Img by pantip.com
งานแต่งงานเป็นงานที่จะเริ่มต้นการใช้ชีวิตร่วมกันของบ่าวสาวที่ถูกต้องตามจารีตประเพณี เป็นงานที่สำคัญงานหนึ่งในชีวิตของบ่าวสาว ซึ่งบ่าวสาวต้องการให้งานออกมาดีที่สุดและเป็นงานที่น่าจดจำและประทับใจของทั้งคู่ โดยจะต้องมีการวางแผนการแต่งงานล่วงหน้าที่ดีเพื่อให้งานออกมาสมบูรณ์ บ่าวสาวหลายๆท่านอาจจะยังไม่รู้ว่าต้องเตรียมงานอะไรบ้าง ซึ่งมีหลายสิ่งที่ต้องทราบและวางแผนไว้ก็คือ งานแต่งงานแบบประหยัดควรคำนึงถึงอะไรบ้าง,การวางแผนการแต่งงานมีขั้นตอนอย่างไร,งานเช้า,งานเย็น ,และรูปแบบการจัดงานเลี้ยงงานเช้า-เย็น เราลองมาดูกันเลยค่ะว่าจะต้องเริ่มจากอะไรบ้าง เพื่อจะได้เป็นแนวทางที่เป็นประโยชน์กับบ่าวสาวค่ะ
สารบัญ
งานแต่งงานแบบประหยัด
Img by bestweddinginspiration
เรื่องการเงินเป็นเรื่องที่สำคัญสำหรับทุกๆคน งบประมาณในการจัดงานเป็นสิ่งสำคัญอันดับต้นๆในการจัดงานแต่งงาน ซึ่งบางคู่อาจจะไม่ต้องการเสียเงินเยอะในงานแต่งงานและอยากจะนำค่าใช่จ่ายส่วนนี้ไปเป็นค่าใช้จ่ายในอนาคตมากกว่า ซึ่งสภาพเศรษฐกิจในปัจจุบันทำให้ต้องคำนึงถึงเรื่องความประหยัดกันมากขึ้นด้วย ซึ่งงานแต่งงานแบบประหยัดสามารถทำได้ดังนี้
- ควรกำหนดงบประมาณให้ชัดเจนและlistรายจ่ายให้ครบถ้วน
- สามารถจัดงานแต่งที่บ้าน โดยสามารถจัดงานเล็กๆ ที่เรียบง่าย อบอุ่นและมีสไตล์ที่เหมาะกับบ่าวสาว อาจจัดที่หอประชุมหรือตามสถานที่ต่างๆซึ่งไม่แพงมาก
- สามารถจัดขันหมากแบบพอเพียงให้เหมาะกับกำลังทรัพย์หรือสามารถหาwedding planner ซึ่งจัดแพคเกจที่อยู่ในงบประมาณของบ่าวสาว
- สามารถเลือกจัดงานแบบบุฟเฟ่ แทนการจัดแบบโต๊ะจีน ซึ่งมีค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
- สามารถเลือกของชำร่วยแบบD.I.Y
- สามารถเลือกดอกไม้ตามฤดูกาลหรือใช้ดอกไม้ปลอมแทนดอกไม้จริง เพราะจะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้
- สามารถเลือกสถานที่ถ่ายพรีเวดดิ้งเป็นแบบธรรมชาติได้ เช่น ริมทะเล หรือตามพระราชวังต่างๆเพราะถ้าใช้บริการของสตูดิโอถ่ายภาพอาจมีราคาสูงกว่า
- สามารถส่งe -card แทนการ์ดได้หรือออกแบบการ์ดแต่งงานเอง
- เลือกเบียร์และไวน์แทนเครื่องดื่มค็อกเทลและเหล้า เพราะประหยัดค่ามิกเซอร์และค่าน้ำแข็ง
- สามารถเช่าชุดแต่งงาน หรือหาชุดแต่งงานมือสองแทนการตัดชุดใหม่ เพราะจะใส่แค่ครั้งเดียว อาจจะไม่คุ้มค่า
วางแผนงานแต่งงาน
การวางแผนงานแต่งงานเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งบ่าวสาวควรจะวางแผนไว้ล่วงหน้าเพื่อให้รายละเอียดของการจัดงานครบถ้วน และงานออกมาสมบูรณ์แบบ โดยควรจะเริ่มจาก
