แนะนำลิปสติกยี่ห้อไหนดี สีสวย ติดทนนาน ริมฝีปากไม่แห้ง

Team FAV

4 years ago

14 ลิปสติกยี่ห้อไหนดี สีสวย ติดทนนาน ริมฝีปากไม่แห้ง

ลิปสติก นับเป็น 1 ITEM สำคัญสำหรับการแต่งหน้าของผู้หญิง ทำให้ดึงดูดความสนใจจากผู้พบเห็น ทำให้ผู้หญิงอย่างเราดูมีเสน่ห์ได้จากลิปสติก ผู้หญิงกับลิปสติกนั้นเป็นของคู่กัน มาดูประเภทการเลือกซื้อลิปสติกกัน แค่เปลี่ยนสีลิปก็เหมือนเป็นคนละคน

สารบัญ

เพราะอะไรต้องทาลิปสติก?
ประเภทของเนื้อลิปสติก
วิธีเลือกลิปสติกให้เหมาะกับตัวเอง
แนะนำลิปสติก ยี่ห้อไหนดี สีสวย ติดทนนาน
เทคนิคการทาลิปสติกให้ติดทนนาน
วิธีการเก็บรักษาลิปสติก

เพราะอะไรต้องทาลิปสติก?

ว่ากันว่า ผู้หญิงกับลิปสติกเป็นของคู่กัน จนบ่อยครั้งเรามักจะได้ยินวลีเด็ดต่างๆ อย่างเช่น “ปากไม่แดง ไม่มีแรงเดิน” และอีกหลายๆวลีที่สาวๆมักนำมาเปรียบเปรยมากมาย ซึ่งหากมองให้ลึกลงไปในความหมายของประโยคเหล่านั้น จะเข้าใจถ่องแท้ว่า ทำไมจึงกลายเป็นวลีฮิตติดปาก นั้นก็เพราะลิปสติกช่วยเพิ่มความมั่นใจให้กับสาวๆนั้นเอง ไม่ว่าจะกิจกรรมไหนๆ งานหนัก งานเบา ปากก็ห้ามซีดเด็ดขาดเลย นอกจากลิปสติกจะช่วยเพิ่มความโดดเด่นและเพิ่มความมั่นใจให้สาวๆแล้ว ลิปสติกยังช่วยเปลื่ยนลุค เปลี่ยนสไตส์ได้อีกด้วย ด้วยบรรดาเฉดสีที่มีให้เลือกมากมายของลิปสติก

ประเภทของเนื้อลิปสติก

เนื้อครีม

เนื้อลิปสติกจะมีลักษณะเป็นเนื้อครีม เม็ดสีแน่น กลบสีของริมฝีปากได้เนียนกริบ เนื้อลิปสติกเนียนนุ่ม สีลิปสติกมีความสดและชัด เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากค่อนข้างชัด นอกจากนี้ยังช่วยเพิ่มความชุ่มชื้นแก่ริมฝีปากอีกด้วย

เนื้อแมทต์

ลิปสติกเนื้อแมทต์แบ่งออกเป็น 2 ประเภท คือ

ลิควิดแมทต์ (Liquid matte)เนื้อลิปสติกจะไม่มีความมันวาว เมื่อทาแล้วจะให้ความรู้สึกแห้งตึง ไม่เหมาะกับผู้ที่มีริมฝีปากแห้ง แต่มีความติดทนมาก
เนื้อลิปกำมะหยี่ (velvet matte) เนื้อลิปสติกจะไม่มีความมันวาวเช่นเดียวกับลิควิดแมทต์ แต่จะให้ความรู้สึกแห้งตึงน้อยกว่า เนื้อลิปสติกจะมีความนุ่มมากกว่า แต่ยังให้ความติดทนอยู่

เนื้อเชียร์หรือซาติน

เนื้อลิปสติกมีความคล้ายกับลิปสติกเนื้อครีม แต่ลิปชนิดนี้จะมีผสมของน้ำมัน ทำให้มีความมันวาวมากกว่า และสีจะดูซอฟท์กว่าเนือครีม เน้นสีธรรมชาติของริมฝีปาก ให้ลุคสดใสเป็นธรรมชาติ

