หากพูดถึงวิธีการเลือกเสื้อผ้าหรือเครื่องแต่งกายเพื่อสวมใส่ในชีวิตประจำวันแล้ว ควรเลือกให้เหมาะสมกับวัย รูปร่าง โอกาสและกาลเทศะ เพื่อช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพของผู้สวมใส่ให้ดูสง่างาม ซึ่งนอกจากการแต่งกายให้เหมาะสมกับวัย รูปร่าง โอกาสและกาลเทศะแล้ว การสวมใส่เสื้อผ้าที่สะอาด ไม่มีคราบสกปรกหรือฝุ่น เรียบร้อยไม่ยับยู้ยี้ และมีกลิ่นหอม ยังช่วยส่งเสริมบุคลิกภาพและสร้างความมั่นใจให้แก่ผู้สวมใส่ ช่วยให้มีภาพลักษณ์ที่ดี ดูมีความน่าเชื่อถือ ดังนั้น การใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มจึงเป็นอีกหนึ่งไอเทมที่ขาดไม่ได้ เพราะนอกจากจะช่วยให้ผ้านุ่มสบายและมีกลิ่นหอมแล้ว น้ำยาปรับผ้านุ่มยังช่วยให้ผ้ารีดได้เรียบและง่ายขึ้น ช่วยถนอมใยผ้าให้ผ้าเรียงตัวเป็นระเบียบไม่พันกัน ลดการเสียดสี ลดการเกิดขุย ลดการเกิดไฟฟ้าสถิต และที่สำคัญยังช่วยป้องกันการเกาะติดของฝุ่นละอองในอากาศได้อีกด้วย
สารบัญ
- น้ำยาปรับผ้านุ่ม คืออะไร?
- ทำไมต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม?
- ส่วนผสมสำคัญในน้ำยาปรับผ้านุ่ม
- ส่วนประกอบทั่วไปในน้ำยาปรับผ้านุ่ม
- วิธีเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่ม
- 12 น้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อไหน ใช้ดี หอม ติดทน
- การใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มให้ถูกวิธี
- ข้อควรระวังในการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- อาการที่แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- วิธีรักษาและการป้องกัน
น้ำยาปรับผ้านุ่ม คืออะไร?
น้ำยาปรับผ้านุ่ม เป็นผลิตภัณฑ์ช่วยถนอมเนื้อผ้า โดยผสมลงในน้ำสุดท้ายของการซัก ก่อนการนำผ้าไปบิดตาก ซึ่งน้ำยาปรับผ้านุ่มจะช่วยให้ผ้านุ่มสบายน่าสัมผัสและมีกลิ่นหอม เมื่อสวมใส่จะรู้สึกนุ่มสบาย นอกจากนี้ยังทำให้ผ้าอุ้มน้ำน้อยลง ช่วยให้ผ้าแห้งเร็วมากขึ้น ลดโอกาสการเกิดกลิ่นอับ
น้ำยาปรับผ้านุ่ม มีคุณสมบัติช่วยลดแรงตึงผิว ซึ่งเป็นผลมาจากสารเคมีในลักษณะสารประกอบโมเลกุลยาว ทำให้ความหยาบกระด้างของเส้นใยผ้าลดลง เพิ่มความเรียบลื่นและอ่อนนุ่มของเนื้อผ้า ทำให้การเสียดสีระหว่างเนื้อผ้าและผิวลดลง ช่วยลดการเกิดไฟฟ้าสถิต
น้ำยาปรับผ้านุ่ม ประกอบไปด้วย 2 ส่วน คือ ไข และ ส่วนที่ทำให้ไขละลายน้ำ โดยส่วนที่เป็นไข จะทำหน้าที่ให้ความนุ่มลื่น และเคลือบบางๆที่เนื้อผ้าเพื่อให้ต้านน้ำมากขึ้น ช่วยให้ผ้าอุ้มน้ำน้อยลง และช่วยกักเก็บหัวน้ำหอมที่ไม่ละลายน้ำทำให้ผ้ามีกลิ่นหอมและติดทนนานมากขึ้น ส่วนที่ทำให้ไขละลายน้ำ จะช่วยทำให้ไขละลายน้ำและสามารถยึดเกาะบนผ้าได้ โดยเมื่อสารในน้ำยาปรับผ้านุ่มละลายน้ำแล้วจะให้ประจุบวก ส่วนใยผ้าในน้ำทุกชนิดจะให้ประจุลบ เมื่อมาเจอกันจะทำให้เกิดการดึงดูดเข้าหากัน สารปรับผ้านุ่มจึงไปเกาะบนเนื้อผ้า และทำให้ผ้านุ่มลื่น
ทำไมต้องใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม?
ช่วยทำให้ผ้านุ่ม
น้ำยาปรับผ้านุ่มมีส่วนประกอบของไข เมื่อมาเกาะอยู่บนเนื้อผ้าจึงทำให้ผ้านุ่มลื่นขึ้น เมื่อสวมใส่จึงทำให้รู้สึกนุ่มสบาย นอกจากนี้ยังช่วยดูดซับความชื้นทำให้เส้นใยมีความชื้นมากขึ้นอีกด้วย
ลดการเกิดไฟฟ้าสถิต
เมื่อสารปรับผ้านุ่มละลายน้ำแล้วจะทำให้เกิดประจุบวก เมื่อมาเจอกับประจุลบของเนื้อผ้าในน้ำจึงเกิดการเกาะติดกัน ทำให้ปริมาณของประจุลบที่ทำให้เกิดไฟฟ้าสถิตลดลง
ช่วยเพิ่มน้ำหนักให้ผ้า
น้ำหนักจากสารปรับผ้านุ่ม ทำให้ผ้ามีน้ำหนักมากขึ้น ช่วยทำให้ผ้ามีการทิ้งตัวได้ดี
ทำให้ผ้ารีดง่าย
ผ้าที่มีไขมันและความชื้น ทำให้ผ้ามีการทิ้งตัวที่ดี ช่วยให้รีดง่ายขึ้นและผ้าไม่ยับง่าย
ทนต่อแรงเสียดสี
น้ำยาปรับผ้านุ่มมีคุณสมบัติช่วยถนอมใยผ้า ทำให้ใยผ้าเรียงตัวกันเป็นระเบียบไม่พันกันช่วยลดการเสียดสีได้
ลดโอกาสการเกิดขุยที่เนื้อผ้า
จากการที่ไขไปเกาะบนเนื้อผ้าทำให้ผ้านุ่มลื่น เมื่อสวมใส่จึงทำให้รู้สึกนุ่มสบาย รู้สึกอ่อนโยนต่อผิว การเสียดสีระหว่างเนื้อผ้าและผิวจึงลดลง ช่วยให้ผ้าไม่เป็นขุย
ช่วยให้ผ้าแห้งเร็ว
ผ้าที่ผ่านการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มจะมีความอุ้มน้ำน้อยลง ทำให้ผ้าแห้งเร็วมากขึ้นและลดโอกาสการเกิดกลิ่นอับได้
ลดการเปียกน้ำ
เมื่อไขละลายน้ำแล้ว จะไปเคลือบบางๆอยู่บนเนื้อผ้า ทำให้ผ้ามีความต้านน้ำมากขึ้น ช่วยให้ผ้าอุ้มน้ำน้อยลง
ส่วนผสมสำคัญในน้ำยาปรับผ้านุ่ม
นอนไอออนิก
เป็นสารลดแรงตึงผิวที่ไม่มีประจุ มีคุณสมบัติช่วยขจัดคราบสกปรกจำพวกไขมันได้ดี
แอมโฟเทอริก
สารลดแรงตึงผิวชนิดที่เป็นทั้งประจุบวกและประจุลบ เป็นสารที่ละลายน้ำได้ดีและแตกตัวให้ประจุบวกและประจุลบ ขึ้นอยุ่กับสภาพความเป็นกรดและด่าง มีคุณสมบัติให้ความนุ่มนวล และไม่ระคายเคือง
2ชนิดแรก มีประสิทธิภาพในการยึดติดกับเส้นใยต่ำมาก ไม่นิยมนำมาใช้ในครัวเรือนแต่นิยมในอุตสาหกรรมตกแต่งผ้า
แคตไอออนิก
เป็นสารลดแรงตึงผิวชนิดประจุบวก เมื่อละลายน้ำจะแตกตัวเป็นประจุบวก มีความสามารถในการดูดติดในเส้นใยได้ดี นิยมนำมาใช้เป็นส่วนผสมของน้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับครัวเรือน
ส่วนประกอบทั่วไปในน้ำยาปรับผ้านุ่ม
สารที่ทำให้นุ่ม
เป็นสารที่มีการกระจายตัวในตัวทำละลาย(น้ำ)ได้ดี
สารช่วยกระจายตัว
ช่วยให้ผลิตภัณฑ์มีเสถียรภาพมากขึ้น เก็บรักษาได้นานขึ้น ไม่มีการเกาะตัวและกระจายตัวได้ดี
สารช่วยให้ดูดติดเส้นใย
ช่วยทำให้สารให้ความนุ่มกับเส้นใยดูดติดกันมากขึ้น
สารกันบูด
ช่วยยับยั้งและป้องกันการเจริญเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์ ทำให้สามารถเก็บรักษาน้ำยาปรับผ้านุ่มได้นานขึ้น
สารป้องกันฟอง
ทำหน้าที่ป้องกันการเกิดฟองของสารให้ความนุ่ม เนื่องจากสารให้ความนุ่มมักเกิดฟองได้ง่าย
สารดูดความชื้น
ช่วยดูดเก็บความชื้นให้เเก่ผ้า ทำให้ผ้ามีความชุ่มชื้นนุ่มนวลและไม่หยาบกระด้าง
น้ำหอม
ช่วยทำให้ผ้ามีกลิ่นหอม และช่วยปกปิดกลิ่นอับทำให้หอม และดูสะอาด
สารสี
เป็นสารสีให้กับน้ำยาปรับผ้านุ่ม แต่ไม่เกาะติดบนเนื้อผ้าหรือทำให้สีของผ้าเปลี่ยนไป
วิธีเลือกซื้อน้ำยาปรับผ้านุ่ม
เลือกชนิดที่ช่วยลดกลิ่นอับ
ในการดำเนินชีวิตประจำวันนั้น ไม่สามารถบอกได้แน่ชัดว่าในแต่ละวันนั้นจะต้องเผชิญหน้ากับสิ่งใดบ้าง ซึ่งบ่อยครั้งก็มักจะต้องเผชิญกับสิ่งที่ไม่สามารถหลีกเลี่ยงได้ เช่น สภาพแวดล้อมหรือสภาพอากาศที่มักเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอ บ่อยครั้งที่จะต้องเผชิญกับฝุ่นละอองในอากาศ ควันจากสิ่งต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นควันจากท่อไอเสียต่างๆ ควันจากการเผาไหม้ หรือแม้กระทั่งควันจากการปรุงอาหาร ซึ่งสิ่งเหล่านี้นอกจากจะก่อให้เกิดมลพิษในอากาศแล้ว ยังก่อให้เกิดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์อีกด้วย ซึ่งกลิ่นเหล่านี้มักจะเกาะติดอยู่บนเสื้อผ้าที่เราสวมใส่ ดังนั้นการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดที่ช่วยลดกลิ่นอับจึงเป็นอีกหนึ่งตัวช่วยที่จะช่วยขจัดกลิ่นไม่พึ่งประสงค์บนเสื้อผ้า ช่วยให้ผ้ามีกลิ่นหอมสะอาดและยังช่วยให้ใยผ้ามีการระบายที่ดีขึ้น ส่งผลให้เหงื่อสามารถไหลออกจากร่างกายได้ดีเหมาะกับผู้ที่ชื่นชอบการออกกำลังกายหรือผู้ที่ต้องทำกิจกรรมกลางแจ้ง นอกจากนี้น้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดลดกลิ่นอับ ยังช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของเชื้อแบคทรีเรียที่เป็นสาเหตุของการเกิดกลิ่นเหม็นอับบนเสื้อผ้าได้อีกด้วย
เลือกชนิดที่หอมติดทนนาน
นอกจากการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มเพื่อความนุ่มฟูของเนื้อผ้าแล้ว วัตถุประสงค์อีกหนึ่งอย่างของการใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มคือการทำให้ผ้านั้นมีกลิ่นหอม ซึ่งผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของน้ำหอมอยู่แล้ว แต่ในบางยี่ห้อเมื่อผสมกับน้ำแล้วความหอมอาจถูกเจือจางทำให้กลิ่นน้ำหอมบางเบาติดอยู่บนเสื้อผ้าได้ไม่ทน ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีส่วนผสมของน้ำหอมแบบเข้มข้นเพื่อช่วยให้เสื้อผ้านั้นมีกลิ่นหอมติดทนยาวนาน ซึ่งราคาก็อาจจะเพิ่มขึ้นมากกว่าแบบทั่วไป
เลือกชนิดที่ช่วยทำให้ผ้านุ่ม
การเลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มชนิดช่วยทำให้ผ้านุ่ม เมื่อสวมใส่แล้วจะทำให้รู้สึกนุ่มสบาย ลดการเสียดสีระหว่างเนื้อผ้าและผิวทำให้ไม่เกิดการระคายเคือง
เลือกความเข้มข้นให้ตรงกับการใช้งาน
การเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มควรคำนึงถึงปริมาณผ้าที่ใช้และความถี่ในการใช้งานเพราะถ้าปริมาณผ้ามีจำนวนมาก ความเข้มข้นของน้ำยาปรับผ้านุ่มต้องมากขึ้นด้วย เพื่อให้มีกลิ่นหอมติดผ้า แต่ถ้าหากเลือกใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีความเข้มข้นมากกับปริมาณผ้าที่มีจำนวนน้อยก็อาจจะไม่คุ้มค่าเพราะประสิทธิภาพในการทำงานของน้ำยาปรับนุ่มก็จะลดลงไปด้วย
เลือกว่าจะใช้กับผ้าเด็กหรือผ้าผู้ใหญ่
น้ำยาปรับผ้านุ่มนั่นมีส่วนผสมของสารลดแรงตึงผิว ซึ่งสารชนิดนี้จะช่วยทำให้ผ้านั้นนุ่มลื่น และยังช่วยลดการเสียดสีระหว่างเนื้อผ้าและผิวได้ ทำให้เกิดการระคายเคืองน้อยลง แต่กลิ่นหอมและส่วนผสมของน้ำหอมอาจทำให้เกิดการระคายเคืองต่อผิวหนังของเด็กได้ ดังนั้นจึงควรหลีกเลี่ยงผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มที่มีส่วนผสมของน้ำหอมแบบเข้มข้น หรือควรเลือกใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มสำหรับเด็ก ที่จะมีความอ่อนโยนและปลอดภัยกับผิวของเด็กมากกว่า โดยการเลือกผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่ม สำหรับนั้นควรเลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมของธรรมชาติ ไร้สีและสารตกค้าง กลิ่นไม่ฉุนจนเกินไปและต้องผ่านการทดสอบและรับรองที่ได้มาตรฐาน
12 น้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อไหน ใช้ดี หอม ติดทน
Hygiene Expert Care Life Scent กลิ่นพีโอนี บลูม
น้ำยาปรับผ้านุ่มรุ่นนี้ ผ่านการใช้เทคโนโลยี LIFE SCENT®SERUM โดยเลือกสกัดกลิ่นหอมจากดอกไม้ที่อยู่บนต้น ทำให้ผ้ามีความหอมติดทนนาน และยังช่วยให้ผ้ามีความนุ่มฟูน่าสวมใส่อีกด้วย
กลิ่น | พีโอนี บลูม |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่ต้องการให้ผ้าหอมติดทนยาวนาน |
ปริมาณ | 1400 มิลลิลิตร |
PiPPER STANDARD Fabric Softener Natural
น้ำยาปรับผ้านุ่มยี่ห้อนี้ผลิตจากเอนไซม์ในสับปะรดและเลซิตินจากถั่วเหลือง ไม่ผสมสีสังเคราะห์และสารสารพาราเบน ทำให้ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคือง อ่อนโยนต่อทารกและเด็กรวมไปถึงผู้ที่ผิวแพ้ง่าย
กลิ่น | กลิ่นธรรมชาติ |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีผิวบอบบาง แพ้ง่ายและผู้ชอบกลิ่นหอมจากธรรมชาติ |
ปริมาณ | 750 ml. |
Hi CLASS Softener Sweet Passion
น้ำยาปรับผ้านุ่มที่นำเทคโนโลยี soft-termary มาใช้ทำให้ผ้ามีความนุ่มฟู และอ่อนโยนกับผิวเป็นพิเศษ ไร้กลิ่นอับถึงแม้จะตากในร่ม นอกจากนี้ยังช่วยให้ผ้าลีบติดตัว ทำให้ชุดพริ้วไหวอย่างเป็นธรรมชาติ เหมาะกับผู้ที่ชอบกลิ่นหอมที่มีความหรูหรา
กลิ่น | กลิ่นน้ำหอมฝรั่งเศส |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
ปริมาณ | 550 ml. |
Fresh & Soft Fabric Softener Lovely Kiss
เป็นน้ำยาปรับผ้านุ่มที่ใช้ได้กับผ้าทุกประเภท ช่วยทำให้ผ้าหอมมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี active soft fresh ที่ช่วยทำให้ผ้านุ่มขึ้น ช่วยถนอมใยผ้าด้วยค่า PH-balance และช่วยให้ลดกลิ่นอับชื้นได้อีกด้วย
กลิ่น | กลิ่นดอกไม้ |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
ปริมาณ | 600 ml. |
Fineline Elegant
กลิ่นติดหอมทนนาน เพราะมีพลังความหอมถึง 4 เท่า ช่วยถนอมใยผ้า ทำให้ผ้ารีดง่ายขึ้น นวัตกรรมที่ช่วยให้ป้าไม่ซีดและหมองคล้ำ
กลิ่น | กลิ่นดอกไม้ |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
ปริมาณ | 500 ml |
Comfort Natural Botanical Garden
มีกลิ่นหอมสกัดจากน้ำมันหอมธรรมชาติ จากใบแพทชูรี่ กุหลาบ และไอริช
กลิ่น | กลิ่นดอกไม้ |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิง |
ปริมาณ | 1400 ml. |
Downy Sunrise Fresh กลิ่นหอมสดชื่นยามเช้า
เป็นน้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้น มีกลิ่นหอมของดอกไม้และไม้นานาพรรณ ทำให้รํ้สึกสดชื่น และช่วยให้ผ้านุ่ รีดง่าย
กลิ่น | กลิ่นดอกไม้ |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
ปริมาณ | 2400 ml. |
Essence Blossom
แค่ขยับกลิ่นหอมก็จะฟุ้งกระจายตลอดทั้งวัน มีเทคโนโลยี heya yoshi ที่ช่วยลดกลิ่นอับ ปกป้องใยฟ้าจากแสงยูวี และช่วยถนอมใยผ้า
กลิ่น | กลิ่นดอกไม้ |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
ปริมาณ | 600 ml. |
Baby Mild Pink Floral
เป็นผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มที่ไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองผิว ทำให้ผ้านุ่มและหอมยาวนาน ไร้กลิ่นอับ และไม่ทำให้สีผ้าหมองคล้ำ
กลิ่น | พรีเฟียและโรสแมรี่ |
---|---|
เหมาะสำหรับ | เด็กและผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ปริมาณ | 600ml. |
Hygiene Expert Care Sunkiss Blooming
ช่วยป้องกันการสะสมของกลิ่นไม่พึงประสงค์ ช่วยขจัดกลิ่นอับชื้น เหมาะกับผู้ที่มีกลิ่นกาย
กลิ่น | ดอกพิโอนี |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
ปริมาณ | 580 ml. |
Downy Perfume Collection Passion
น้ำยาปรับผ้านุ่มสูตรเข้มข้นพิเศษ ช่วยให้ผ้าหอมนุ่มตลอดทั้งวัน เนื้อผ้านุ่มใส่สบาย ที่สำคัญไม่ก่อให้เกิดการระคายเคืองเหมาะกับผู้ที่มีผิวแพ้ง่าย
กลิ่น | แพชชั่น |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้ที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย |
ปริมาณ | 1350 ml. |
Comfort Ultra Fabric Softener Blue
ให้ความหอมยาวนาน แม้เก็บในตู้เสื้อผ้า และให้ความหอมยาวนานตลอดวัน แม้ใช้เพียงครึ่งฝา
กลิ่น | เดลี่เฟรช |
---|---|
เหมาะสำหรับ | ผู้หญิงและผู้ชาย |
ปริมาณ | 1600 ml. |
การใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- ควรเทน้ำยาปรับผ้านุ่มผสมกับน้ำก่อนแล้วจึงนำผ้าลงไปแช่ เพราะหากเทน้ำยาปรับผ้านุ่มลงบนผ้าโดยตรง จะทำให้ผ้าเกิดรอยด่าง แต่หากใช้เครื่องซักผ้าควรเทลงในช่องสำหรับใส่น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- ควรใช้น้ำยาปรับผ้ารุ่มในปริมาณที่เหมาะสมตามที่ผู้ผลิตแนะนำ เพื่อให้เกิดความเหมาะสมระหว่างปริมาณผ้า ปริมาณน้ำ และปริมาณของน้ำยาปรับผ้านุ่ม
การใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มให้ถูกวิธี
- ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำสุดท้ายของการซัก ก่อนการบิดนำไปบิดตาก โดยไม่ควรใส่น้ำยาปรับผ้านุ่มลงไปพร้อมกับผงซักฟอกหรือขณะที่มีผงซักฟอกอยู่ เพราะจะทำให้ปริมาณฟองลดลงและเข้าไปขัดขวางการทำงานของผงซักฟอก
- ไม่ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับผ้าที่เป็นเส้นใยธรรมชาติบ่อยเกินไป ควรเว้นระยะประมาณ 2-4 ครั้งต่อการซัก
- ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มให้เหมาะสมกับปริมาณผ้า
- ควรอ่านคำแนะนำและวิธีการใช้งานบนผลิตภัณฑ์ทุกครั้ง
ข้อควรระวังในการใช้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- ไม่ควรน้ำผ้าที่ใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มตากแดดแรงๆ เพราะจะทำให้ความหอมออกจากผ้าไปเรื่อยๆ
- ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มในน้ำสุดท้ายขางการซักเพื่อป้องกันไม่ให้น้ำยาปรับผ้านุ่มขัดขวางการทำงานของผงซักฟอก
- เนื่องจากน้ำยาปรับผ้านุ่ม ช่วยทำให้ผ้ามีความชื้นมากขึ้น จึงอาจก่อให้เกิดเชื้อราได้ง่ายขึ้น นอกจากนี้ความชื้นของผ้ายังทำให้ความเหนียวของผ้าลดลงอีกด้วย
- ไม่ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับผ้าเช็ดตัว เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มจะลดประสิทธิภาพการดูดซึมน้ำของผ้าขนหนูลง
- ไม่ควรใช้น้ำยาปรับผ้านุ่มกับผ้าชนิดพิเศษ เนื่องจากน้ำยาปรับผ้านุ่มเป็นสารเคมี อาจทำให้ประสิทธิภาพของผ้าชนิดพิเศษลดลงได้ เช่น ผ้าเส้นใยสังเคราะห์ เพราะจะทำให้มีสารเคมีตกค้างและกระตุ้นการเกิดแบคทรีเรียได้ หรือแม้กระทั่งชุดออกกำลังกาย เพราะจะทำให้ประสิทธิภาพในการดูดซับเหงื่อและลดความเย็นลง นอกจากนี้ยังรวมถึงเสื้อผ้าเด็ก เสื้อผ้าที่ออกแบบเพื่อป้องกันน้ำ และเสื้อทนไฟ เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มจะทำให้คุณสมบัติเหล่านี้ลดลงนั้นเอง
- ส่วนผสมของน้ำยาปรับผ้านุ่มบางยี่ห้อมีส่วนผสมของสารเคมีและไขมันจากสัตว์ในปริมาณมาก ซึ่งอาจก่อให้เกิดการอุดตันของท่อน้ำและเครื่องซักผ้าได้ นอกจากนี้ยังอาจก่อให้เกิดเชื้อราในเครื่องซักผ้าด้วย เพราะน้ำยาปรับผ้านุ่มทำให้เกิดความชื้น และในน้ำยาปรับผ้านุ่มบางยี่ห้อยังผลิตจากปิโตรเลียม ซึ่งย่อยสลายยากและเป็นพิษต่อสัตว์น้ำ
อาการที่แพ้น้ำยาปรับผ้านุ่ม
- การระคายเคืองผิวหนัง เมื่อได้สัมผัสกับผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มจะเกิดผื่นแดงและมีอาการคัน ซึ่งอาการเหล่านี้จะหายไปหลังจากหยุดใช้ผลิตภัณฑ์น้ำยาผรับผ้านุ่ม
- หากเกิดอาการแพ้และระคายเคืองผิวหนังควรหยุดใข้ผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับผ้านุ่มทันที
- ควรอ่านฉลากและคำแนะนำของผลิตภัณฑ์น้ำยาปรับนุ่มเพื่อป้องกันอาการแพ้
วิธีรักษาและการป้องกัน
- ควรเก็บน้ำยาปรับผ้านุ่มให้ห่างจากแสงแดด
- หลีกเลี่ยงการเก็บน้ำยาปรับผ้านุ่มในอุณหภูมิที่ร้อนหรือเย็นจนเกินไป ควรเก็บไว้ทในอุณหภูมิห้อง
- ไม่ควรเก็บน้ำยาปรับผ้านุ่มนานเกินไป เพราะอาจทำให้น้ำยาปรับผ้านุ่มเหนียวข้นมากขึ้น
น้ำยาปรับผ้านุ่มถือเป็นผลิตภัณฑ์ที่ประกอบไปด้วยสารเคมีชนิดนึง ดังนั้นควรศึกษารายละเอียดต่างๆ ของผลิตภัณฑ์ก่อนการเลือกซื้อและควรอ่านฉลากและคำแนะนำจากผู้ผลิตก่อนการใช้งานเพื่อความปลอดภัยในการใช้ผลิตภัณฑ์และเพื่อคนในครอบครัว