- หาฤกษ์แต่งงาน
เป็นสิ่งสำคัญเพราะถือว่าเป็นวันมงคลและเหมาะสมของบ่าวสาวที่จะส่งผลดีต่อทั้งคู่ที่จะเริ่มต้นใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน และบ่าวสาวจะได้รู้คร่าวๆด้วยว่า จะมีเวลาในการเตรียมงานมากน้อยเพียงใด - กำหนดรูปแบบของพิธีการ
ว่าจะจัดงานพิธีแบบไทย,พิธีแบบจีน ,พิธีแบบคริสต์ - เลือกรูปแบบงานจัดเลี้ยง
ควรเลือกให้เหมาะสมว่าจะจัดงานเลี้ยงแบบใด ให้เหมาะสมกับจำนวนแขกที่จะมาในงาน โดยแขกที่ต้องคำนึงถึงคือแขกผู้ใหญ่ต้องดูว่ามีแขกผู้ใหญ่มากน้อยเพียงใด และแขกของบ่าวสาวด้วย ว่าควรจะจัดแบบโต๊ะจีน,แบบบุฟเฟ่,แบบค็อกเทล เป็นต้น - รวบรวมรายชื่อของแขกของทั้งบ่าวสาว
ซึ่งแขกผู้ใหญ่ถือเป็นบุคคลสำคัญของงาน รวมทั้งเพื่อนที่เรียนและเพื่อนที่ทำงานของทั้งบ่าวสาวด้วย - เตรียมการ์ดแต่งงาน ของรับไหว้ และของชำร่วย
ซึ่งต้องสัมพันธ์กับจำนวนแขกที่จะมาร่วมงาน - หาWedding Planner ,ช่างภาพ,ช่างแต่งหน้า
ควรจะต้องจองล่วงหน้าเพราะช่างอาจติดงานคนอื่นได้ - ถ่ายรูปพรีเวดดิ้ง
สามารถเดินเข้าร้านสตูดิโอโดยเลือกแพคเกจที่ต้องการของบ่าวสาวซึ่งจะมีให้เลือกมากมายตามความต้องการ - หาชุดแต่งงาน, รองเท้าและเครื่องประดับต่างๆ
ซึ่งในปัจจุบันมีร้านพรีเวดดิ้งมากมายให้ใช้บริการ สามารถเช่าหรือตัดได้ตามความเหมาะสม
งานแต่งเช้า
Img by www.wethewedding.com
ในพิธีช่วงเช้าจะเป็นพิธีที่สำคัญ โดยจัดตามธรรมเนียมที่ยึดถือปฏิบัติตามกันมาจากประเพณีของคนในท้องถิ่น หรือสามารถปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยได้ ซึ่งจะเป็นงานที่มีญาติผู้ใหญ่และคนสนิทมาร่วมงาน โดยมีลำดับขั้นตอนในการจัดงานเช้าโดยเริ่มจาก
- พิธีสงฆ์ เพื่อเริ่มต้นความเป็นสิริมงคลให้กับคู่บ่าวสาว
การตั้งขบวนขันหมาก ซึ่งขบวนขันหมากจะเป็นทางเจ้าบ่าวเป็นฝ่ายเตรียมมา - พิธีกั้นประตู เมื่อฝ่ายเจ้าบ่าวมาถึงบ้านเจ้าสาวแล้วนั้น ญาติๆของฝ่ายเจ้าสาวจะมากั้นประตูเงิน ประตูทอง ทางฝ่ายเจ้าบ่าวต้องนำเงินใส่ซองยื่นให้กับผู้กั้นประตู ถึงจะผ่านด่านมาเจอกับเจ้าสาวได้
- พิธีสู่ขอและพิธีนับสินสอด ซึ่งจะต้องประกอบไปด้วยญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายในพิธี โดยญาติผู้ใหญ่ฝ่ายเจ้าบ่าวจะทำการสู่ขอเจ้าสาว เมื่อตกลงกันเรียบร้อย ก็จะมีการมอบสินสอดให้กับฝ่ายเจ้าสาว โดยทางญาติฝ่ายเจ้าสาวจะทำทีเป็นนับสินสอดตามธรรมเนียม ซึ่งจัดวางบนผ้าแดง หลังจากนั้นแม่เจ้าสาวจะทำท่าแบกสินสอดที่ห่อด้วยผ้าไว้บนบ่า
