กอล์ฟเป็นกีฬาอันดับต้นที่หลายคนใฝ่ฝันที่อยากจะเป็นนักกอล์ฟมืออาชีพ พ่อแม่หลายคนก็สนับสนุนให้ลูกหลานได้เรียนกีฬากอล์ฟมากขึ้น แต่การเป็นนักกอล์ฟที่ได้เปรียบนั้นคงขาดอุปกรณ์หลักไม่ได้นั่นคือถุงกอล์ฟที่บรรจุไม้กอล์ฟคู่หูไปยังแฟร์เวย์ กรีนสีเขียว 18 หลุมบนสนามกอล์ฟ ซึ่งในปัจจุบันไม้กอล์ฟได้ถูกพัฒนามาหลากหลาย และไม้กอล์ฟในแต่ละแบรนด์ก็เหมาะสมกับผู้เล่นหลากหลายสรีระ ไม่ว่าจะเป็นการจัดระเบียบร่างกาย วงสวิง การจับไม้กอล์ฟ แรงส่งจากการหวดไม้ ทุกอย่างล้วนเป็นองค์ประกอบสำคัญในการเลือกไม้กอล์ฟคู่ใจสำหรับการตีกอล์ฟ ไม่ว่าคุณจะเล่นเพื่อเป็นกีฬาอาชีพ เล่นเพื่อธุรกิจ ไม้กอล์ฟถือว่าเป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้โดยเฉพาะหัวไม้หนึ่งหรือ Driver Golf สำหรับเริ่มต้นหรือเรียกว่า T-Off
สารบัญ
1. Taylormade SIM 2 MAX
Driver ของ Taylormade รุ่นนี้ถูกพัฒนาขึ้นมาจากรุ่นก่อนและเป็นรุ่นที่ได้รับความนิยมสูง ซึ่งเป็นการพัฒนาจากเทคโนโลยี V Steel Sole Design ทำให้การสวิงราบรื่น ผ่านง่ายบนทุกพื้นผิวของกรีน ช่วยลดแรงเสียดทาน ปรับแต่งรูปทรงเพื่อให้ได้จุดศูนย์ถ่วงที่เหมาะสม
จุดเด่นของ Taylormade SIM 2 MAX
- New V Steel Design ช่วยลดแรงเสียดทานระหว่างผิว เพื่อให้วงสวิงผ่านง่าย
- V Steel Design ช่วยปรับจุดศูนย์ถ่วงเพื่อให้การตีลูกลอยได้ง่ายขึ้น ลดความผิดพลาดมากขึ้น
- หน้าไม้ทำจากเหล็กกล้า C300 ที่มีความเข็งแรงสูง
- ร่องสปีดหลังหน้าไม้ ทำให้เกิดการ speed บอลได้มากขึ้น
สเปกสินค้าของ Taylormade SIM 2 MAX
เหมาะสำหรับ | นักกอล์ฟที่ต้องเพิ่มระยะและไฟลท์บอลระดับกลางถึงสูง |
---|---|
องศา | 3 (15 องศา) และ 5 (18 องศา) |
ตัวก้าน | Fujikura Ventus Blue, Mitsubishi Tensei Blue |
2. Bridgestone Tour B JGR
Driver รุ่นนี้เหมาะสำหรับนักกอล์ฟที่มีความเร็วของหัวไม้ปานกลาง และต้องการเพิ่มระยะในการตีให้ไกลขึ้น วิถีของลูกสูง ลดการตีแบบสไลด์เพราะพัฒนามาจากเทคโนลียีรุ่นใหม่ Boost Power Technology ที่จะทำให้นักกอล์ฟตีได้ระยะไกลที่สุดอย่างมีประสิทธิภาพ
จุดเด่นของ Bridgestone Tour B JGR
- พัฒนาจากเทคโนโลยี Boost Power Design เสริมความโค้งของบริเวณหัวไม้ ทำให้วิถีลูกโด่ง
- เหมาะกับนักกอล์ฟที่มีความเร็วหัวไม้ปานกลาง ถึง สูง
- ด้วยเทคโนโลยี Boost Wave Crown สร้างส่วนโค้งบนหัวไม้ให้มีโค้งมากว่า driver ทั่วไป จึงช่วยเสริมประสิทธิภาพในการตีเพื่อให้ได้ระยะไกลมากขึ้น
สเปกสินค้าของ Bridgestone Tour B JGR
เหมาะสำหรับ | นักกอล์ฟที่ต้องเพิ่มระยะให้ไกลมากขึ้น |
---|---|
องศา | – |
ตัวก้าน | Original TG-5 Shaft |
3. Callaway Epic Flash
