่นที่ไม่มีทักษะมากนัก จึงยังไม่จำเป็นต้องมุ่งเน้นลงลึกในเรื่องของยางและไม้ในรูปแบบต่างๆอย่างที่นักกีฬาใช้กันในการแข่งขัน

การเลือกซื้อไม้ปิงปองสำหรับพัฒนาทักษะ

หากผู้ใช้มีพื้นฐานในการเล่นและทักษะความชำนาญในการใช้ไม้มากพอตัว แล้วมีความต้องการอยากจะเพิ่มทักษะในการเล่นมากขึ้น การมองหาไม้อันใหม่ที่สามารถควบคุมลูกและความเร็วในการตีลูกได้มากกว่าไม้อันเก่าจึงเป็นการตอบโจทย์ที่ดีสุด เพราะจะทำให้เราพัฒนาในด้านต่างๆมากยิ่งขึ้นหลังได้เปลี่ยนไม้แล้ว เพราะตัวผู้ใช้เองจะเป็นคนที่สามารถตอบได้ดีที่สุดว่าตอนนี้ไม้ที่เราใช้อยู่นั้นถึงขีดจำกัดในการพัฒนาแล้วหรือยัง

การเลือกซื้อไม้ปิงปองสำหรับมืออาชีพ

การเลือกไม้ปิงปองสำหรับมืออาชีพหรือนักกีฬา เป็นเรื่องยากและซับซ้อนมากในการแนะนำ เนื่องจากนักกีฬามืออาชีพแต่ละคนนั้นมีสไตลล์การเล่นที่แตกต่างกันออกไป และมีประสบการณ์การใช้ไม้และยางมาอย่างมากมายโชกโชน จึงทำให้การที่จะเลือกไม้ให้เข้ากับสไตล์การเล่นนั้นเป็นเรื่องที่ต้องพิจารณาอย่างละเอียดถี่ถ้วนเป็นพิเศษ ทั้งนี้ทั้งนั้นการทดลองเล่นกับไม้ของนักกีฬาคนอื่นก็เป็นหนึ่งในวิธีที่ได้รับความนิยมในการหาไม้ที่เหมาะกับสไตล์การเล่นของมืออาชีพแต่ละคนเช่นกัน

เลือกจากสไตล์การเล่นของตัวเอง

เนื่องจากไม้ปิงปองในตลาดปัจจุบัน มีให้เลือกมายหลายชนิดและหลากหลายคุณสมบัติเพื่อตอบสนองต่อสไตล์การเล่นของแต่ละบุคคล จึงทำให้การเลือกไม้ปิงปองสักไม้มาใช้เป็นเรื่องที่ตัดสินใจได้ยาก ดังนั้นทางที่ดีที่สุด เราจะต้องรู้ว่าเรากำลังต้องการอะไรอยู่ ไม้แบบไหนจึงจะตอบโจทย์สไตล์การของเล่นของเราได้ดีที่สุด

สไตล์การเล่นแบบบุก : เน้นไม้ปิงปองที่มีน้ำหนักเบา

สไตล์บุก (Attacking / Offensive) เป็นสไตล์การเล่นที่จะเน้นในการรุกต้อนคู่แข่งให้จนมุมด้วยการตบ เมื่อเป็นเช่นนี้ ไม้ปิงปองสำหรับสไตล์บุกจึงควรเป็นไม้ปิงปองที่มีคุณสมบัติให้ความเด้งสูง หรืออาจจะมีการสอดไส้วัสดุอื่น เช่น คาร์บอนหรือไฟเบอร์ เพื่อเพิ่มความเด้งลงไปในตัวไม้ ด้วยสไตล์การเล่นแบบนี้ไม้ Offensive (Off++) ซึ่งไม้ชนิดนี้จะมีชั้นนอกแข็งกว่า จึงทำให้ช่วยส่งกำลังได้มากในการบุก จึงเป็นไม้ที่เหมาะกับสไตล์การเล่นแบบบุกอย่างมาก นอกจากนี้หากไม้ปิงปองของผู้เล่นมีน้ำหนักเบา จะสามารถช่วยให้ผู้เล่นสามารถบุกได้ต่อเนื่องมากขึ้นโดยที่ไม่เหนื่อยหรือเมื่อยกล้ามเนื้อเนื้ออีกด้วย