- พิธีสวมแหวนหมั้น ฝ่ายเจ้าบ่าวจะสวมแหวนหมั้นให้กับเจ้าสาวตามฤกษ์มงคล และฝ่ายเจ้าสาวจะสวมแหวนมอบกลับให้ฝ่ายเจ้าบ่าว
- พิธีหลั่งน้ำพระพุทธมนต์และประสาทพร ซึ่งประธานในพิธีจะสวมมงคลแฝดให้กับคู่บ่าวสาว พร้อมทั้งเจิมหน้าผาก และเชิญแขกผู้ใหญ่รดน้ำสังข์ตามลำดับอาวุโส
- พิธีรับไหว้ เป็นพิธีที่ไหว้ผู้ใหญ่ ซึ่งผู้ใหญ่จะให้ศีลให้พรและใส่ของมีค่าลงพานที่บ่าวสาวนำมาไหว้
- พิธีส่งตัวเข้าหอ พ่อแม่ฝ่ายเจ้าสาวจะเป็นคนพาเจ้าสาวมาให้เจ้าบ่าวและฝากฝังให้เจ้าบ่าวดูแล พร้อมทั้งให้โอวาทในการครองเรือน
- พิธีร่วมเรียงเคียงหมอน พ่อแม่จะเชิญผู้ใหญ่คู่สามีภรรยา ที่มีชีวิตครอบครัวที่สมบูรณ์ไม่ทะเลาะเบาะแว้งกัน มาปูที่นอนให้คู่บ่าวสาวเพื่อถือเคล็ดให้ทั้งคู่มีชีวิตคู่ที่ราบรื่นตลอดไป
งานแต่ง ช่วงเย็น
Img by www.sabuywedding.com
ในงานเย็นจะเป็นงานเลี้ยงที่เป็นช่วงเวลาให้ญาติและเพื่อนๆได้มารวมตัวกันเพื่อแสดงความยินดีกับคู่บ่าวสาว ซึ่งงานเลี้ยงช่วงเย็นจะไม่เป็นทางการเหมือนกับงานช่วงเช้า แต่จะมีลำดับของงานเป็นขั้นตอน คือ
- พิธีกร กล่าวต้อนรับแขกที่มาร่วมงานและเชิญบ่าวสาวขึ้นเวที อาจจะมีpresentationสั้นๆของคู่บ่าวสาว และเปิดตัวทั้งคู่ขึ้นเวที
- พิธีกรจะเชิญประธานในพิธีให้เกียรติคล้องพวงมาลัยให้คู่บ่าวสาว และกล่าวคำอวยพร และนำดื่มให้กับคู่ของบ่าวสาว
- สัมภาษณ์คู่บ่าวสาวและขอบคุณแขก พิธีกรจะถามประวัติคร่าวๆของบ่าวสาวและความประทับใจของทั้งบ่าวสาวที่มีต่อกัน จากนั้นบ่าวสาวกล่าวขอบคุณแขกที่มาร่วมงาน
- จุดเทียนและตัดเค้ก บ่าวสาวเริ่มจากจุดเทียน หลังจากตัดเค้กแล้วนำไปให้ท่านประธานในพิธี และญาติผู้ใหญ่ของทั้งสองฝ่ายตามลำดับ
- พิธีโยนดอกไม้ของเจ้าสาว ซึ่งเชื่อกันว่าผู้ที่ได้รับช่อดอกไม้จากเจ้าสาวนั้นจะได้แต่งงานเป็นคู่ต่อไป
- อาฟเตอร์ปาร์ตี้ จะเป็นงานเลี้ยงที่สนุกสนานของบ่าวสาวกับเพื่อนๆ
รูปแบบการจัดเลี้ยงงานเช้า
Img by www.sabuywedding.com
งานหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยง
งานหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยงจะเป็นรูปแบบงานที่มีพิธีการเต็มๆตั้งแต่พิธีสงฆ์, ขบวนหมั้น, สวมแหวน ,หลั่งน้ำสังข์ ซึ่งส่วนใหญ่จะจัดที่บ้านของฝ่ายหญิง หรือไม่ก็จัดตามสถานที่ที่สะดวกของทั้งสองฝ่าย หลังจากจัดพิธีช่วงเช้าเสร็จ ก็สามารถจัดงานเลี้ยงต่อได้ทันที
ข้อดีของงานหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยง
- ประหยัดเวลา สะดวกและไม่เหนื่อยมากทั้งบ่าวสาวและแขกผู้ใหญ่