เนื้อชิมเมอร์

เนื้อคล้ายลิปสติกแบบครีม แต่มีประกายแวววาว ทำให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม

เนื้อกลอส

เป็นลิปสติกที่มีลักษณะเป็นเนื้อเหลวใสๆ มีสีอ่อน บางครั้งจะผสมกลิตเตอร์เพื่อเพิ่มความแวววาวเป็นประกาย ใช้ทาทับลิปสติกเพื่อให้ริมฝีปากดูอวบอิ่ม

เนื้อสเตนหรือทินน์

เนื้อลิปทินต์จะคล้ายน้ำกึ่งเจล มีสีที่ชัดเจน นิยมทาแตะๆด้านในริมฝีปาก

วิธีเลือกลิปสติกให้เหมาะกับตัวเอง

รู้จักสีผิวของตัวเอง

ผิวโทนธรรมชาติ : เส้นเลือดจะเป็นสีน้ำเงินหรือสีเขียว
ผิวโทนเหลือง : เส้นเลือดจะเป็นสีเขียวเข้ม
ผิวโทนชมพู : เส้นเลือดจะเป็นสีม่วงหรือสีน้ำเงิน

สีลิปสติกที่เหมาะกับผิวแต่ละโทน

ผิวโทนอุ่น : สีเบจ, สีน้ำตาล, สีทอง, น้ำผึ้ง, สีบรอนซ์, มอคค่า, เครื่องเทศ, ลูกพีช, สีส้ม, สีน้ำตาลแดง, สีแดงอบอุ่น, สีน้ำตาลอ่อน, ทองแดงและแอปริคอท
ผิวโทนเย็น : ชมพู, กุหลาบ, บานเย็น, ม่วง, ลาเวนเดอร์, องุ่น, เชอร์รี่, ไวน์, ม่วง, เบอร์รี่, พลัม, ม่วงและแครนเบอร์รี่

เลือกสีของลิปสติกให้เข้ากับสีผิวของตัวเอง

ผิวคล้ำ : โทนน้ำตาล โทนแดงเข้ม
ผิวสองสี : โทนแดง โทนส้ม โทนชมพูเข้ม
ผิวขาวเหลือง : โทนส้ม โทนชมพูน้ำตาล
ผิวขาว : เหมาะกับทุกโทน

อ่านฉลากลิปสติกก่อนซื้อ

ก่อนการตัดสินใจซื้อลิปสติก การอ่านฉลากเป็นสิ่งสำคัญมาก เนื่องจากในฉลากจะอธิบายถึงส่วนประกอบ ประเภทของลิปสติก วันที่ผลิต และวันที่หมดอายุไว้ชัดเจน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างถูกต้อง ทราบคุณสมบัติต่างๆ ของตัวสินค้า หรือจุดขายของสินค้าเอง และทราบคุณภาพของสินค้าได้อย่างชัดเจน

สังเกตบรรจุภัณฑ์ภายนอก

สภาพภายนอกไม่ควรมีร่องรอยการแกะ หรือฉีกขาด จะต้องมีสภาพใหม่ไม่ผ่านการใช้งาน

อ่านวันที่ผลิตและวันหมดอายุ

ควรตรวจดูวันที่ผลิตและวันที่หมดอายุให้ละเอียดก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้ได้ลิปสติกที่มีคุณภาพ ซึ่งถ้าหากลิปสติกผลิตมาหลายปีแล้วก็ไม่ควรซื้อมาใช้นะคะ เพราะคุณภาพลิปสติกอาจจะ คุณภาพลดลง

อ่านรีวิวจากผู้ใช้จริง

การศึกษาจะผู้ใช้จริงจะทำให้เห็นผลลัพธ์ที่ชัดเจน แต่อย่างไรก็ตามควรเลือกผู้ใช้ที่มีความน่าเชื่อถือด้วย