สไตล์การเล่นแบบรับ : เน้นการออมแรง

สไตล์รับ (Defensive) เป็นสไตล์ที่จะเน้นที่การรับมือกับการบุกของคู่ต่อสู้ โดยจะใช้กลยุทธ์เพื่อทำให้คู่ต่อสู้พลาดด้วยตนเอง หรือบุกจนหมดแรง หรืออาจจะเพื่อที่เราจะสามารถหาโอกาสในการสวนกลับไปได้ ด้วยสไตลล์การเล่นแบบนี้จึงควรจะต้องมองหาไม้ Defensive (Dff) ซึ่งไม้ชนิดนี้นั้นจะมีชั้นนอกนิ่มกว่า จึงทำให้ช่วยคุมลูกได้ดีผนวกกับความเด้งของไม้ที่ค่อนข้างจำกัด เพื่อช่วยไม่ให้ลูกที่รับกลับแรงมากจนเกินไป หรือรับกลับไปแล้วอีกฝ่ายสามารถตอบโต้กลับได้ง่ายๆ

สไตล์กึ่งบุกกึ่งรับ: เน้นจากผสมทั้งบุกและรับ

สไตล์กึ่งบุกกึ่งรับ / Counter-Attacking Style หรือที่เรียกว่า สไตล์ All Round เป็นสไตล์ที่ผสมผสานระหว่างการตีรุกใส่คู่แข่งกับการรับมือจากการบุกของคู่แข่ง เรียกได้ว่าเป็นสายสมดุล ดังนั้น ลักษณะไม้ที่เลือกควรจะเป็นชนิด All Round หรือเรียกง่ายๆ ไม้ All ไม้ชนิดนี้จะมีแกนในเป็นไม้แข็ง ชั้นนอกนิ่มกว่า ไม้นี้จะให้ความเร็วปานกลาง ทำให้สามารถควบคุมลูกได้ดีด้วยเช่นกัน

ไม้ปิงปอง ไม้แบบไหนที่มืออาชีพเลือกใช้

ไม้ปิงปอง STIGA รุ่น CLIPPER M

ไม้ปิงปองที่โด่งดังไปทั่วโลก ในเรื่องของเกมส์รับที่แข็งแกร่ง ผสานกับเกมส์รุกที่บุกได้รุนแรงไม่แพ้กัน โดยเฉพาะเกมส์รับนอกโต๊ะ คุณจะสามารถประหยัดแรงส่งลูกกลับได้อย่างดี พร้อมกับประสิทธิภาพในการคอลโทรลลูกได้อย่างโดดเด่น การันตีคุณภาพ ด้วยนักปิงปองระดับโลกมากมายหลายคน อาทิ เช่น Jean-Michel Saive และ Liu Guoliang

ประเภท	ไม้ปิงปองประกอบ
วัสดุ	ไม้ธรรมชาติ 7 ชั้น
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	FL
เหมาะกับสไตล์	OFF

---

ไม้ปิงปอง BUTTERFLY รุ่น TIMO BOLL ALC

หากพูดถึงไม้ปิงปองรุ่นนี้แล้ว จะต้องนึกถึง Timo Boll ยิดนักปิงปองระดับโลกชาวเยอรมัน ซึ่งเป็นคนออกแบบไม้ปิงปองรุ่นนี้ และใช้งานจริงด้วยตัวเอง โดยตัวไม่ปิงปอง ทำมาจาก ไม้ธรรมชาติ 5 ชั้น ผสานกับ Arylate Carbon (ALC) อีก 2 ชั้น จึงช่วยให้ไม้นี้มีสัมผัสที่นุ่ม สอดคล้องกับสไตล์การเล่นของตัวผู้ออกแบบเอง ที่เน้นคอลโทรลูก ผสานกับการเกมส์รุกที่รุนแรง รวดเร็ว พร้อมสปินที่สมบูรณ์แบบยอดเยี่ยม นักกีฬาที่ต้องการการบุกที่ดุดัน เฉียบคม โดยที่ยังควบคุมไม้ได้อย่างสบาย จึงไม่ควรพลาดไม้รุ่นนี้เป็นอย่างยิ่ง