Driver รุ่นนี้พัฒนาจากเทคโนโลยี Flash Face เป็นการพัฒนาในส่วนของหน้าไม้ ทำให้เวลาตีไม่รู้สึกถึงการยุบตัวหรือดีดตัวของหน้าไม้ อีกทั้งยังทำให้ลูกออกจากหน้าไม้ได้ระยะไกลอย่างเต็มที่ ลดความผิดพลาด ลดการเลี้ยวของลูก ไม่ว่าจะเป็นการตีพลาดในรูปแบบไหนก็ตาม อีกทั้งยังสร้างระยะบนแฟร์เวย์ให้มากยิ่งขึ้นอีกด้วย
จุดเด่นของ Callaway Epic Flash
- ลดความรู้สึกของการยุบตัวหรือดีดตัวของหน้าไม้ในระหว่างตี
- เพิ่มระยะบนแฟร์เวย์ให้ไกลมากขึ้น
- ด้วยเทคโนโลยีของ Jailbreak ได้พัฒนาให้รูปทรงเว้าตรงกลางคล้ายทรงนาฬิกาทราย ทำให้น้ำหนักเบา
สเปกสินค้าของ Callaway Epic Flash
เหมาะสำหรับ | นักกอล์ฟที่ต้องเพิ่มระยะให้ไกลมากขึ้นและต้องการให้ลูกพุ่งไกล |
---|---|
องศา | – |
ตัวก้าน | Original TG-5 Shaft |
4. Inesis Driver
Driver เหมาะมากสำหรับผู้ที่ถนัดขวาและออกแบบมาเพื่อให้การเริ่มต้นเกมส์นั้นได้ระยะไกลตั้งแต่แท่น T-Off ด้วยดีไซน์หน้าไม้ที่เปิดกว้างมากขึ้นจึงทำให้ลูกลอยได้ไกลกว่าเดิม การควบคุมวงสวิงทำได้ง่ายขึ้นตามต้องการ และช่วยให้วางตำแหน่งของมือได้ง่ายขึ้นด้วยดีไซน์ลาย 3 แถวบนกริป
จุดเด่นของ Inesis Driver
- เหมาะสำหรับผู้ที่ถนัดขวา
- ทำให้นักกอล์ฟควบคุมวงสวิงได้ง่ายขึ้น
- ทำให้ลูกลอยได้ไกลด้วยดีไซน์หน้าไม้ที่เปิดกว้างมากขึ้นกว่ารุ่นก่อน
สเปกสินค้าของ Inesis Driver
เหมาะสำหรับ | สำหรับนักกอล์ฟที่ถนัดขวาและต้องเพิ่มระยะให้ไกลมากขึ้น |
---|---|
องศา | 14 องศา |
ตัวก้าน | แกรไฟต์ |
5. Driver Golf Exceed
Driver Exceed รุ่น Prime Royal Black ที่มีขนาดหัวไม้ 470 CCCOR 0.88 หน้าเด้งและตีได้ระยะไกลเต็มเปี่ยมเพิ่มขึ้นถึง 30 หลา ทำจากวัสดุเกรดพรีเมี่ยม หน้าไม้ออกแบบมาให้ด้านหลังยืดออกมาเพื่อให้ตีง่ายด้วย HIGH M.O.I น้ำหนักของวงสวิงประมาณ D3
จุดเด่นของ Driver Golf Exceed
- ก้านทำจากกราไฟต์ 100%
- หน้าไม้ HIGH C.O.R. ทำให้ตีได้ระยะไกลเพิ่ม 30 หลา
- Line Angle 60
สเปกสินค้าของ Driver Golf Exceed
เหมาะสำหรับ | สำหรับนักกอล์ฟที่ต้องการเพิ่มระยะในการตีระดับสูงสุด |
---|---|
องศา | – |
ตัวก้าน | แกรไฟต์ |
การเลือกไม้กอล์ฟ ผู้เล่นต้องเลือกไม้กอล์ฟให้เหมาะสมกับตัวเอง สังเกตวงสวิงของตัวเอง การจับกริป และ ระยะการตีอยู่ในระดับไกลกี่หลา สิ่งเหล่านี้จะเป็นส่วนประกอบในการตัดสินใจเลือกซื้อไม้กอล์ฟเพราะไม้กอล์ฟจะอยู่กับเราไปจนเราเล่นจบเกมส์ที่ 18 หลุมบนกรีนมาตรฐาน สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการเลือกไม้กอล์ฟคือ วัสดุที่ใช้ทำไม้กอล์ฟทำจากไทเทเนียม แกรไฟต์ หรือ คาร์บนไฟเบอร์เพราะวัสดุยิ่งเบาก็จะทำให้ระยะในการหวดลูกออกไปได้ไกลเท่านั้น องศาของหน้าไม้ก็เป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้เป้าหมายในการตีได้ระยะใกล้ไกลตามที่ต้องการ