- เหมาะสำหรับบ่าวสาวที่มีญาติผู้ใหญ่เยอะ เพราะจัดงานเลี้ยงเสร็จก็จะได้พักกัน
- รูปแบบงานจะสบายๆเป็นกันเอง เพราะส่วนใหญ่จะเป็นแขกที่ใกล้ชิดของทั้งคู่
- ช่วยเซฟงบประมาณทั้งค่าแต่งหน้า ค่าช่างภาพและค่าใช้จ่าย
ข้อเสียของงานหมั้นเช้าเลี้ยงเที่ยง
- บ่าวสาวจะไม่ค่อยมีเวลาเปลี่ยนชุด เนื่องจากเสร็จพิธีต้องรีบๆทำตามฤกษ์ให้ทัน
- ไม่ค่อยมีเวลาเก็บภาพบรรยากาศหรือถ่ายรูปชิลล์ๆกับเพื่อนๆหรือญาติๆ
- งานอาจมีขั้นตอนบางอย่างที่รีบเร่ง
งานหมั้นเช้าเลี้ยงเย็น
เป็นรูปแบบงานที่จะจัดพิธีหมั้นในช่วงเช้า ซึ่งจะเป็นงานพิธีสงฆ์, หมั้น, รดน้ำสังข์ในช่วงเช้า และหลังจากเสร็จพิธี บ่าวสาวสามารถมีเวลาพักและเตรียมงานในช่วงเย็นต่อ
ข้อดีของงานหมั้นเช้าเลี้ยงเย็น
- เหมาะสำหรับบ่าวสาวที่มีแขกมาร่วมงานเป็นจำนวนมาก และมีเวลาต้อนรับแขกได้อย่างเต็มที่
- มีเวลาถ่ายรูปในช่วงเช้าและช่วงเย็นโดยไม่ต้องรีบ
- เหมาะสำหรับแขกหรือเพื่อนๆ จะมีเวลาเตรียมตัวและแต่งชุดสวยๆมางานในตอนเย็น
- สามารถนำpresentation ในช่วงเช้ามาให้แขกที่ไม่ได้ร่วมงานในตอนเช้า มาให้ดูในตอนเย็นได้
- เพื่อนๆที่ไม่ได้ร่วมงานในช่วงเช้า สามารถมาร่วมงานในตอนเย็นได้
ข้อเสียของงานหมั้นเช้าเลี้ยงเย็น
- ค่าใช้จ่ายจะถูกคิดเป็นสองรอบคือ รอบเช้า-เย็น
- แขกผู้ใหญ่และผู้สูงวัยอาจจะเดินทางไม่สะดวกเพราะงานกว่าจะเลิกก็มืดค่ำ
- บ่าวสาวต้องตื่นนอนแต่เช้าและกว่าจะจบงานก็จะลากยาวไปจนมืดค่ำ อาจทำให้เหนื่อยล้า
รูปแบบการจัดเลี้ยงงานเย็น
รูปแบบการจัดเลี้ยงงานเย็น สิ่งที่ต้องคำนึงถึงคือ แขกส่วนใหญ่เป็นแขกของผู้ใหญ่หรือแขกของบ่าวสาว และจำนวนแขกที่จะมาว่ามากน้อยเพียงใด ซึ่งรูปแบบงานจัดเลี้ยงช่วงเย็นจะมีหลายแบบ ซึ่งแต่ละแบบก็จะมีทั้งข้อดีและข้อเสีย บ่าวสาวสามารถพิจารณาเลือกตามความเหมาะสม
แบบโต๊ะจีน
Img by happywedding.in.th
จะเป็นรูปแบบงานที่เน้นแขกผู้ใหญ่ เพราะจะสะดวกสำหรับงานที่มีแขกผู้ใหญ่ร่วมงานเยอะ และสามารถกำหนดราคาและคุณภาพอาหารได้ว่าต้องการคุณภาพแบบไหน
ข้อดีของการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน
- เป็นตัวเลือกอันดับต้นๆของงานแต่งงาน
- ไม่ต้องเดินตักอาหารเอง มีคนบริการเสริฟอาหารถึงโต๊ะ
- เหมาะสำหรับงานแต่งงานที่มีผู้ใหญ่เยอะ
- เหมาะสำหรับงานที่มีแขกร่วมงานมากกว่าพันคน
- ถ้าคำนวณแขกได้อย่างแม่นยำ ถือว่าราคาเหมาะสมมากๆ
- มีความเป็นระเบียบเรียบร้อย
- ถ่ายรูปแต่งงานแล้วจะดูสวยงาม
- สามารถทักทายแขกได้อย่างถั่วถึง
ข้อเสียของการจัดเลี้ยงแบบโต๊ะจีน