ประเภท	ไม้ปิงปองประกอบ
วัสดุ	ไม้ธรรมชาติ 5 ชั้น + Arylate Carbon (ALC) 2 ชั้น
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	ST, SL และ AN
เหมาะกับสไตล์	OFF

---

ไม้ปิงปอง YASAKA รุ่น MA LIN CARBON

ด้วยชื่อรุ่น ที่เป็นชื่อของ Ma Lin อดีตนักปิงปองชาวจีนชื่อดังระดับโลก ซึ่งเขาได้เคยใช้ไม้นี้ในการแข่งขัน หากพูดถึงจุดเด่นของไม้ปิงปองนี้ คงต้องยกให้น้ำหนักที่กำลังพอดี พร้อมดีไซน์ด้ามจับที่ถูกออกแบบมาทั้ง ST และ FL ด้วยโครงสร้าง ไม้ธรรมชาติ 5 ชั้น + Carbon 2 ชั้น ทำให้ไม่ปิงปองรุ่นนี้มีความแรงที่ค่อนข้างโดดเด่น คอลโทรลลูกได้ดี เวลาตีลูกแล้วไม้ไม่สั่น เป็นไม้ระดับ OFF ที่มีคุณภาพโดดเด่นคุ้มราคาอย่างแน่นอน

ประเภท	ไม้ปิงปองประกอบ
วัสดุ	ไม้ธรรมชาติ 5 ชั้น + Carbon 2 ชั้น
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	ST และ FL
เหมาะกับสไตล์	OFF

---

ไม้ปิงปอง XIOM รุ่น ZETRO QUAD

หากคุณเป็นผู้เล่นที่จับไม้แบบจีนสไตล์ หรือ การจับแบบปากกา แล้วมีความต้องการไม้ที่จะช่วยทุ่นแรงคุณในการบุก ไม้ปิงปองรุ่นนี้ตอบโจทย์ของคุณได้อย่างแน่นอน ด้วยการผสมผสานไม้ธรรมชาติ 5 ชั้น และ Cylon Fiber 2 ชั้น และ Soft Carbon 2 ชั้น ทำให้ไม้นี้นั้นมีถึง 9 ชั้น จึงทำให้ไม้ปิงปองรุ่นนี้ พุ่ง และเด้ง เป็นอย่างมาก มำให้ผู้เล่นไม่ต้องใช้แรงเยอะ นอดจากนี้ บริเวณชั้นไม้บนสุดยังเป็นหน้าไม้ Hinoki ที่จะช่วยในเรื่องการคอลโทรลลูก และการสปิน ถึงแม้ตัวไม้จะแรงมากก็ตาม เรียกได้ครบครันในเรื่องของการบุกอย่างปฏิเสธไม่ได้เลย

ประเภท	ไม้ปิงปองประกอบ
วัสดุ	ไม้ธรรมชาติ 5 ชั้น + Cylon Fiber 2 ชั้น + Soft Carbon 2 ชั้น
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	CS
เหมาะกับสไตล์	OFF+

---

ไม้ปิงปอง DR.NEUBAUER รุ่น BARRICADE DEF

หากพูดถึงไม้สายรับดีๆสักหนึ่งไม้ หนึ่งในไม้ที่จะลืมนึกถึงไปไม่ได้เลยคือไม้รุ่นนี้อย่างแน่นอน ด้วยความที่ออกแบบให้ตัวไม้ช่วยในเรื่องการสัมผัสของลูกกับไม้ ทำให้สามารถควบคุมลูกคอลโทรลได้อย่างเพอร์เฟค รวมไปถึงความยอดเยี่ยมในการสร้างแรงหมุนและแรงสปิน ซึ่งทั้งหมดที่กล่าวมานั้นคือคุณสมบัติสำคัญในการเล่นเกมส์รับ หากคุณมีความต้องการเป็นผู้เล่นสายรับมือโปร ไม้แบรนด์นี้ถือว่าสามารถตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน

ประเภท	ไม้ประกอบ
วัสดุ	ไม้ธรรมชาติ 7 ชั้น
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	FL
เหมาะกับสไตล์	DEF

---

ไม้ปิงปอง YINHE J-1 AYOUS

เป็นไม้ที่ออกแบบมาให้สำหรับผู้เล่นที่นิยมด้ามจับสไตล์ JS โดยเฉพาะเลยก็ว่าได้ ด้วยการออกแบบรูปทรงให้เหมาะแก่การจับแบบปากกา และตัววัสดุที่ใช้ คือไม้ AYOUS ชั้นเดียว จึงทำให้ผู้ใช้จะรู้สึกนุ่มนวลมากเวลาลูกปิงปองมาสัมผัสกับหน้าไม้ ด้วยคุณสมับติที่กล่าวมา จึงทำให้ไม้นี้โดดเด่นด้านการคอลโทรลลูกได้ดีเยี่ยม เหมาะแก่ผู้เล่นสไตล์กึ่งบุกกึ่งรับเป็นอย่างมาก

ประเภท	ไม้ประกอบ
วัสดุ	ไม้ธรรมชาติ 1 ชั้น
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	JS
เหมาะกับสไตล์	ALL

---

ไม้ปิงปอง GRAND SPORT รุ่น SPIDER

เป็นไม้ที่มีมาตรฐานที่ดี เหมาะแก่คนที่กำลังหัดเล่น เนื่องจากมีราคาที่ไม่สูงนักแต่อัดแน่นด้วยคุณภาพที่ได้มาตรฐาน ตัวไม้สามารถควบคุมความเร็วและทิศทางของลูกได้ง่าย จึงเหมาะแก่การนำมาฝึกพื้นฐานของผู้เล่นมือใหม่

ประเภท	ไม้สำเร็จรูป
วัสดุ	ไม่ระบุ
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	จับแบบสากล
เหมาะกับสไตล์	ไม่ระบุ

---

ไม้ปิงปอง GRAND SPORT รุ่น Matrix

ด้วยด้ามจับที่เป็นไม้วีเนียร์ซึ่งมีความคงทนแข็งแรง บวกกับความโค้งเว้าของหน้าไม้ซึ่งช่วยในการควบคุมทิศทางของลูกได้ง่ายขึ้น จึงทำให้เป็นอีกหนุ่งไม้ที่เหมาะแก่ผู้เล่นมือใหม่ที่มีความสนใจในการเล่นปิงปอง

ประเภท	ไม้สำเร็จรูป
วัสดุ	ไม่ระบุ
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	จับแบบสากล
เหมาะกับสไตล์	ไม่ระบุ

---

ไม้ปิงปอง BUTTERFLY รุ่น Addoy 3000 ซีรี่ย์

ใครที่กำลังหาไม้เพื่อเริ่มต้นในการเล่น ไม่รุ่นนี้ถือว่าตอบโจทย์คุณได้อย่างแน่นอน เนื่องจากในชั้นฟองน้ำของไม้รุ่นนี้มีความบาง ทำให้ผู้ใช้สามารถควบคุมลูกปิงปองได้ง่ายขึ้น ซึ่งเป็นคุณสมบัติที่เหมาะกับมือใหม่หัดเล่นเป็นอย่างมาก

ประเภท	ไม้สำเร็จรูป
วัสดุ	ไม่ระบุ
ยาง	ADDOY Red และ ADDOY Black
รูปแบบด้ามจับ	จับแบบสากล
เหมาะกับสไตล์	ไม่ระบุ

