FAV – FAV A GOOD TIME –

แนะนำผลไม้หน้าร้อน 10 ชนิด พิชิตอาการกระหายน้ำ

แนะนำผลไม้หน้าร้อน 10 ชนิด พิชิตอาการกระหายน้ำ

ตอนนี้บ้านเราก็เข้าสู่ฤดูร้อนอย่างเป็นทางการแล้วนะคะ แล้วยิ่งประเทศไทยต้องเรียกว่าอากาศร้อนมากเสียด้วย ถึงจะทำให้ใครอารมณ์เสียและต้องจ่ายค่าไฟเพิ่มไปบ้าง แต่ในช่วงนี้ก็เป็นโอกาสสำคัญที่เราจะได้ทานผลไม้ตามฤดูกาล ทั้งสภาพการเจริญเติบโตและคุณประโยชน์เหมาะกับการทานในหน้าร้อนสุด ๆ ซึ่งผลไม้แต่ละชนิดจะมีข้อดีและข้อเสียอยู่ การเลือกรับประทานอย่างถูกวิธีก็เป็นสิ่งสำคัญ เราไปดูกันดีกว่าค่ะว่า ผลไม้แนะนำประจำฤดูร้อนนี้มีอะไรน่าซื้อติดตู้เย็นไว้บ้าง อย่างน้อยในช่วงอากาศร้อนก็มีข้อดีเหล่านี้นะคะ

แตงโม

เริ่มต้นซัมเมอร์ด้วยแตงโมหวาน ๆ ฉ่ำ ๆ ที่หลายคนยกให้เป็นที่หนึ่งในใจเรื่องการคลายร้อน ยิ่งหลังจากนำออกจากตู้เย็นยิ่งฟินสุด ๆ นอกจากนี้ ด้วยความเย็นสดชื่นที่ทำให้หลายคนอาจมองข้ามประโยชน์ของมันไป อย่างช่วยควบคุมระดับความดันโลหิต ไขมันต่ำ เพิ่มความชุ่มชื้นให้ผิว และลดอาการอักเสบบวมแดงค่ะ

จุดเด่นของแตงโม

  • มีน้ำตาลและแคลอรีต่ำ เหมาะกับผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก และช่วยลดระดับความดันโลหิตและการสะสมของไขมันในเส้นเลือด
  • มีวิตามินเอสูง ช่วยบำรุงสายตา
  • ช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นให้แก่ผิว ลดความมันและอาการอักเสบบวมแดง
  • ลดความเสี่ยงการเป็นโรคหัวใจและโรคมะเร็ง

ข้อเสียของแตงโม

  • มีปริมาณคาร์โบไฮเดรตมาก อาจทำให้ผู้ที่เป็นโรคลำไส้แปรปรวนมีปัญหาด้านระบบย่อยอาหาร เช่น ปวดท้อง แน่นท้อง ท้องอืด เกิดแก๊สในกระเพาะอาหาร เป็นต้น
  • ผู้ที่เป็นโรคเบาหวานควรรับประทานในปริมาณน้อย

มะม่วง

ต่อไปเป็นมะม่วง ผลไม้สุดมหัศจรรย์ที่ทานได้ทั้งสุกและดิบ เปรี้ยวและหวาน สีเขียวและเหลือง เหมาะกับผู้ชื่นชอบทานผลไม้ทุกรสชาติ หาซื้อได้ง่ายทั่วไป โดยเฉพาะในฤดูร้อน นอกจากเคี้ยวดีทานเพลินแล้ว ยังมีประโยชน์ในการช่วยรักษาสมดุลภายใน ระบบเผาผลาญ หลั่งฮอร์โมน และวิตามินสำคัญอีกหลากหลายค่ะ

จุดเด่นของมะม่วง

  • มีไฟเบอร์จำนวนมาก ช่วยให้ระบบเผาผลาญดีขึ้น และย่อยอาหารได้อย่างมีประสิทธิภาพ
  • มีสารอาหารมากมาย ได้แก่ วิตามินซี อี และเอ ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระ มีโพแทสเซียมและทองแดง ช่วยปรับสมดุลภายในร่างกาย และมีสารฟลาโวนอยด์ ช่วยป้องกันการเกิดโรคมะเร็งต่อมลูกหมากและมะเร็งผิวหนัง
  • ช่วยให้ร่างกายหลั่งฮอร์โมน และทำให้รู้สึกผ่อนคลาย นอนหลับสบาย

ข้อเสียของมะม่วง

  • หากทานมะม่วงดิบมากเกินไป อาจทำให้เกิดอาการท้องอืด
  • ผู้ป่วยเบาหวานควรหลีกเลี่ยงการทานมะม่วงสุก เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง

สับปะรด

ผลสีเหลืองมีตารอบตัว ไม่ว่าจะปีไหน ๆ ก็เป็นที่นิยมเสมอในทุกซัมเมอร์ ที่ไม่ว่าจะทานเป็นชิ้น โรยบนพิซซ่า หรือปั่นเป็นน้ำหวาน ๆ เพื่อช่วยดับกระหาย ก็ถูกใจทุกเพศทุกวัย มาพร้อมประโยชน์ในการช่วยซ่อมแซมต่อมไร้ท่อ ช่วยระบบดูดซึมและย่อยอาหาร ป้องกันโรคความดันโลหิต ไปจนถึงโรคไตอักเสบค่ะ

จุดเด่นของสับปะรด

  • ช่วยรักษาอาการอักเสบของระบบทางเดินอาหาร ช่วยป้องกันโรคไตอักเสบ และหลอดลมอักเสบ
  • ช่วยซ่อมแซมส่วนที่สึกหรอของร่างกาย และช่วยเสริมการทำงานของระบบต่อมไร้ท่อ
  • ช่วยระบบย่อยอาหาร และทำให้การดูดซึมอาหารของร่างกายดียิ่งขึ้น
  • สามารถนำมาแปรรูปได้หลากหลายประเภท และเก็บรักษาไว้ได้นาน เช่น สับปะรดกระป๋อง และสับปะรดกวน เป็นต้น

ข้อเสียของสับปะรด

  • มีสารจำพวกไกลโคแอลคาลอยด์ อาจทำให้บางคนเกิดอาการแพ้หลังรับประทาน
  • สับปะรดอาจมีรสชาติฝาด

แคนตาลูป

มากันที่ผลไม้ผิวของผลหยาบ เปลือกแข็ง เต็มไปด้วยลวดลายยุ่งเหยิง แต่ภายในเป็นผลไม้เนื้อกรอบสีส้ม มีกลิ่นหอมชวนให้ลิ้มลอง เต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินบีตั้งแต่ 1 – 9 ธาตุและสารอาหารอีกมากมาย ประโยชน์สุดโดดเด่นในการบำรุงผิวพรรณให้เปล่งปลั่งสดใส มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระ บำรุงประสาท สมอง และสายตา

จุดเด่นของแคนตาลูป

  • ช่วยบำรุงให้ผิวพรรณเปล่งปลั่งสดใส ลดการเกิดริ้วรอย ชะลอวัยให้ดูอ่อนเยาว์
  • ช่วยต่อต้านการเกิดมะเร็ง เพราะมีสารต่อต้านอนุมูลอิสระสูง
  • ช่วยเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย บำรุงประสาท สมอง และสายตา อีกทั้งยังช่วยให้รู้สึกมีสมาธิมากยิ่งขึ้น

ข้อเสียของแคนตาลูป

  • ไม่ควรทานติดต่อกันมากเกินไป เพราะในการปลูกแคนตาลูปจะมีการใช้ยาและสารเคมีในการกำจัดแมลงเป็นจำนวนมาก อาจทำให้สารพิษค่อย ๆ สะสมในร่างกาย

มะละกอ

อีกหนึ่งผลไม้ที่ทานได้ทั้งสุกและดิบ แถมยังอร่อยไม่แพ้กันอย่างมะละกอ อย่างแบบดิบก็จะมีรสชาติจืดและเนื้อกรอบ จึงถูกนำไปประกอบอาหาร ในขณะที่แบบสุกมีรสชาติหวานละมุน เนื้อนุ่ม กลิ่นหอม จึงเป็นที่นิยมของผู้สูงอายุ และประโยชน์ที่เด่นสุดคงหนีไม่พ้นเรื่องผลไม้สีส้มแดง มีวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตาค่ะ

จุดเด่นของมะละกอ

  • มะละกอสุกมีเนื้อสีเหลืองส้มออกแดง เต็มไปด้วยวิตามินเอที่ช่วยบำรุงสายตา
  • มีวิตามินซี ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
  • อุดมไปด้วยแคลเซียม ช่วยบำรุงกระดูก
  • ช่วยระบบขับถ่าย และมีสารเพคตินช่วยเคลือบกระเพาะอาหาร

ข้อเสียของมะละกอ

  • ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรรับประทานมะละกอมากเกินไป เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง

ลิ้นจี่

ผลไม้ลูกเล็ก เปลือกมีหนาม ต้องออกแรงในการแกะเปลือกเล็กน้อย แต่รสชาติหวานซ่อนเปรี้ยว มักถูกนำไปปั่นเป็นน้ำลิ้นจี่แสนชื่นใจ แถมลูกเล็ก ๆ แบบนี้ยังมีประโยชน์มากมาย นอกจากช่วยดับกระหายได้ดีแล้ว ยังอุดมไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและโปรตีนที่มีข้อดีหลายประการ โดยเฉพาะการช่วยบำรุงอวัยภายในค่ะ

จุดเด่นของลิ้นจี่

  • เต็มไปด้วยคาร์โบไฮเดรตและโปรตีน ช่วยบำรุงและซ่อมแซมอวัยวะทุกส่วนภายในร่างกาย โดยเฉพาะการทำงานของม้าม ระบบย่อยอาหาร และระบบประสาท
  • ช่วยดับกระหายได้ดีมาก และเมื่อนำมาต้มรวมกับพุทราจะบรรเทาอาการท้องร่วง
  • ช่วยบำรุงรักษาโรคโลหิตจาง

ข้อเสียของลิ้นจี่

  • ผู้ป่วยเบาหวานไม่ควรรับประทานลิ้นจี่มากเกินไป เพราะอาจทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดสูง

องุ่น

ผลไม้ลูกเล็ก ๆ เป็นพวงทานเพลินอย่างองุ่น ที่ไม่ว่าจะสีเขียวหรือสีม่วง ไร้เม็ดหรือมีหลายเมล็ดก็ตาม ก็ถือว่ามีคุณค่าทางอาหารหลากหลาย โดยเฉพาะวิตามินซี ธาตุเหล็ก และเกลือแร่ โดยผู้ที่ทานองุ่นเป็นประจำจะช่วยให้สมองและหัวใจแข็งแรงขึ้น ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ แถมยังบำรุงกำลังให้ดูสุขภาพดีขึ้นด้วยค่ะ

จุดเด่นขององุ่น

  • ให้พลังงานและเกลือแร่สูง ช่วยบำรุงเลือด และซ่อมแซมเซลล์ในร่างกาย
  • หากรับประทานเป็นประจำจะช่วยบำรุงสมอง หัวใจ และกำลัง
  • นิยมนำไปทำเหล้าองุ่น ซึ่งช่วยขับลม ขับปัสสาวะ และช่วยรักษาโรคด้านไขข้อและกระดูก

ข้อเสียขององุ่น

  • บางคนอาจมีอาการแพ้องุ่น เช่น ระคายเคืองกระเพาะอาหาร
  • หากรับประทานมากเกินไปอาจทำให้เกิดอาการท้องเสีย

เงาะ

เงาะรสหวานฉ่ำทานเพลิน เป็นผลไม้ฤทธิ์อุ่น ช่วยแก้อาการท้องร่วงได้ดีมาก แต่ที่น่าสนใจคือตัวเปลือกของมัน ที่เต็มไปด้วยขนประหลาด แต่มีประโยชน์หลายข้อค่ะ ตั้งแต่เป็นยาแก้อักเสบ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยโรคท้องบิด เห็นแบบนี้แล้ว เงาะก็เป็นอีกหนึ่งตัวเลือกที่ดีในการเป็นผลไม้หน้าร้อนของทุกคนค่ะ

จุดเด่นของเงาะ

  • การรับประทานเงาะสดช่วยรักษาโรคท้องร่วงชนิดรุนแรงได้ดี
  • เปลือกของเงาะสามารถนำมาต้มทานเป็นน้ำได้ มีประโยชน์ทางยามากมาย ได้แก่ ช่วยฆ่าเชื้อแบคทีเรีย แก้อักเสบ รักษาแผลในช่องปาก และรักษาโรคบิด โรคท้องร่วง
  • ป้องกันโรคโลหิตจางและโรคมะเร็ง

ข้อเสียของเงาะ

  • เมล็ดในของเงาะมีพิษ ทำให้เกิดอาการคลื่นไส้ อาเจียน มีไข้ และปวดท้อง จึงไม่ควรรับประทาน

ชมพู่

เรามาดูกันที่ผลไม้ที่ทานได้ทั้งลูก แถมยังเนื้อหวานกรอบอร่อย อย่างชมพู่ค่ะ ซึ่งนิยมมาก ๆ ในการทานเพื่อเป็นผลไม้ลดน้ำหนัก เพราะมีน้ำตาลน้อย ช่วยในเรื่องการขับถ่าย และลดคอเลสเตอรอลค่ะ นอกจากนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินหลายชนิด และมีสารต้านมะเร็งอีกด้วย

จุดเด่นของชมพู่

  • มีน้ำตาลและพลังงานต่ำ ช่วยระบบขับถ่าย จึงเหมาะจะรับประทานเพื่อควบคุมน้ำหนัก
  • มีสารต่อต้านอนุมูลอิสระที่ชื่อแอนโทไซยานิน ช่วยป้องกันโรคมะเร็ง
  • ลดการดูดซึมไขมันในเลือด และช่วยลดคอเลสเตอรอล
  • มีวิตามินที่ช่วยบำรุงและฟื้นฟูร่างกาย เช่น วิตามินซี วิตามินเอ และวิตามินอี

ข้อเสียของชมพู่

  • ผู้ป่วยเบาหวานควรจำกัดการรับประทาน มื้อละไม่เกิน 2 ผล

มะพร้าว

ปิดท้ายด้วยสุดยอดผลไม้แห่งชายทะเลอย่างมะพร้าว ปฏิเสธไม่ได้แน่นอนค่ะว่า น้ำมะพร้าวสด ๆ ช่วยดับกระหายได้ดีเยี่ยม ด้วยรสชาติหวาน ชุ่มคอ นอกจากนี้ ส่วนเนื้อของมะพร้าวก็ยังมีคุณค่าทางโภชนาการสูง ทั้งโปรตีน แคลเซียม โพแทสเซียม แถมส่วนอื่น ๆ ยังสามารถนำมาประกอบอาหารได้อร่อยอีกด้วยค่ะ

จุดเด่นของมะพร้าว

  • น้ำมะพร้าวมีรสหวาน หอม ช่วยดับกระหายน้ำได้ดีเยี่ยม และทำให้ชุ่มคอ
  • เป็นยาระบาย ขับปัสสาวะ รักษาอาการท้องเสียและอาเจียน
  • ยอดมะพร้าวสามารถนำมาประกอบอาหารได้หลากหลาย ส่วนจั่นมะพร้าวสามารถนำน้ำหวานไปเคี่ยวเป็นน้ำตาลมะพร้าว และเนื้อมะพร้าวแก่สามารถคั้นเป็นน้ำกะทิสดได้

ข้อเสียของมะพร้าว

  • ไม่เหมาะสำหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจและโรคไต เพราะมีน้ำตาล โปรตีน โซเดียม โพแทสเซียม ที่ผู้เป็นโรคเหล่านี้มีมากอยู่แล้ว

วิธีทานผลไม้ให้ส่งผลดีต่อร่างสุดที่สุด

ทานผลไม้ให้เพียงพอและหลากหลายชนิด

จำเป็นมากที่เราต้องทานผลไม้ให้ได้ 3 ส่วนต่อวันค่ะ เช่น ส้ม 1 ลูก กล้วย 1 ผล มะละกอ 5 – 6 ชิ้น เป็นต้น และควรทานให้หลากชนิด เพราะผลไม้แต่ละอย่างจะมีคุณสมบัติและวิตามินที่มากน้อยแตกต่างกัน ยิ่งเราทานหลายอย่าง ยิ่งได้ประโยชน์อย่างเต็มที่ค่ะ และอีกอย่างเรายังสามารถทานผลไม้เป็นของว่างระหว่างวันได้ด้วย ดีกว่าเลือกทานขนมจุกจิกด้วยค่ะ

ทานผลไม้ที่รสชาติหวานน้อย

เราควรทานผลไม้รสชาติหวานน้อยหรือหวานปานกลางเป็นหลักนะคะ เพราะผลไม้ที่หวานจัดจะเปี่ยมไปด้วยน้ำตาล และนำมาซึ่งความอ้วนและโรคต่าง ๆ ในที่สุดค่ะ ผลไม้รสหวานน้อยก็มีมากมายและยังรสชาติอร่อย อาทิ กล้วยน้ำว้า ส้มโชกุน แอปเปิล ฝรั่ง ชมพู่ มะละกอ และแก้วมังกร ฯลฯ

ทานผลไม้ตามฤดูกาล

ในช่วงฤดูกาลของผลไม้แต่ละชนิด จะทำให้บรรดาผลไม้เหล่านั้นหาง่ายขึ้น มีราคาเหมาะสม และไม่ต้องกังวลเรื่องสารเคมี เพราะเกษตรกรจะไม่เติมสารเคมีในการปลูกหรือใส่ฮอร์โมนเร่งการเติบโตใด ๆ จึงทำให้เรามั่นใจได้ว่าจะได้ของสดและปลอดภัยค่ะ

เลือกซื้อผลไม้อย่างถูกวิธี

เราต้องทราบวิธีการเลือกซื้อผลให้อย่างถูกวิธี เพื่อให้เราได้รับของที่ดีและปลอดภัยที่สุด ไม่ว่าจะเลือกซื้อตามตลาดหรือซูเปอร์มาร์เกตค่ะ ก่อนอื่นต้องเลือกซื้อผลไม้ที่จำหน่ายตามฤดูกาลนั้น ๆ และเน้นเลือกผลที่มีความสด ไม่ช้ำ ไม่มีตำหนิ เปลือกไม่ช้ำหรือดำ มีขนาดของผลสม่ำเสมอกัน หากเป็นผลไม้ที่มีก้านต้องมีก้านที่เขียวและแข็ง และสุดท้ายคือหากมีรอยแมลงกัด แสดงว่าเป็นผลไม้ปลอดสารพิษค่ะ

ล้างผลไม้อย่างถูกวิธี

สุดท้ายนี้ เมื่อเราซื้อผลไม้มาแล้ว เราต้องทำการล้างให้สะอาดก่อนรับประทานค่ะ เพราะเราไม่อาจทราบแหล่งที่มาของผลไม้เหล่านั้นว่ามีสารพิษมากมายเท่าใด โดยในการล้างจะใช้เพียงน้ำเปล่าถือว่าไม่เพียงพอแล้วนะคะ จึงควรเพิ่มการล้างด้วยวัตถุดิบอื่น โดยสามารถเลือกได้ตามสะดวก ได้แก่ น้ำยาล้างผัก น้ำด่างทับทิบ 5 เกล็ดต่อน้ำ 4 ลิตร เกลือ 2 ช้อนโต๊ะพูนต่อน้ำ 4 ลิตร ข้าวสาร 2 กิโลกรัมต่อน้ำ 4 ลิตร และน้ำส้มสายชูครึ่งถ้วยต่อน้ำ 4 ลิตรค่ะ โดยเราไม่จำเป็นต้องใช้ทุกอย่างในคราวเดียวนะคะ

ร้อน ๆ แบบนี้ เราจึงไม่ควรพลาดที่จะลิ้มลองความอร่อยของผลไม้เหล่านี้นะคะ ซึ่งขอแนะนำว่า ยิ่งทานแบบสด ๆ ยิ่งได้รับประโยชน์เต็มเปี่ยม แต่ถ้าใครสะดวกทานแบบปั่น คั้นสด หรือแปรรูปก็ไม่ว่ากันค่ะ และอย่าลืมว่า เราควรเลือกผลไม้ตามฤดูกาล เพื่อที่จะไม่ต้องแบกรับความเสี่ยงจากสารเคมี ต้องทานให้หลากหลายชนิดเพื่อประโยชน์แบบเต็ม ๆ และสุดท้ายคือเลือกซื้อจากแหล่งที่ดีอย่างถูกวิธี และต้องล้างให้สะอาดก่อนรับประทานเสมอนะคะ
สำหรับใครที่อยากดับกระหายในช่วงนี้ เรามาดูรายชื่อผลไม้และแหล่งซื้อที่น่าสนใจกันดีกว่าค่ะ

Exit mobile version