- ใช้พื้นที่มากในการจัดเลี้ยง
- ถ้าแขกที่มาเกินอาจจะไม่มีโต๊ะนั่ง เพราะพื้นที่เต็มไม่สามารถจัดโต๊ะเพิ่มได้
- แขกที่มาในงานอาจจะสนใจอาหารมากกว่าการแสดงบนเวที
- แขกที่ไม่รู้จักกันแล้วนั่งด้วยกัน อาจเกิดความรู้สึกอึดอัดได้
แบบบุฟเฟ่
Img by happywedding.in.th
เป็นรูปแบบการจัดเลี้ยงที่ได้รับความนิยมมากที่สุด เป็นการจัดเลี้ยงที่เน้นรูปแบบของอาหารที่หลากหลาย
ข้อดีของการจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่
- สามารถจัดได้ทั้งในและนอกสถานที่
- เป็นตัวเลือกที่นิยมในการจัดเลี้ยง
- เลือกทานอาหารได้ตามความต้องการ
- แขกมีที่นั่งและสามารถลุกไปตักอาหารเองได้สะดวก
- สะดวกและประหยัด
- ถ้าแขกเยอะสามารถเพิ่มอาหารได้
ข้อเสียของการจัดเลี้ยงแบบบุฟเฟ่
- แขกผู้ใหญ่บางท่านอาจไม่สะดวกในการลุกไปตักอาหารเอง
- แขกที่มารับประทานอาหารช้า อาหารอาจดูไม่น่ารับประทาน
- อาจขาดความสนใจกิจกรรมบนเวที เนื่องจากสนใจการตักอาหาร
แบบค็อกเทล
Img by www.chefjowcatering.com
เป็นรูปแบบการจัดงานไม่เป็นทางการ งานจะเป็นแบบกันเอง รองรับปริมาณแขกได้เยอะ
ข้อดีของรูปแบบการจัดแบบค็อกเทล
- มีเมนูอาหารให้เลือกมากมาย
- แขกสามารถเดินพูดคุยและเดินรับประทานได้
- ไม่มีขั้นตอนพิธีการมากนัก
- แขกให้ความสนใจในกิจกรรมบนเวทีเป็นอย่างดี
ข้อเสียของการจัดเลี้ยงแบบค็อกเทล
- อาหารหมดไวหรือแขกอาจทานไม่อิ่ม
- คำนวณแต่ละหัวยาก เพราะมีความชอบอาหารและทานมากน้อยแตกต่างกัน
- ไม่เหมาะกับงานที่มีแขกผู้ใหญ่เยอะ
แบบซิตดาวน์ดินเนอร์
Img by praewwedding.com
เป็นรูปแบบการจัดเลี้ยงที่เป็นทางการและมีความหรูหรา
ข้อดีของการจัดเลี้ยงแบบซิตดาวน์ดินเนอร์
- งานเลี้ยงจะมีลำดับขั้นตอน
- แขกมีส่วนร่วมไปกับบ่าวสาวในทุกช่วงพิธี
- อาหารมีความน่ารับประทาน เพราะทำสดใหม่พร้อมเสริฟทันที
- แขกไม่ต้องเดินไปตักอาหารเอง
ข้อเสียของการจัดเลี้ยงแบบซิตดาวน์ดินเนอร์
- ค่าใช้จ่ายค่อนข้างสูง
- เหมาะกับจำนวนแขกไม่เกิน 600คน
จากบทความข้างต้นทางเราหวังว่าจะเป็นแนวทางให้กับคู่บ่าวสาว สามารถทราบรูปแบบการจัดงานแต่งงานที่ประหยัด และสามารถวางแผนการจัดงาน ทั้งงานช่วงเช้าและงานช่วงเย็น ตลอดจนงานเลี้ยงแต่งงานที่เหมาะกับความต้องการของทั้งคู่ โดยที่คำนึงถึงงบประมาณ ธีมการจัดงานให้เหมาะสมกับไลฟสไตล์ของทั้งบ่าวสาว ซึ่งการวางแผนงานแต่งที่ดีจะทำให้งานออกมาสมบูรณ์และเป็นที่ประทับใจของบ่าวสาวและแขกที่มาร่วมงานได้อย่างดี ซึ่งจะเป็นวันที่เริ่มต้นในการใช้ชีวิตคู่ของบ่าวสาวที่มีความสุขตลอดไปค่ะ