---

ไม้ปิงปอง BUTTERFLY รุ่น Stayer 3000

ในวงการกีฬาปิงปองนั้น BUTTERFLY ถือเป็นหนึ่งในแบรนด์ที่ได้รับการยอมรับมาตรฐานจากสากลทั่วโลก ซึ่งไม้นี้ก็เป็นหนึ่งในผลงานการผลิตของแบรนด์นี้ ซึ่งตัวยางของไม้นี้นั้นคือ Pan Asia ซึ่งตัวยางนี้จะช่วยในเรื่องการหมุนและความเร็วของลูกปิงปอง จึงเหมาะแก่การนำมาใช้กับผู้เล่นมือใหม่รวมไปถึงผู้ที่ต้องการฝึกพื้นฐานเพื่อพัฒนาฝีมือตัวเอง

ประเภท	ไม้สำเร็จรูป
วัสดุ	ไม่ระบุ
ยาง	Pan Asia
รูปแบบด้ามจับ	จับแบบสากล
เหมาะกับสไตล์	ไม่ระบุ

---

ไม้ปิงปอง BUTTERFLY รุ่น SENKOH 1500 (สไตล์ญี่ปุ่น)

หากคุณเป็นมือใหม่ที่มีความสนใจในการจับไม้แบบปากกา หรือ การจับไม้แบบจีนสไตล์ ไม้นี้ถือเป็นตัวเลือกที่น่าสนใจอย่างมาก เนื่องด้วย การออกแบบรูปทรงด้ามจับที่ออกแบบมา แบบ JS ควบคู่มากับยางที่ได้มาตรฐาน จากแบรนด์อย่าง BUTTERFLY บวกกับ ไม้ธรรมชาติ 1 ชั้น ทำให้เป็นไม้ที่การเด้งในระดับปานกลาง เหมาะแก่การคอลโทรลลูกในโต๊ะ ด้วยเหตุนี้ผู้เล่นมือใหม่ที่สนใจการตีสไตล์นี้จึงไม่ควรพลาด

ประเภท	ไม้สำเร็จรูป
วัสดุ	ไม้ธรรมชาติ 1 ชั้น
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	JS
เหมาะกับสไตล์	ไม่ระบุ

---

ไม้ปิงปอง SANWEI ไม้ปิงปองกึ่งสำเร็จรูป รุ่น Wooden 40+

สำหรับนักปิงปองมือใหม่ที่มีทักษะแล้ว และต้องการยกระดับการตี แต่กลัวจะควบคุมไม้ประกอบไม่ได้ ไม้ปิงปองรุ่นนี้เป็นไม้ที่ถูกออกแบบมากึ่งสำเร็จรูป ถึงแม้จะมียางประกบติกมาทั้ง 2 ด้านของไม้ แต่สามารถถอดเปลี่ยนได้ ตรงจุดนี้ทำให้ไม้รุ่นนี้แตกต่างจากไม้สำเร็จรูปทั่วไป และด้วย ไม้ธรรมชาติ 5 ชั้น ทำให้ไม้รุ่นนี้ เด้งดี อีกทั้งยังมีคุณสมบัติในการคอลโทรลลูกที่ดี ช่วยให้ยกระดับการตีปิงปองให้เข้มข้นข้นและทรงพลังขึ้นอีกด้วย

ประเภท	ไม้สำเร็จรูป
วัสดุ	ไม้ธรรมชาติ 5 ชั้น
ยาง	ไม่ระบุ
รูปแบบด้ามจับ	FL
เหมาะกับสไตล์	ALL

วิธีการเก็บรักษาไม้ปิงปอง

เป็นอย่างไรกันบ้างคะกับไม้ปิงปองที่เราได้แนะนำไป จะเห็นได้ว่ามีอยู่หลายรูปแบบเลยทีเดียว ซึ่งแต่ละแบบก็จะเหมาะกับคนที่ชอบเล่นสไตล์นั้นๆ สิ่งที่สำคัญที่สุดเลยก็คือ เลือกให้เหมาะกับสไตล์การเล่นของเรา และเราจับได้ถนัดมือมากที่สุด หากเลือกได้แล้วการเล่นปิงปองของคุณก็ไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไป